ปราณภายในและภายนอก ตอนที่ ๑

ศาสตร์ที่ว่าด้วยทำเล กำหนดว่าโลกนี้ประกอบไปด้วย 5 ธาตุ หรือที่เรียกว่าเบญจธาตุ ได้แก่ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน และทอง ปราณหรือชี่ คือ ลมหายใจของจักรวาล มีกระแสอยู่รอบ ๆ ตัวเรา มีทั้งอากาศที่เคลื่อนไหวและไม่เคลื่อนไหว โดยปราณหรือกระแสที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา กับปราณที่อยู่ภายในตัวเรา ต้องมีอะไรที่สอดคล้องและกลมกลืนกัน เราถึงอยู่อย่างสบาย อยู่แล้วเจริญ ซึ่งในปัจจุบันรวมไปถึงการทำงานด้วย คือ กระแสในที่ที่เราต้องไปทำงาน ทำงานประเภทไหน เหมาะกับสิ่งที่เราเคยชิน คุ้ยเคย ถ้าเกิดปราณทั้งหมดรวมกันเป็นหนึ่งเดียว นั่นคือความเจริญ ซึ่งจะประกอบไปด้วย ฟ้าประทาน ถ้าสภาพดินฟ้าอากาศ ทำเลที่อยู่อาศัย อาชีพที่เราประกอบการ กับสิ่งที่อยู่ภายในตัวเราสอดคล้องกันหมด ก็จะมีพลัง
สรุปแล้วคือ ถ้าหากเรามีความเข้าใจในธรรมชาติแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะสอดคล้องและทำให้เกิดพลังในตัวเรา

ก่อนอื่นต้องสังเกตรอบ ๆ ตัวเรา มีธาตุอะไรที่แรงที่สุด อย่างบางคนอยู่บ้านที่มีบริเวณ มีสวน หรือชอบทำสวน อันนี้คือธาตุไม้เด่น บางคนอยู่บ้านที่เป็นคอนกรีต ซีเมนต์ ปูหินอ่อน ปูแกรนิต ก็มากไปด้วยธาตุทอง หรือบางแห่งเต็มไปด้วยแสงสี ตอนกลางคืนยังเปิดไฟสว่างไสว อาจเป็นเขตที่ทำการค้าเหมือนกับเยาวราช หรือมีคนพลุกพล่านตลอดเวลา ติดกับวัด ติดกับสถานที่ราชการ ก็ถือว่ามากไปด้วยธาตุไฟ บางแห่งอยู่ติดแม่น้ำ อยู่กับเขา อยู่ตึกสูง ๆ ก็มากไปด้วยธาตุลม

ถ้าหากบ้านของเราอยู่ในที่ลมแรง ลมพัดจัด อย่างเช่นบ้านติดทะเล หรือปลูกบ้านอยู่ในทิศทางลม จะทำให้ธาตุลมภายในตัวเราแข็งแกร่งไปด้วย จะเป็นคนสู้ชีวิต ไม่ว่าเพศใดจะมีอารมณ์โผงผางรุนแรง มีอิสระทางความคิด ไม่ซับซ้อน ตามธรรมชาติตัวบ้านที่อยู่ในทิศที่ลมแรง จะต้องมีเสาเรือน หลังคาบ้าน หรือตัวบ้านที่ดูหนักแน่น มั่นคง เพื่อยืนหยัดสู้กับพายุ สาเหตุนี้พลอยทำให้อารมณ์ของผู้อยู่อาศัยหนักแน่น มั่นคง และแข็งแกร่งไปด้วย เหมือนกับเราขาดธาตุแต่ถ้าแก้ด้วยความหนักแน่นของหลังคา โครงสร้างแล้ว แสดงว่าเราได้ทั้งดินและทอง

สมมุติเรามีธาตุลมในตัวอ่อน แต่ชอบอยู่บ้านติดชายทะเล หรือชอบอยู่ในที่ลมแรง แสดงว่าธาตุภายในตัวอ่อนกว่าสภาพแวดล้อม หรือพัฒนาตัวเองไม่ทัน เราก็อยู่ไม่ได้นาน มีอันต้องโยกย้ายถิ่นฐานออกจากตรงนั้น ขณะเดียวกันคนที่มีธาตุแข็ง มีกำเนิดในถิ่นที่จะต้องมีการต่อสู้ อาจจะเป็นธาตุทอง เป็นทหาร หรือว่าอยู่ในเมือง หรืออยู่ในที่ที่มีลมทะเลแรง ๆ แล้ววันหนึ่งเกิดไปอยู่บ้านสวน คน ๆ นี้มักจะปลูกต้นไม้ดอกไม้ไม่ค่อยขึ้น ต้องไปอยู่กับสวนไม้สัก สวนที่ดูหนัก ๆ พอกัน เพราะธาตุไม่เท่ากัน

อย่างผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง อยู่ในสายตุลาการ เมื่อเกษียณได้ไปปลูกบ้านอยู่ต่างจังหวัด ท่านชอบปลูกต้นไม้เล็ก ๆ ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้พุ่มเตี้ย เพราะว่าท่านใช้วิชาการตัดสินคดีความมาโดยตลอด ธาตุในตัวอ่อน ถ้าไปอยู่บนยอดเขา ต้องได้รับแนวโอบของเขา ถ้าธาตุในตัวอ่อน ธรรมชาติก็ต้องเข้มแข็งปกป้อง แต่สภาพแวดล้อมใกล้ตัว ก็คืออ่อนโยน ดังนั้นความแตกต่างของธาตุหรือว่าปราณในตัวกับปราณภายนอกต้องพิจารณาอย่าง ละเอียดถี่ถ้วน หากเรามีธาตุที่เข้มแข็ง ต่อสู้ และไปอยู่ในที่ที่แรง ๆ เช่น สามแพร่ง ที่ลมแรง จะไม่ได้เรียกว่าชี่สังหารแต่เรียกว่าธาตุส่งเสริมกัน แต่ถ้าเราเป็นคนธาตุอ่อน เราเกิดในสภาพแวดล้อมหรือชี่ภายในอ่อนโยน เราไปอยู่ในที่แรง ๆ ก็เรียกว่าโดนชี่สังหาร

แต่ถ้าเกิดเราเป็นคนเข้มแข็ง เราไปอยู่ในที่อ่อน ๆ ที่อ่อนนั้นจะรองรับงานเราไม่ได้ ก็จะโค่นลงหมด อย่างเช่น คนที่ทำงานบริษัทก่อสร้าง หรือทำงานบริษัทใหญ่ ๆ แต่ไปอยู่บ้าน 2 ชั้น มีรั้วเตี้ย ๆ มีสวน มีดอกไม้ พอประมูลงานมา บ้านนั้นก็รองรับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ เพราะว่าปราณต่างกัน หรือเจ้าของบ้านเป็นกัปตันเดินเรือทะเล เป็นชาวอเมริกัน อายุ 49-50 ปี มีภรรยาเป็นคนไทย ภายในบ้านมีสวนเล็ก ๆ มีศาลา ปลูกไม้ดอกไม้ประดับทั่วบ้าน ซึ่งกัปตันเดินเรือทะเล เปรียบเสมือนน้ำบวก ทำให้ธาตุน้ำแข็งมาก เราก็ได้เพิ่มน้ำลบ เพื่อให้ความสมดุลย์กัน ก็คือน้ำไหลรินให้อ่อนโยน ธาตุในตัวเขาเป็นคนชอบบริการ ชอบดูแล ก็เป็นธาตุน้ำ ก็สอดคล้องกับตัวเขา

หรือถ้าคน ๆ นั้นมีธาตุอ่อน เช่นเป็นธาตุไม้ ก็สามารถอยู่ในที่ปราณแข็งได้เหมือนกัน ถ้าหากว่าในดวงชะตามีแนวโน้มว่าเป็นคนสู้งาน ก็เป็นไม้ยืนต้นที่หยั่งราก ไม่ใช่ไม้ดอกที่อ่อนแอ ดังนั้นการจะอยู่ไม้หยั่งราก เราต้องดูบ้านที่มีฐาน หลังคา โครงสร้างต่าง ๆ มั่นคง หรือบุคคลที่เป็นธาตุไฟ ไปอยู่ในที่ปราณเข้มแข็ง ต้องเป็นคนที่มีธาตุไฟแข็งแกร่งในตัว ต้องทำงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์ มีหลักการ การวางแผน เพราะฉะนั้นในพื้นที่หนึ่ง ๆ ไม่ได้เป็นอันตรายสำหรับคน ๆ หนึ่ง

ความสำคัญของห้องครัวและห้องน้ำ ตอนที่ ๒

เตาที่อยู่ตรงกับประตู หมายถึง ในขณะที่ทำอาหารนั้นหันหลังให้กับประตู ถ้าหันหลังให้กับประตูอย่างนี้ไม่เป็นไร แต่ถ้าตัวผู้ทำอาหารนั้นหันหน้าให้กับประตู ทรัพย์จะรั่วไหล เพราะเปิดมาเจอเตา กระแสของธาตุไฟค่อนข้างแรง กระแสของประตูค่อนข้างแรง เราเปิดประตูไป เราจะสัมผัสกับธาตุลม ถ้าเป็นประตูเลื่อน กระแสของลมที่ประตูเลื่อนจะมีน้อยกว่า แต่ในกรณีที่เป็นบานประตูบานสวิง แรงเหวี่ยงตรงนั้นเขาเรียกว่า ชี่ พลังงานที่ออกไปเกิดแรงไปปะทะกับไฟ คำว่า"ปะทะ" ไม่เกิดผลดี ธาตุไฟย่อมแรงกว่า ธาตุลมกับธาตุไม้คือตัวเดียวกัน ใช้ภาษาจีนคำว่า "ซวิ่น" เหมือนกัน คือทิศตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเกิดการปะทะกัน ไฟมีกำลังแรงกว่า ไฟก็จะไหลออก พลังงานจะถูกดึงดูดเมื่อประตูสวิงตัวกลับมา คือ การไหลออก หมุนเวียนออกนั่นเอง ซึ่งไม่ควรนัก

เตา หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ภายในบ้าน ไม่ได้หมายถึงการไหลออกอย่างผิดธรรมชาติ ประตูกับเตาไม่ควรตรงกันนัยหนึ่ง อีกนัยหนึ่ง ขณะที่ทำครัว ไม่ควรมีอะไรเข้ามาข้างหลังผู้ทำครัว จะก่อเป็นความรู้สึกหวาดระแวง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับแม่บ้านหรือคนทำครัวเลย เพราะจะทำให้เป็นคนหงุดหงิดง่าย ใจน้อย แม่ครัวคนใดที่มีนิสัยใจน้อย ขี้บ่น คิดเสียก่อนว่า ตรงจุดทำครัว ให้หันหลังให้เขาปลอดภัยหรือเปล่า มีความสุขในการทำครัวไหม อากาศต้องถ่ายเทและหมุนเวียน ไม่ใช่ร้อน อบ อับ เหงื่อแตกอยู่ในนั้น อากาศไม่ถ่ายเท ถือว่าเป็นมุมอับ ทางแก้คือใช้พัดลมดูดอากาศ ต้องไม่ให้ห้องครัวอับ การตั้งเตาให้ถูก คนโบราณบอกว่าคือชีวิตแต่งงานที่มีความสุข ทั้งนี้ต้องประสานบุคคล และการถนอมน้ำใจกัน ทางหลักฮวงจุ้ยก็ให้ความสำคัญเหมือนกัน

ห้องน้ำอยู่กลางบ้านนั้น หมายถึงเราต้องเดินรอบห้องน้ำได้ แต่ถ้าเป็นทาวน์เฮ้าส์ห้องน้ำอยู่ตรงกลาง แต่เดินไม่รอบ เดินได้แค่ ๓ ด้าน อีกด้านติดกำแพง ถือว่าไม่กลางบ้าน ต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ ที่นี้เขาบอกว่าห้องน้ำอยู่กลางบ้าน ตรงกลางบ้านเปรียบเสมือนหัวใจ เป็นธาตุดิน การมีห้องน้ำอยู่กลางบ้านถือว่าเป็นการสลายธาตุดิน จะมีผลในเรื่องสามีภรรยาจะต้องจากกัน ก็มีทางแก้ ตรงกลางให้แขวนลูกคริสตัล แล้วมีตู้ปลา มีต้นไม้อยู่ในห้องน้ำ ตกแต่งห้องน้ำให้มีความรื่นรมย์  มีตู้ปลาถือว่ามีวัตถุประสงค์อื่นด้วยไม่ใช่เป็นแค่ห้องน้ำอย่างเดียว คริสตัลนั้นมีความหมายเป็นธาตุทองก่อกำเนิดน้ำ แล้วต้นไม้ที่อยู่ในห้องน้ำมีความหมายน้ำไปเสริมไม้ ตู้ปลาที่หมุนเวียนคือโชคลาภ ก็เปลี่ยนห้องน้ำเป็นโชคลาภไป ถ้าห้องน้ำอยู่กลางบ้านให้แก้ไขวิธีนี้ แต่ผู้อื่นที่ห้องน้ำเดินไม่รอบ เดินได้แค่ ๓ ด้านก็สบายใจได้ว่าไม่เป็นไร คนที่ซื้อทาวน์เฮ้าส์สองหลังติดกัน อย่างนี้ห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางต้องแก้ไข

ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว บ้านที่ปลูกสร้างมาแล้ว แต่มีการรื้อ ทุบ ถอนอย่างมโหฬาร ต้องมีเรื่องถึงกับคอขาดบาดตาย เพราะการรื้อถอนทุบขนาดนั้นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะไปเปลี่ยนโครงสร้าง ถ้าพลาดไปนิดเดียว หรือทำไม่ถูกต้อง มีปัญหากันแน่นอน ฉะนั้นการจะทุบ รื้อถอน หมายความว่า ทำเลที่อยู่ร้ายกว่าการทุบหรือรื้อถอน การทุบ รื้อถอนไม่ใช่เรื่องดี การทำลายสิ่งที่มีอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องดี ต้องเสียเงินกว่าจะได้ฮวงจุ้ยที่ดีมา แล้วจะดีได้อย่างไร

ฮวงจุ้ยที่ดีคือ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด แล้วยังได้โชคลาภกลับมาอีกด้วย จึงถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะได้ตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อมีการผิดปกติ ต้องแก้ไขปรับแต่งให้ธาตุอื่น ๆ เข้ามาให้เกิดความสมดุลกลมกลืน ยกเว้นในกรณีที่ว่า สิ่งที่เป็นอยู่ ร้ายแรงจนต้องทุบรื้อถอน ปกติฮวงจุ้ยที่ดีจะไม่ทำกัน

ห้องนอนที่อยู่ตรงกับห้องน้ำ หมายความว่า เปิดมาก็เจอห้องน้ำ ยิ่งห้องน้ำเปิดแล้วเจอชักโครกเลย ความรักจะไม่ยั่งยืน ให้เอาม่านปิดเท่านั้นเอง  คือหลักของฮวงจุ้ย สายตาปะทะสิ่งใด สิ่งเหล่านั้นจึงจะมีอิทธิพล เราคิดว่าสายตาเราปะทะห้องน้ำทุกวัน ลงบันไดมาก็เจอห้องน้ำ เราก็จะเป็นโรคที่เข้าห้องน้ำบ่อย เราเปิดบ้านเจออะไรก่อน ถ้าเจอห้องน้ำก่อน คนในบ้านจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บ ออกจากบ้านห้องน้ำส่งหลัง ได้รับคำนินทา จะหงุดหงิด เหมือนเข้ามาในบ้านเราเจอห้องอาหารก่อน ก็จะกินเก่ง ถ้าเป็นคอนโดมิเนียม พอเปิดห้องเข้ามาก็เจอห้องนอนก่อน ก็จะนอนอย่างเดียวเพราะกลับมาก็หมดแรงพอดี

ความสำคัญของห้องครัวและห้องน้ำ ตอนที่ ๑



ห้องครัว ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน
 

 เคยมีคำกล่าวว่า "ห้องครัวโอ่อ่า เครื่องครัวต้องพร้อม ห้องน้ำโปร่งเย็น อากาศสดชื่น ชักนำโชคลาภเข้าบ้าน อาชีพการงานราบรื่น" เพราะฉะนั้นครัวเป็นสิ่งสำคัญ ถึงไม่ได้ทำเป็นประจำก็ตาม แต่ก็ต้องเข้าไปเกี่ยวพัน แม้แต่ที่บ้านเรามีห้องครัวแต่ไม่เคยเข้าไปทำอาหาร แต่อย่างน้อย ครัวของตัวเอง เวลาเช้าปิ้งขนมปัง ต้องหยิบจาน ชาม ช้อน

สมัยก่อน ผู้หญิงเขาถือว่าครองส่วนของห้องครัว แล้วผู้ชายต้องไปทำงานนอกบ้าน โดยเฉพาะชาวจีน ผู้ชายจะออกทำงานนอกบ้าน แล้วผู้หญิงก็ดูแลปากท้อง เช้า กลางวัน เย็น ก่อนไปทำงาน ก็กินอาหารเช้าไปให้อิ่ม ตอนเที่ยง ภรรยาทำอาหารไปส่ง เย็นก็กลับมากินที่บ้าน ผู้หญิงจึงอยู่กับครัวตลอดเวลา ฉะนั้นเทพเจ้าแห่งเตาไฟก็จะเป็นผู้หญิง ดูแลเรื่องอาหารการกิน ความสะอาด มีความสำคัญค่อนข้างมาก การตั้งเตาจะเอาทิศของผู้หญิง (แม่บ้าน) เป็นหลัก ห้องครัวจะต้องมีน้ำ ทำอาหาร ทำอะไรก็ต้องมีซิงค์น้ำเป็นของคู่กัน บางบ้านมีพื้นที่แคบ แล้วยังเอาเครื่องซักผ้ามาเข้ามาอยู่ในครัวด้วย จุดนี้สำคัญเพราะว่าห้องครัวเป็นธาตุไฟ เตาต้องมีไฟ ส่วนธาตุน้ำก็ชัดเจนอยู่แล้ว

น้ำกับไฟ โดยปกติถ้าไม่สมดุลถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะว่าน้ำสามารถดับไฟ ไฟมากไป น้ำก็ระเหยแห้งเป็นหลักธรรมชาติ แล้วยังสำคัญต่อธาตุทั้ง ๕ ที่อยู่ในร่างกายเราด้วย ที่เรียกว่า เบญจธาตุ  ธาตุของเราต้องมีความสมดุลกลมกลืน น้ำกับไฟ ลม อากาศที่พัดผ่าน ลมหายใจของเราหรือธาตุในตัวเราต้องมีความสมดุลจึงจะไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ สภาพแวดล้อมภายนอกมีส่วนสำคัญในการเพิ่มหรือลดธาตุในตัวเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องครัว

สมมุติว่าในครัวของเราเกิดความไม่สมดุล เราสังเกตได้โดยง่ายว่า ใบหน้าของเราจะปรากฏรอยด่างดำที่เรียกว่า ฝ้า จุด หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งไม่ได้เกิดจากผิวหนังโดยธรรมชาติ เราต้องสังเกตผิวหนังของเราตามธรรมชาติว่ามีจุดด่างดำอย่างไรบ้าง แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่ผิวใครผิวมัน เพราะหากหน้าของเรามีจุดด่าง ดำ หรือรอยต่าง ๆ ที่มีมาตั้งแต่กำเนิด แต่อยู่ ๆ ไปก็ปรากฏริ้วรอยเพิ่มขึ้น มีด่าง มีดำ มีกระ เหมือนมีฝ้าขึ้น อันนี้แสดงสภาพแวดล้อมของคุณไม่สมดุลแล้ว ซึ่งมันเกิดขึ้นในครัวก่อนที่จะปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า เตาไฟซึ่งส่งกระแสอยู่แล้ว ความเป็นน้ำก็ส่งกระแสร่วม น้ำคือรูปธรรม นามธรรมก็ออกมาชัดเจนอยู่แล้ว น้ำกับไฟอยู่ใกล้กัน ไฟหมายถึงทรัพย์สินเงินทองที่เข้า ๆ ออก ๆ แล้วทำให้สะสมลำบากด้วย การแก้ไขทำได้โดยเอาธาตุที่มาเชื่อมแล้วทำให้เกิดความสมดุล นั่นก็คือธาตุไม้ เพราะน้ำจะไปเสริมไม้ก่อน แล้วไม้ก็ไปเสริมไฟอีกที สีเขียวเป็นสีของธาตุไม้ เพราะฉะนั้นจะใช้เครื่องใช้ไม้สอยภายในห้องครัวควรจะเป็นสีเขียว โดยเฉพาะในส่วนที่น้ำกับไฟนั้นใกล้กัน ถ้าเป็นสีเขียวแล้วก็จะช่วยปรับความสมดุลของธาตุต่าง ๆ ให้มีมากขึ้น อย่างนี้ก็จะไม่ทำให้ธาตุเสียสมดุล

ห้องครัวกับห้องน้ำตามคอนโดมิเนียม จะอยู่ใกล้กันมากเพราะพื้นที่ใช้สอยมีจำกัด เมื่อไม่สามารถที่จะแยกกันได้ จึงควรให้ใช้อุปกรณ์ เครื่องใช้ เครื่องครัว ที่มีสีเขียว เพื่อให้เป็นการเชื่อมธาตุเช่นเดียวกับการแก้ไขที่อธิบายไปข้างต้น

มีหลักที่ควรจำไว้ให้ดี คือ เตา หมายถึงจุดที่ทำอาหาร แล้วให้อาหารที่ผ่านการย่อยแล้วดูดซึมเข้าไปในร่างกาย ห้องน้ำ เป็นจุดถ่ายเอาของเสียออก คือการหมุนเวียนทางสรีระ นั่นคือการหมุนเวียนทางร่างกายที่ต้องเป็นไปตามความเหมาะสมกลมกลืน ถ้าตั้งอยู่ใกล้กันจะหมายถึง อาหารที่เข้าไปแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายถึงโรคภัยไข้เจ็บ หมายถึงทรัพย์ที่ออกไปด้วย โครงสร้างเหล่านี้ต้องดูให้ดีว่ามันใกล้กัน แล้วเราสามารถที่จะใช้สีเขียวไปวางไว้ที่ตรงไหนได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ ดอกไม้ ต้นไม้ ซึ่งเราต้องมีศิลปะในการจัดวางด้วย เพราะในการจัดทำทำเลไม่ควรให้มันโดดเด่นสะดุดจนเกินไป จัดให้สวยได้องค์ประกอบของสิ่งของที่จัดวาง และยังได้ความสมดุลกลมกลืนอีกด้วย

กรณีที่ห้องน้ำเปิดประตูออกไปแล้วเจอเตาไฟ ลักษณะนี้ธาตุน้ำปะทะกับธาตุไฟอย่างรุนแรง วิธีการแก้ไขนอกจากจะมีม่านบังที่ห้องน้ำแล้ว ตรงเหนือเตาไฟจะต้องหาอะไรมาติดที่มันสามารถสะท้อนได้ แต่ไม่ใช่กระจก อาจจะเป็นอลูมิเนียมหรือแสตนเลส ติดอยู่เหนืออยู่เตาไฟเพื่อให้สะท้อนพลังของห้องน้ำนั้นกับไฟ เตากับซิงค์น้ำจะต้องตั้งเยื้องกันถึงจะถูกต้อง ห้องน้ำที่อยู่ในครัวค่อนข้างอันตราย เพราะบางที่เตาแก๊สแทบจะไปวางอยู่ในห้องน้ำเลยก็มี ต้องแก้ไขโดยนำเอาตัวถังแก๊สออกมาจากห้องน้ำแล้วใส่ภาชนะสีเขียวหรือม่านติด ผนังห้องน้ำ พยายามอย่าหันประตูห้องน้ำเข้าไปสู่ห้องครัว ให้หันออกไปข้างนอก การหมุนเวียนจะเป็นปกติกว่าการที่จะเดินเข้าครัวแล้วเปิดเข้าห้องน้ำอีกที หนึ่ง แบบนี้ถือว่าค่อนข้างอันตราย


ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, ห้องครัว



ทำเลโค้งธนู

 
"ทำเลโค้งธนู" เป็นสภาพแวดล้อมของทำเลที่มีลักษณะโค้งคล้ายกับคันธนู  ซึ่งโดยปกติ ทำเลคันธนูจะคู่กับ "ทำเลสายรัดหยก" เพราะในสมัยโบราณ เวลาที่ขุนนางได้รับการแต่งตั้ง จะได้รับพระราชทานเข็มขัดหยกมาพันรอบเอว หากเคยชมอุปรากรจีนหรือที่เรียกว่า “งิ้ว” เวลาที่ตัวแสดงที่เป็นขุนนางออกมา จะต้องถือหรือยกวงเข็มขัดที่รอบเอวไว้เสมอ ซึ่งเรียกว่าสายรัดหยกนั่นเอง แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน และความมั่งคั่งอีกด้วย



ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน


เมื่อเราต้องเข้าไปอยู่ในทำเลที่มีสะพานหรือถนนโค้งโอบ ทำเลนี้เรียกว่าทำเล "สายรัดหยก" แต่ถ้าหากไปอยู่ตรงกันข้ามกัน บริเวณโค้งอีกฝั่งของสายรัดหยกจะกลายเป็นโค้งธนู คือลักษณะโค้งเข้าหาเรา เหมือนฟันเข้ามาทางเรา แล้วหากมีอะไรสักอย่างมาพาดหรือบ้านเรามาตั้งอยู่ตรงกลางขวางไว้ เท่ากับธนูนั้นวิ่งเข้าบ้านเรานั่นเอง ทำเลสายรัดหยกเป็นทำเลที่ใคร ๆ ก็ปรารถนาที่จะมีจะได้กัน แม้แต่การสร้างฮวงซุ้ยยังต้องเลือกถนนที่เป็นทำเลสายรัดหยก

สำหรับบุคคลที่อยู่ตรงบริเวณโค้งธนูเท่ากับได้รับ "ธนู"  ทำให้เกิดเภทภัยต่าง ๆ ขึ้นได้ อาจจะถึงโรคภัยไข้เจ็บ มากไปจนถึงแก่ชีวิต ในขณะเดียวกัน หน้าที่การงานก็จะไม่ดี ทำอะไรก็เหมือนกับถูกคุกคาม ถูกข่ม ถูกกดอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับเวลาที่เราเดินไปไหนมาไหน ราวกับว่ามีลูกธนูส่องตามหลังเราอยู่ตลอดเวลา ทำอะไรรู้สึกไม่เกิดความมั่งคง ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเรา  นั่นคือความสับสนของสภาวะของคนที่อยู่กับทำเลโค้งธนู หรือแนวถนนที่อยู่หน้าบ้านหรือหน้าโครงการหมู่บ้าน หน้าสำนักงาน ฯลฯ

แนวทางแก้ไขทำเล เริ่มที่ทำเลโค้งธนูก่อน ซึ่งมีอยู่ 2 ทาง
1.  แก้ไขในลักษณะเชิงสัญลักษณ์ จากแนวถนนเข้าไป ช่วงที่ถนนโค้งผ่านบ้านเราแล้วกำลังจะตีวงโค้งออก ช่วงนั้นให้เราจะวางแนวของต้นไม้หรือวางแนวของอิฐต่อจากแนวโค้งนั้นให้เข้า ไปโอบตัวบ้าน ตรงบริเวณโค้งของถนนก็จะกลายเป็นช่วงของคอมังกร แล้วหัวก็จะกลายเป็นตัวบ้านของเรา เท่ากับเรากลายเป็นหัวมังกรขึ้นมาแทน
2.  การปลูกต้นไม้หน้าบ้านให้เป็นแนวตรง เหมือนทำเป็นกำแพงป้องกันแนวโค้งธนู หรือว่าให้เป็นที่แขวนธนูนั่นเอง การปลูกต้นไม้ให้เป็นแนวตรงถือเป็นการขวาง โดยใช้ต้นโมกซ้อนวางเป็นแนว  โมก ก็คือ หอกโมกศักดิ์ แปลงเป็นการชุมนุมอาวุธนั่นเอง  แต่ให้เราเป็นผู้ใช้อาวุธนี้ ไม่ใช่ให้อาวุธนั้นกำลังจะยิงเรา


ในกรณีที่เป็นหมู่บ้านจัดสรร เช่น ย่านถนนประชาอุทิศ มีการปลูกสร้างหมู่บ้านสำหรับอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ในตอนปลายของถนนสายนี้ มีลักษณะโค้งซึ่งเป็นทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลของโค้งธนู โดยปกติพื้นที่ที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของโค้งธนูจะอยู่ภายในรัศมี 1 ถึง 1.5 กิโลเมตร ทั้งนี้เป็นเพราะอิทธิพลของถนนสายใหญ่ คือ แม่น้ำสายใหญ่ที่กระแสน้ำมีความเชี่ยวตามสภาวะธรรมชาติของการไหล  เมื่อน้ำไหลมาโดยเร็วจะมีการปะทะกันที่ตรงโค้งนี้ก่อนที่จะตีออก ในการปะทะกันจะกินพื้นที่ตลิ่งเข้าไป ทำให้เกิดกระแสที่เรียกว่าความสั่นไหวหรือความกระทบกระเทือนตรงโค้งนี้ทุก ครั้งที่มีรถวิ่ง  ความสั่นสะเทือนตรงนี้กระจายไปถึง 1 กิโลเมตร  แนวทางแก้ไขคือ หมู่บ้านนี้ต้องทำเป็นสวน คือ ทำเป็นแนวต้านทุกระยะ ๆ เป็นแนวต้านดิน  เราลองนึกถึงว่าหากเป็นน้ำจริงแล้ว  กระแสของน้ำที่กัดเซาะเข้าไป สิ่งที่อยู่ได้ต้านทานได้จะมีเพียงหินกับน้ำ นั่นก็คือการสร้างเขื่อน ดังนั้นบ้านจะต้องเป็นบ้านที่มีความหนักแน่น เพราะเราถือว่าสิ่งปลูกสร้างมีความหนักแน่นอยู่แล้ว  ฉะนั้นจึงต้องมีต้นไม้อยู่ด้วยเพื่อเป็นการลดการสั่นสะเทือนหรือแรงสะท้อน จากจุดอันตรายตรงนี้ คือการมีต้นไม้หรือมีสวนอยู่ในหมู่บ้านนั้น

ถนนที่เป็นโค้ง ด้านหนึ่งจะเป็นสายรัดหยก อีกด้านหนึ่งจะเป็นโค้งธนู ด้านที่เป็นสายรัดหยกจะเจริญกว่าอีกด้าน สิ่งที่จะแก้ไขคือ ร้านค้าที่อยู่บริเวณโค้งธนู จะต้องปลูกไม้ดอกที่มีลักษณะเป็นซุ้ม หรืออาจจะนำไม้เลื้อยมาพันไว้ เช่น ต้นใบระบาดหรือบานบุรีมาพันเป็นซุ้ม ซุ้มต้นไม้เหล่านี้จะช่วยแก้ไขทำเลโค้งธนูได้ หรือในบริเวณที่มีสะพานลักษณะโค้งแบบนี้ เพราะเมื่อเวลาที่คนขับรถผ่านจะมองไม่เห็นความรกร้าง หรืออันตรายจากโค้งธนู แต่กลับมองเห็นต้นไม้ดอกไม้แทน จุดเด่นจึงไปอยู่ที่นั่นคือความงอกงาม ความเจริญเติบโต  เมื่อเรานำสิ่งที่มีความเจริญงอกงามเติบโตกระจายมาใส่ตรงนี้แทนอยู่ตลอดเวลา แถบนี้ก็จะเกิดบรรยากาศของความเจริญงอกงามและเจริญเติบโตขึ้นมา


ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน
 

เส้นทางของรถไฟฟ้าจะมีช่วงที่มีการโค้งไปมาเข้าเกณฑ์ของลักษณะโค้งธนู  ตึก อาคารบริเวณนั้นจึงได้รับกระแส บุคคลที่อยู่ในตึกนั้นย่อมได้รับอิทธิพลไปด้วยเพราะนั่งทำงานอยู่ในตึกนั้น ทุกวัน  แนวทางในการแก้ไข ตึกหรืออาคารดังกล่าว บริเวณที่มองเห็นการโค้งนี้หากมีระเบียงให้จัดวางต้นไม้ แต่ถ้าไม่มีระเบียงให้วางกระถางต้นไม้ตรงหน้าต่างในจุดที่สายตามองเห็น เพื่อให้เป็นการบังหรือดึงสายตาให้ไปปะทะกับสิ่งเหล่านี้แทน การแก้ทำเลโค้งธนูนี้เราใช้ต้นไม้ แต่ถ้าเป็นบ้านจะต้องทำให้บ้านนั้นดูเด่น ดูข่ม แข่งกับทำเล อาจประดับด้วย กระดิ่งลม ต้นไม้ ฯลฯ ห้ามไม่ให้นำกระจกสะท้อนมาติด เพราะเท่ากับเป็นการดึงเอาโค้งนั้นเข้ามาอยู่ในตึกของเราแทน

 
ซินแสฮวงจุ้ย, ดวงจีน, โหราศาสตร์จีน, ฮวงจุ้ยเสริมโชค, อาจารย์แอน



ทิศมังกรของบ้าน ตอนที่ 3


อาจารย์หม่า, ซินแสภาณุวัฒน์, หมอช้าง, หมอลักษณ์, อาจารย์มาศ, อาจารย์แอน

การที่บ้านมีทิศมังกรที่ชัดเจนและปรับแต่งไว้อย่างดี แต่ว่าเจ้าของบ้านไม่ได้อยู่บ้านคือไม่มีโอกาสที่จะอยู่ อาจจะติดงานราชการที่ต่างประเทศ หรือว่าจัดทิศมังกรให้กับลูกอย่างชัดเจน แต่ลูกไปเรียนอยู่ต่างประเทศ  ทำเลที่จัดและมีมังกรชัดเจนอยู่ในเมืองไทย จะส่งผลให้คนที่เคยอยู่บ้านนี้และไปอยู่ต่างประเทศหรือไม่  หลักการจัดบ้านหรือฮวงซุ้ยคนเป็น เรียกว่า "จัดหยาง"  เป็นหลักการเดียวกับการจัดฮวงซุ้ยคนตาย หรือ "จัดหยิน"  เราทำฮวงซุ้ยของบรรพบุรุษของเราดี จะส่งผลต่อลูกหลานถึง 7 ชั่วคน โดยที่เราเองก็ไม่ได้ใช้ฮวงซุ้ยนั้น  แต่ว่าที่บ้านเรา ห้องที่อยู่อาศัย ตำแหน่งมังกรทำไว้ดีแล้ว ถึงจะไม่ได้ใช้  แต่ถ้าจัดทำเลไว้ถูกต้องตามดวงชะตา สิ่งเหล่านี้ก็จะส่งผลเพราะที่นี่คือบ้านหลัก  ส่วนเจ้าตัวอาจจะถูกทำเลส่งไปเรียนก็ได้และก็ไปดี  ถ้าทำเลเริ่มต้นไม่ดี ก็เหมือนกับตัวเราออกจากห้องที่มีควันบุหรี่ ตัวเราก็ติดควันบุหรี่ไปด้วย เรากลับเมื่อไหร่ก็ถูกอบด้วยควันบุหรี่ ร่างกายเราก็ไม่สมบูรณ์ หายใจเอาสิ่งที่ไม่ดีเข้าไป แต่ถ้าห้องนั้นเป็นห้องที่มีอากาศบริสุทธิ์ เราก็ออกจากห้องที่อากาศบริสุทธิ์ไป ฉันใดก็ฉันนั้น

ถ้าเราจัดห้องได้ถูกต้องตามทำเล ตามดวงชะตา ตรงกับธาตุของเรา เราไปอยู่ที่ไหน กลับมาก็จะได้รับธาตุที่ดี ธาตุที่ดีก็จะส่งไปที่ที่ดี  ยกตัวอย่างเช่น ถ้าบ้านหลังหนึ่งขาดตำแหน่งมังกร  ถ้าจะไปซื้อบ้านหรือที่ดินที่ไหน ก็จะขาดตำแหน่งมังกรเหมือนกัน ไปขาดทิศเดียวกัน เพียงแต่ว่าสลับที่กัน เพราะว่าแต่ละที่แต่ละแห่งจะหันหลังอิงไม่เหมือนกัน แต่ว่าตำแหน่งที่ขาดเป็นตำแหน่งเดียวกันหมดทุกที่ เช่น ถ้าบ้านขาดทิศใต้ ถ้าจะไปซื้อบ้านใหม่ก็จะขาดทิศใต้เช่นเดียวกัน เนื่องจากว่าเป็นกระแสที่สะสมเข้ามา พอไปซื้อบ้านใหม่ก็จะขาดสิ่งนั้น  จึงเป็นข้อยืนยันว่า ห้องของเรา สถานที่ของเรา ไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ก็ตาม ก็จะส่งผล ถ้าเป็นบ้านหลักไม่ใช่บ้านรอง ก็ต้องวางทำเล

บางคนมีปัญหาว่า รู้ว่าตำแหน่งมังกรอยู่ตรงไหน แต่ไม่มีโอกาสใช้ตำแหน่งมังกรตรงนั้นหรือว่าปรับแต่งได้ เช่น บางคนตำแหน่งมังกรเป็นเป็นถังบำบัดน้ำเสียในบ้าน อย่างนี้ควรจะทำอย่างไรดี  สิ่งเหล่านี้อยู่ใต้ดินเรามองไม่เห็น แต่เราเห็นพื้นที่ที่อยู่ด้านบนเป็นพื้นเรียบๆ ก็สามารถที่จะทำพื้นที่ตรงนั้นให้เด่นได้  ยกตัวอย่างบ้านหลังหนึ่ง  ตรงมุมบ้านเป็นถังบำบัดซึ่งตำแหน่งมังกรอยู่ตรงนั้น ก็ควรปรับพื้นที่ตรงนั้นให้เรียบและจัดสวนบนนั้น ทำตรงนั้นให้เด่นไปเลย  ถือว่าสิ่งที่เราเห็นเป็นสิ่งที่ดีแล้ว ไม่ต้องไปนึกเจาะลึกลงไปในดินว่ามังกรเราเสียข้างใต้  เพราะที่จริงแล้ว บนพื้นดินในโลกที่ไหนก็ตามก็เคยมีของเสียด้วยกันทั้งนั้น ก็ถือว่าไม่เห็นแล้ว สามารถปรับแต่งใหม่ได้ จัดใหม่ได้

เรื่องของตำแหน่งมังกร สามารถนำไปปรับใช้ได้กับธุรกิจของทุกคนได้อีกด้วย  คำว่ามังกรที่เป็นนามธรรมนี้ ยังหมายถึงในแถบถิ่นที่อยู่อาศัยของเรานี้ ว่าเราเป็นหัว เราเป็นคอ เป็นท้อง หรือเป็นหางมังกรอย่างที่เคยพูดคุยกันมา  ถ้าเราทำบ้านของเราให้ดี เด่น ดูสวยงาม ในแถบนั้น ใครๆก็ต้องหันมาดู ในซอยนั้นบ้านเราสวยที่สุด  บ้านเราก็เป็นมังกรในความหมายที่ไม่ได้มีตำแหน่งทิศ แต่เป็นความเด่นหรือการดึงดูด  เพราะว่าคำว่ามังกรที่เป็นนามธรรมนี้ จะมีความหมายถึง "พลังแห่งการดึงดูดทุกอย่างเข้ามา"  เพราะฉะนั้น ถ้าตรงไหนที่เป็นจุดที่ดึงดูดสายตา ตรงนั้นเป็นมังกร เหมือนกับลักษณะโหงวเฮ้งของคนเดินมา มีสง่าราศี ท่าทางบุคลิกดี จนทุกคนต้องหันไปมอง คนๆนั้นเป็นมังกร เหมือนกับคำว่ามังกรในหมู่มวลมนุษย์  เพราะฉะนั้นคำว่ามังกรหมายถึง จุดที่ดึงดูดสายตา พลังงานทุกอย่างเข้ามาหาตัว บุคคลที่มีบุคลิกดีๆ ก็จะดึง ณ เมตตาหรืออะไรดีๆเข้าสู่ตัวเพราะว่ามีลักษณะดี  และบ้านก็เช่นเดียวกัน ลึกลงไปกว่านั้นก็คือการจับทิศมังกรตรงๆ ก็จะเป็นมังกรที่เรารู้เลยว่า พลังงานที่ดีที่สุดของบ้าน ตรงไหนดีที่สุด  หรือถ้าเป็นหมู่บ้านก็จะมีทิศมังกรของหมู่บ้านอีกเช่นเดียวกัน โดยใช้หลักเดียวกัน  อย่างหมู่บ้านหลังอิงทิศใต้ มังกรของหมู่บ้านก็จะอยู่แถบตะวันออก บ้านที่อยู่แถบนั้นก็จะเป็นบ้านที่มีพลังงานมากที่สุด เป็นต้น

การที่จะดูว่าบ้านเราเป็นมังกรหรือเปล่านั้น ก็คือเราได้ตกแต่งบำรุงรักษาบ้านเราให้ดูดีที่สุดในละแวกนั้นหรือเปล่า  คนจีนส่วนมากจะเซ้งบ้าน เซ้งตึกอาคารพาณิชย์กัน 20 - 30 ปี และเมื่อหมดสัญญาแล้วก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์  ก็เลยไม่ทาสี ไม่ดูแลรักษาอะไรเลย ดังนั้นจะเห็นตึกแบบนี้หลายๆที่ในกรุงเทพเป็นอย่างนี้ ดูรกรุงรัง ซอมซ่อ สีไม่ทา ถึงแม้จะถูกทิศมังกรแต่ก็จะทำให้ทำเลเสียไป

มังกรจะมีที่ตัวเรา ตัวบ้าน และมีทิศของตัวบ้าน  ตัวเราทำตัวให้เด่นด้วยบุคลิก ความคิด การวางตัว การทำตนเป็นคนดี ก็จะดึงดูดทุกอย่างเข้ามาหาตัว  และบ้านเรา ต้องทำทิศมังกรให้เด่น ก็จะเป็นข้อดีอย่างที่สอง  แต่ถ้าปรากฎว่า บ้านของเราโทรมที่สุดในแถบนั้น ตัวบ้านเราคือหางมังกร ฉะนั้นก็จะมีก็ดีอยู่สองส่วน แต่ส่วนที่เสียก็ไม่ได้ดึงอะไรเข้ามาหาเรา แต่ว่าสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ ไม่มีอุปสรรค เพราะมีมังกรดีแล้ว 2 ตัวได้แก่ตัวเรา และทิศทาง  เพราะฉะนั้น จะดีที่สุดต้องทำทั้ง 3 อย่างประกอบกัน ก็คือในบ้านแถบนั้น บ้านเราต้องดูดี ไม่โทรม เรารักษาสภาพแวดล้อม ภายในบ้านของเรา ต้องจัดบ้านให้สะอาด โล่ง โปร่ง ทิศมังกรเด่นที่สุด และตัวเราก็เป็นมังกรในหมู่มวลมนุษย์ด้วย ดีด้วยบุคลิก ดีด้วยลักษณะ ดีด้วยความดีจากภายใน ทั้ง 3 อย่างประกอบกัน ไม่ว่าอุปสรรคใดๆ เราก็สามารถที่จะแก้ปัญหาได้เช่นเดียวกัน

ทิศมังกรของบ้าน ตอนที่ 2


ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน, ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ตกแต่งร้านค้า, อาจารย์แอน


รูปทรงของบ้านที่ไม่ได้เป็นรูปสี่เหลี่ยม บางบ้านเป็นรูปตัวแอล บางบ้านเป็นรูปตัวอยู่ บางบ้านเป็นสี่เหลี่ยมแต่บางมุมหายไปเพราะด้วยหลักทางสถาปัตยกรรมต่างๆหรือ เพื่อความสวยงาม และมุมที่หายไปนั้นเป็นตำแหน่งมังกร เจ้าของบ้านจะได้รับผลอะไรหรือไม่ ตำแหน่งมังกรที่ขาดหายไป ก็เหมือนกับบ้านหลังนั้นจะไม่เสริมตัวเจ้าของบ้าน เป็นบ้านที่ขาดพลัง  เพราะฉะนั้นทางที่เราจะทำได้ สมมุติว่าบ้านมีบริเวณ เป็นรูปตัวแอลและตำแหน่งที่ขาดอยู่ตรงที่แหว่งพอดี ให้ทำสิ่งปลูกสร้างที่มีหลังคา เช่นซุ้มดอกเห็ด ทำชิงช้า สวนหย่อม หรือต้นไม้ใหญ่ก็ได้ นั่นคือเราจำเป็นต้องใช้พื้นที่นั้น อย่าให้แหว่ง เราใช้สิ่งปลูกสร้างง่ายๆอย่างที่ได้บอกไป อันนี้ถือว่าเป็นพื้นที่ใช้สอยและเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีหลังคา เท่ากับว่าเสริมตำแหน่งมังกรด้วย

ถ้าเป็นลักษณะของทางสามแพร่งหน้าบ้าน และบ้านหลังอิงทิศตะวันตกเฉียงใต้ หน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นทิศมังกรของบ้าน ทางด้านหน้าเป็นทางสามแพร่งตรงเข้ามาที่ตำแหน่งมังกรเลย จะทำให้เกิดผลเสียกับเจ้าของบ้านหรือไม่ ทางสามแพร่งเกิดผลเสียอยู่แล้ว ทิศมังกรคือทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นธาตุดิน ทางสามแพร่งก็ตรงมาที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือธาตุดินเช่นเดียวกัน ซึ่งธาตุดินจะเสริมธาตุทอง เราก็เอากระดิ่งที่เป็นทองเหลืองหรือโลหะแขวนไว้หน้าบ้าน เท่ากับสิ่งที่พุ่งมาที่มาจากธาตุดินกระทบกับสิ่งที่เป็นธาตุทองเป็นการ เสริมบ้านเรา คือใช้วัฏจักรของการเสริมธาตุ

ลองสังเกตดูว่า ถ้าบ้านเรามักมีปัญหา อุปสรรค ติดขัด มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน ลองสังเกตดูตำแหน่งมังกรของบ้าน อาจจะเป็นลักษณะที่มีอะไรคุกคาม ไม่ใช่แค่ทางสามแพร่ง อาจจะเป็นตอไม้หรือมีอะไรสักอย่างเราต้องแก้ปัญหาจุดนั้นก่อนด้วยการเสริม ธาตุ

มีบ้านหลังหนึ่งซึ่งอาจารย์เคยไปเยี่ยม ตำแหน่งมังกรไปตกอยู่ที่สระว่ายน้ำ ซึ่งสระว่ายน้ำนั้นไม่ได้ใช้เลยและเป็นที่เพาะพันธุ์ของคางคก ทำให้มังกรของบ้านเสีย อาจจะทำให้เราถูกคนโกงหรือทรัพย์สินของเราอาจถูกครอบครองโดยคนอื่นตัว  เราอาจขี้หลงขี้ลืม ขาดพลัง มีอุปสรรคในหน้าที่การงานเสมอๆ 

ไม่ใช่เฉพาะตำแหน่งมังกรเสียเท่านั้น แต่ถ้าวางธาตุที่ชง กัน ธาตุที่ไม่ถูกกัน เช่น ทิศใต้เป็นธาตุไฟและเป็นมังกรของบ้าน เราเอาน้ำไปวางตรงนั้น มันเด่นมันสวยก็จริง แต่ว่าจะทำให้มังกรเราหลับตลอดเพราะว่าน้ำดับไฟ ทำให้คนในบ้านขาดพลัง เช้าชามเย็นชาม อาการเหมือนน้ำดับไฟ คือไฟมอด คิดอะไรไม่ออก วิชาการไม่มี สมาธิสั้น เป็นต้น เพราะฉะนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ตำแหน่งมังกรไม่ขาดเท่านั้น แต่ต้องระมัดระวังในเรื่องการวางสิ่งของที่ตรงนั้นนั้นด้วย ซึ่งมังกรที่อยู่ตามที่ต่างๆสามารถสรุปเป็นธาตุต่างๆได้ดังนี้
 
-ทิศตะวันออก                   มังกรไม้
-ทิศตะวันออกเฉียงใต้         มังกรไม้
-ทิศใต้                             มังกรไฟ
-ทิศตะวันตกเฉียงใต้           มังกรดิน
-ทิศตะวันตก                     มังกรทอง
-ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ       มังกรทอง
-ทิศเหนือ                         มังกรน้ำ
-ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ      เป็นได้ทั้งธาตุน้ำ ธาตุไม้ ธาตุดิน

ทิศมังกรของบ้าน ตอนที่ 1

ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน


บ้านแต่ละบ้านจะต้องมีทิศมังกรที่ชัดเจนและจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลรักษา เป็นอย่างดี เพื่อให้บ้านแต่ละหลังนั้น มีความเข้มแข็งของการเป็นมังกรที่ดี
   
คำว่า “มังกร” เป็นนามธรรม มีความหมายแสดงถึงความมีอำนาจ หรือจุดที่มีพลังงานมากที่สุด เป็นตำแหน่งที่ทำให้บ้านเหมือนมีพลังแม่เหล็กที่ดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาหา  ก่อนอื่นเราต้องรู้จักทิศมังกรของบ้านแต่ละหลังก่อน แล้วดูว่าบ้านแต่ละหลังนั้น ตำแหน่งมังกรเสียหรือไม่ ต้องปรับแต่งแก้ไขตรงนั้น  ที่มักกล่าวอยู่เสมอว่า บ้านมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตอยู่ที่ตำแหน่งมังกร สมมุติว่าตำแหน่งมังกรของบ้านเราเสีย บ้านหลังนั้นก็มีสภาพเหมือนไม่มีชีวิต ไม่ได้ให้พลัง ไม่ได้ส่งเสริมผู้ที่อยู่อาศัย
   
โดยกำหนดทิศจากบ้านเรา ใช้หลักทิศหลังอิง ไม่ได้ดูจากทิศของหน้าบ้าน ให้ดูว่าหลังบ้านของเรานั้นอิงทิศใด เพื่อคำนวณหาตำแหน่งมังกรของตัวบ้าน ให้ใช้ทิศหลังบ้านเป็นหลัก

-    บ้านหลังอิงทิศตะวันออก ตำแหน่งมังกรของบ้านจะอยู่ทิศใต้ โดยมังกรของบ้านหลังนี้จะเป็นธาตุไฟ ไม่ควรวางตำแหน่งน้ำ แต่ควรตกแต่งด้วยธาตุไม้หรือให้เด่นด้วยธาตุไม้ เช่น การวางแจกันดอกไม้หรือปลูกต้นไม้หลังบ้านหรือใช้โทนสีเขียวตกแต่ง เพื่อเสริมความเป็นมังกรไฟ

-    บ้านหลังอิงตะวันออกเฉียงใต้ ตำแหน่งมังกรจะอยู่ทางทิศเหนือ ถือเป็นมังกรธาตุน้ำ ควรวางตู้ปลา หรือน้ำที่มีการเคลื่อนไหวคือน้ำที่ให้ลาภให้ผล
 
-    บ้านหลังอิงทิศใต้ ตำแหน่งมังกรของบ้านจะอยู่ที่ตำแหน่งทิศตะวันออก เป็นมังกรธาตุไม้ ควรเสริมด้วยธาตุน้ำ เพราะน้ำก่อให้เกิดไม้ เช่น วางตู้ปลาหรือน้ำที่มีการเคลื่อนไหว

-    บ้านหลังอิงทิศตะวันตกเฉียงใต้ ตำแหน่งมังกรจะอยู่หน้าบ้านคือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มังกรธาตุดิน ควรเสริมตำแหน่งนี้ด้วยอ่างบัวหรือตั้งโอ่งมังกรก็ได้
 
-    บ้านหลังอิงทิศตะวันตก ตำแหน่งมังกรจะอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นมังกรธาตุทอง ซึ่งส่วนใหญ่ตำแหน่งนี้มักจะเป็นครัว ถ้าเป็นครัว ภาชนะในครัวควรเป็นหม้อดินหรือพวกเครื่องสแตนเลส หรือชั้นบนตั้งห้องพระทางทิศนี้ก็จะดี
 
-    บ้านหลังอิงทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ตำแหน่งมังกรอยู่ในทิศตะวันตก เป็นมังกรธาตุทอง ควรปรับแต่งทิศนี้ด้วยเครื่องปั้นดินเผาหรือวางโต๊ะกลมขาวก็ได้ หรือจะใช้สีสันที่ออกเป็นทอง คือ สีเหลืองหรือสีน้ำตาล
 
-    บ้านหลังอิงทิศเหนือ ตำแหน่งมังกรจะอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตกมังกรธาตุไม้ ต้องทำให้เด่นด้วยแจกันดอกไม้หรือวัตถุมงคลที่ให้ความหมายในทางที่อ่อนโยน เช่น โป๊ยเซียน หรือนางฟ้าดีดพิณ เป็นต้น

-    บ้านหลังอิงทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตำแหน่งมังกรอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ควรเสริมด้วยน้ำ


ตำแหน่งมังกรมีความสำคัญค่อนข้างมาก ในบ้านแต่ละหลังไม่ควรไห้ตำแหน่งมังกรเสีย เพราะจะทำให้ไม่ส่งเสริมเจ้าของบ้านด้วย แต่ถ้าเราไม่แน่ใจในตำแหน่งมังกร เราก็ควรจัดบ้านให้สะอาด โปร่ง ไม่รก และหมั่นดูแลห้องเก็บของ จัดวางให้เป็นระเบียบ ปัดกวาดให้ดี เพราะเผื่อว่ามังกรของบ้านจะไปอยู่ในห้องเก็บของ

ถ้าตำแหน่งมังกรของบ้านเป็นที่จอดรถ ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าตำแหน่งมังกรที่เสียหมายถึงไม่มีหรือขาดไปเลย แต่โรงรถเป็นพื้นที่ใช้สอย เราก็จัดตามทิศ สมมุติว่าบ้านหลังอิงทิศตะวันออกและตำแหน่งมังกรของบ้านทางทิศใต้เป็นโรงรถ และเป็นธาตุไฟ เราก็ตกแต่งด้วยธาตุไม้ คือเสริมตรงโรงรถของเราด้วยธาตุไม้ คือ การวางต้นไม้ ปลูกต้นไม้นั่นเอง
   
พื้นที่ที่อยู่อาศัยบนคอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ ให้ดูจากประตูทางเข้า ถ้าเข้าไปแล้วเจอห้องน้ำ ครัว ส่วนรับประทานอาหาร จะถือว่าตรงนี้คือหลังบ้าน   แต่ถ้าเปิดประตูเข้าไปแล้ว ห้องน้ำ ครัว ไปอยู่ติดระเบียง จะถือว่าหลังบ้านไปอยู่ที่ระเบียง หน้าบ้านอยู่ที่ประตูทางเข้า



ปริมาณธาตุทั้ง 5 ที่ไม่สมดุล


ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน, ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ตกแต่งร้านค้า, อาจารย์แอน

เบญจธาตุ หรือ ธาตุทั้ง 5 ในทางฮวงจุ้ย  ซึ่งได้แก่ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน ทอง  เป็นองค์ประกอบหลักภายในสภาพแวดล้อม โดยทั่วไป  มีผลกับอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด กับบุคคลต่าง ๆ ในสังคมของเรา  ธาตุซึ่งมีปริมาณที่ไม่สมดุลกัน ย่อมจะทำให้อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ ของบุคคล มีความแปรเปลี่ยน ดังพอสรุปได้ดังนี้

ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งคอนโด, จัดสวน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยครัว, อาจารย์แอน

ธาตุทอง
•  ธาตุทอง ได้แก่โลหะทุกชนิด หรือวัตถุหนัก ๆ ซึ่งมีความหมายถึง “ความสุข”  หากทองมากเกินไป หรือ ตัวบุคคลที่มีธาตุทองมากเกินไป  ก็จะกลายเป็นทองแตก  จะมีผลทำให้ไม่ค่อยมีความสุข  ซึ่งอาจจะเกิดเป็นการทะเลาะเบาะแว้ง หรือการดื้อดึงดันในลักษณะขอให้มันแตกหักกันไปเลย ไม่มีการยืดหยุ่นในอารมณ์ ไม่มีการถอยหนึ่งก้าว หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ไม่มีการประนีประนอมกัน  เปลือกโลกที่เคลื่อนตัว ยังมีความหมายถึงธาตุทองด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก จึงมีผลทำให้ธาตุทองกระทบไปด้วย
•  ธาตุทองน้อย จะขาดความหนักแน่น ไม่สามารถทำงานใหญ่ได้ ก่อร่างสร้างตัวไม่ค่อยได้ เป็นคนที่ไม่ค่อยมีความสุข เป็นคนที่บุคลิก “งุ้งงิ้ง” ตลอด หงุดหงิด ไม่มีความสุขในตนเอง  คล้ายกับนั่งก็ไม่สบาย นอนก็ไม่สบาย ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวอยู่ตลอด  จึงเป็นผลให้เกิดความอ่อนไหวทางอารมณ์มากผิดปกติ  คล้ายกับว่า “ไม่ถึงซึ่งจุดซึ่งตนเองเกิดความพึงพอใจเสียที” หรืออีกนัยก็คือ ไม่พอใจอะไรโดยง่าย ๆ  กลายเป็น สิ่งที่อยู่รอบตนไม่สามารถตอบสนองความพึงพอใจได้  ทำให้กลายเป็นความ “โลภ” ไม่มีความสุขในสิ่งที่ตนเองมี  อยากไม่จบสิ้นไม่รู้จักพอ


อาจารย์หม่า, ซินแสภาณุวัฒน์, หมอช้าง, หมอลักษณ์, อาจารย์มาศ, อาจารย์แอน
ธาตุดิน
•  ธาตุดิน หากธาตุดินมาก ก็จะกลายเป็นคนที่ดื้อดึง คล้ายกับลักษณะของดินที่แข็ง หนัก  ซึ่งจะมีผลคล้าย ๆ กับธาตุทอง หรือเรียกได้ว่า “ดื้อรั้นดันทุรัง” หรือ “ดื้อเหมือนโคถึกที่คึกพิโรธ”  เป็นลักษณะที่ไม่เอาใครทั้งนั้น มองแต่ตัวเองเป็นหลัก  ดึงดันกับความคิดของตนเอง และเห็นว่าถูกต้องอยู่เสมอ  จะเห็นในลักษณะของการทุ่มเถียงกันไปมา ไม่มีการยอมรับผิด หรือยอมรับตามความเป็นจริง
•  ธาตุดินน้อย  ความประนีประนอม ปรองดองไม่มี  ความเข้าใจในบุคคลอื่น ๆ ไม่มี  อีกทั้งยังขาดความยืดหยุ่น และพลิกแพลงต่อสภาวการณ์ต่าง ๆ  ตรงไปตรงมาเกินเหตุ อีกทั้งยังเชื่อคนอื่น ๆ ได้โดยง่าย  ขาดการไตร่ตรอง ขาดความรอบคอบและความหนักแน่น  ถูกหลอกและลากไปมาได้โดยง่ายดาย  ที่สำคัญที่สุด คือ ขาดเหตุผลในการพิจารณาไตร่ตรอง


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน
ธาตุน้ำ
•  ธาตุน้ำ มีความหมายถึง “มนุษยสัมพันธ์”  หากธาตุน้ำมาก ก็จะเป็นพวกเจ้าอารมณ์ นึกถึงแต่ตนเอง ไม่มีระเบียบแบบแผน ไม่มีวินัย  อารมณ์อ่อนไหว  ความเศร้าโศกเสียใจใด ๆ ที่จะเข้ามากระทบ ก็มากเกินกว่าเหตุ หากดีใจ ก็เกินกว่าเหตุเช่นกัน  เหมือนจะเรียกได้ว่า “เพี้ยน” ไปเล็กน้อย  หรือนัยอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธาตุน้ำ ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่า ธาตุน้ำ คือกระแสหมุนเวียนทางการเงิน หรือ การบริการ  ซึ่งหากมีปริมาณมากก็จะกลายเป็นความหมายในเชิงของ “การแก่งแย่งชิงกัน” เช่น การแย่งกันบริการ  หรือหากเป็นกระแสหมุนเวียนทางการเงิน ก็คือ เงินเฟ้อนั่นเอง  ดังนั้นความหมายของธาตุน้ำที่มาก เป็นความหมายของเจ้าอารมณ์ พร้อมจะทำลายล้าง เป็นการตัดสินกันด้วยอารมณ์ มุ่งร้าย โทสะ และมักโมโหโกรธา
•  ธาตุน้ำน้อย หรือ น้ำเสีย มีความหมายถึง ความแล้งน้ำใจ  หาหนทางเพื่อเอาเฉพาะตัวรอด  และยังมีความหมายถึง ความจริงใจ หากที่ใดน้ำน้อย จะมีผลทำให้ “พูดจริงน้อย” ไปด้วย  ขาดความจริงให้กัน   พบเห็นสิ่งดี ๆ ก็จะกอบโกยเข้าหาตนเองก่อน และเอาสิ่งที่ไม่ดียกให้คนอื่นไป  หรืออีกนัยก็คือ “ชอบโทษคนอื่น” นั่นเอง  จึงเป็นเหตุให้ต้องประสบพบกับ ปัญหาอุปสรรคอยู่เนือง ๆ เปรียบเสมือนกับ ชีวิตไม่ลื่นไม่คล่อง เพราะน้ำไม่ไหลเวียน


ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน

ธาตุไม้
•  ธาตุไม้ หากธาตุไม้มาก ก็จะเป็นลักษณะของการหงุดหงิด ติดขัด ซึ่งเป็นเหตุมาจาก “ความอ่อนไหว ไปทุกอารมณ์” ไม่คำนึงถึงเหตุผลใด ๆ ซึ่งจะเป็นคนขี้โมโห เอาแต่ความคิดของตนเองเป็นใหญ่  ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับธาตุดินมาก แต่จะมีความหงุดหงิดนำหน้าก่อนเสมอ  และประกอบไปด้วยความ “พาล”
•  ธาตุไม้น้อย เป็นผลทำให้เกิดการเจ็บไขได้ป่วยบ่อย  เป็นคนที่เกิดอาการแพ้ง่าย อ่อนแอ  ทำให้เป็นคนที่ไม่ค่อยมีความอดทน หรือขาดความอดทนต่อการทำอะไรเป็นระยะเวลานาน  ผลของธาตุไม้น้อยอีกประการหนึ่ง คือ ไม่หยั่งราก ไม่ยั่งยืน พอเจออะไรนิดอะไรหน่อยก็หนี ไม่สู้ เปลี่ยนงานง่าย ไม่ทนร้อนทนหนาว กระเสาะกระแสะ หรือเรียกได้ว่า “ขาดขันติ”  ส่วนใหญ่จะเป็นพวกคนในเมืองหลวง เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ชีวิตการงานก็เปลี่ยนแปลงบ่อย ชีวิตคู่ก็ไม่ยืนยาว ไม่มีความอดทนใด ๆ ผลคือ ทำให้ขาดความสุข คล้าย ๆ กับธาตุทองมาก


ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม

ธาตุไฟ
•  ธาตุไฟ หากธาตุไฟมาก ก็จะเป็นลักษณะของขาดความละเอียด หรือ “ชุ่ยจัด” ทำอะไรแบบขาดสมาธิ  เป็นลักษณะของคนที่มีสมาธิสั้น ปุบปับ มักเปลี่ยนแปลง เร่งร้อน ไม่นิ่ง ทำอะไรอย่างรวดเร็ว  หากมีความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็ถือได้ว่า “เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย” ก็ว่าได้  ไฟมากจึงถือว่า ไฟไหม้ตนเอง กินตัวเอง ทำให้หมดตัวได้ง่าย ๆ จากความหุนหันพลันแล่นของตนเอง ก่อให้เกิดความเสียหายในทุก ๆ เรื่อง
•  ธาตุไฟน้อย เฉื่อยชา เฉื่อยแฉะ ขี้เบื่อ ไม่มีความกระตือรือร้น เนือย ๆ  เหมือนบรรยากาศในหน้าหนาว  ในแถบประเทศที่มีหิมะตก ซึ่งแสงแดดมีน้อย ง่วงเหงา หาวนอน คล้ายกับคนนอนหลับ แต่หากมีผู้อื่นมาปลุกจะมีความรู้สึกโมโหเป็นพิเศษ สรุปก็คือ ซึมเซา ขี้เกียจ โมโหง่าย




ขุนเขาทั้ง 5 ในประเทศจีน

ที่ประเทศจีน สิ่งที่โดดเด่นและสะดุดตามากที่สุด คือ ลักษณะของภูเขาในประเทศจีน ซึ่งเป็นภูเขาที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนในประเทศไทย เพราะว่าต้องแหงนหน้ามอง  และมองออกไปไกลๆ จะมีรูปทรง ลักษณะ สัณฐาน ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกว่า มันยิ่งใหญ่ ถ้าเราเปรียบเทียบกับสิ่งของที่เราจับต้องได้ ภูเขาของประเทศจีนจะเต็มตา ชัดเจนไปหมด ให้ความหมายในเรื่องของทำเลค่อนข้างมาก และให้ความรู้สึกว่า ชนชาวจีนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้คนนั้นต้องมีความอดทน บึกบึน หนักแน่น แล้วก็ต่อสู้ อันนี้เป็นข้อที่ชัดเจนที่สุด และมีความหมายว่า มีอุปสรรคนานับประการ เพราะภูเขานั้นก็เหมือนกับหินก้อนใหญ่ๆ  เป็นต้นกำเนิดของวิชาที่มีมานานประมาณ 5,000 ปี เป็นวิชาเก่าแก่ เป็นวิชาที่บัญญัติมาจากภูเขา แล้วก็ยังเป็นแหล่งของตำนาน ความเชื่อ ประเพณีต่าง ๆ ด้วย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ประเทศจีนเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ แล้วก็เป็นประเทศที่ให้ความหมายในเรื่องของทำเลค่อนข้างมาก ยุคนี้เป็นยุคของทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ก็ดูเหมือนจะพัฒนาไปถึงจุดนั้น ประเทศจีนยังมีความสำคัญในด้านที่ตรงกับศาสตร์ที่เราเรียนรู้กันอยู่ ถ่ายทอดออกมาในเรื่องของทำเล ภูมิประเทศ

ฮวงจุ้ยโชคลาภ, บ้านกับฮวงจุ้ย, จัดบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเตียงนอน

ประเทศจีนไม่เพียงแต่จะเป็นแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาล ยังเป็นดินแดนแห่งเทือกเขา ภูเขา สภาพภูมิศาสตร์ 2 ใน 3 ของแผ่นดินเป็นภูเขาและที่ราบสูง ในแผนที่ประเทศจีน จะมีภูเขาที่ยิ่งใหญ่ อยู่ 5 ขุนเขา

   1.  ขุนเขาทางด้านเหนือ คือ "เขาเห้งซัว"
   2.  เขาทางด้านตะวันออก คือ "เขาไท้ซัว หรือ ไท้ซาน"
   3.  ภาคกลาง คือ "เขาทรงซัว" ซึ่งเป็นที่ตั้งของ สำนักเสี่ยวลิ้มยี่
   4.  ทางด้านใต้ คือ "เขาห้วงซัว"
   5.  ทางด้านทิศตะวันตก คือ "ฮั้วซัว หรือ หัวซาน"


ใน 5 ขุนเขานี้ ภูเขาที่มีชื่อที่รู้จักกันมากคือ ภูเขาทรงซัว กับ ไท้ซัว เพราะเป็นสถานที่ที่กษัตริย์โบราณไปสักการะฟ้าดิน ในทางโหงวเฮ้ง ขุนเขาทั้ง 5 ก็ได้นำมาเปรียบเทียบในการสอนสำหรับชาวจีนว่า ทางด้านเหนือของหน้า คือ หน้าผาก เปรียบเสมือน เขาเห้งซัว ทางด้านตะวันตกและตะวันออก คือ แก้ม 2 ข้างเปรียบเสมือน เขาฮั้วซัวและไท้ซัว ตรงกลาง คือ เนินจมูก เปรียบเสมือน เขาทรงซัว ทางด้านใต้ คือ คาง เปรียบเสมือน เขาห้วงซัว เนินทั้ง 5 บนใบหน้านี้ต้องโหนกนูน

ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยร้านค้า, ฮวงจุ้ยห้องนอน, อาจารย์แอน
ทางด้านตะวันออกของจีน คือ เขาไท้ซัว เป็นธาตุไม้ สีเขียว เป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ จะเห็นว่า ทางด้านตะวันออกของจีนจะติดทะเลจีนใต้ และแถบนี้จะมีเมืองท่าหลายแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เซี่ยงไฮ้  ธาตุไม้ ตะวันออก หมายถึง การค้าขาย การขนส่งต่างๆ  ฤดูใบไม้ผลิ หมายถึง หยาง มังกรเขียว  ดังนั้นเขาไท้ซัวจึงให้ความหมายของ การเคลื่อนไหว ความอบอุ่น ความเป็นมังกรของพื้นที่  นอกจากนี้ ทิศตะวันออกยังหมายถึง ประสบการณ์ที่กว้าง และเป็นทิศของชายใหญ่ ชายฉกรรจ์ และเป็นทิศของการสร้างเสริมประสบการณ์  ถ้าหากว่ามีการส่งเสริมทางด้านการศึกษา เปิดมหาวิทยาลัยใหญ่ๆขึ้นในแถบนี้ ประเทศจีนจะมีความเจริญ ในปัจจุบันแถบนี้หนักไปทางค้าขาย อันนี้ก็ส่งเสริมเช่นเดียวกัน

ทางด้านตะวันตกของจีน คือ เขาหัวซาน เป็นตำแหน่งเสือ ธาตุทอง สีขาว เป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ร่วง ในทางฮวงจุ้ย แถบนี้จะเป็นลักษณะของหยิน  เขาทอดตัวยาวในแนวตะวันตก ก็ให้ความหมายของหยินเป็นใหญ่  ทางด้านตะวันตกเป็นถิ่นของวีรสตรีสำคัญๆของจีน ในบางแห่งของบริเวณนี้ มีความเชื่อว่ามีเจ้าแม่ ไซหวังหมู่ หรือที่เรียกว่า ซีหวังหมู่ มาประทับ (ไซ แปลว่าตะวันตก)  จึงทำให้บริเวณนี้ ปลูกท้อ ปลูกลิ้นจี่ และผลไม้อื่นๆได้ดีมาก เป็นที่อุดมสมบูรณ์

ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน, ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ตกแต่งร้านค้า, อาจารย์แอน
ทางด้านใต้ของจีน คือ เขาฮั้วซัว เป็นเขาซึ่งเลยคุนหมิงออกมาทางด้านกวางโจว  ทิศใต้เป็น ธาตุไฟ สีแดง เป็นสัญลักษณ์ของฤดูร้อน ความสมบูรณ์ของพืชพรรณต่างๆ  ทางด้านใต้นี้ จะเป็นแหล่งที่มีบัณฑิต กวี ที่มีชื่อเสียง ฉลาดเฉลียว อบอุ่น เนื่องมาจากได้รับอิทธิพลของ ภูเขา ทิศใต้ ธาตุไฟ ที่หมายถึงชื่อเสียง

ทางด้านเหนือของจีน คือเขา เห้งซัว เป็นธาตุน้ำ สีดำ เป็นสัญลักษณ์ของฤดูหนาว  ถ้าเลยจากเขาเห้งซัว ขึ้นไป ก็จะเป็นที่ราบกว้างใหญ่  ทางโหงวเฮ้ง เปรียบว่าเป็นส่วนของหน้าผาก ทางด้านเหนือนี้จะหมายถึง การประสบผลสำเร็จ ชัยชนะ  จึงมีการกล่าวกันว่าใครครอบครองดินแดนภาคเหนือของประเทศจีนได้ ก็มักจะได้ตีถึงเมืองหลวง อย่างกลุ่มของเมืองเหลียวในอดีตกลายมาเป็นกิมก๊ก แล้วก็กลายมาเป็นแมนจูในที่สุด  ดังนั้น บนใบหน้าของบุคคล หน้าผากก็เป็นจุดที่สำคัญที่สุด ซึ่งตรงกับนรลักษณ์ของอินเดีย ที่ว่าส่วนตรงกลางระหว่างคิ้ว เป็นจุดชีวิต

ตรงส่วนกลางของประเทศจีน คือเขา ทรงซัว เป็นธาตุดิน สีเหลือง  ธาตุดินเป็นตำแหน่งที่สำคัญ ทางโหงวเฮ้ง เปรียบว่าเป็น ตำแหน่งจมูก แสดงถึง ความกล้าหาญ และความหนักแน่น  ที่ประเทศจีน บริเวณนี้ จะเป็นศูนย์รวม ศิลปะวิทยาการของจีน  วัดเสี่ยวลิมยี่ก็อยู่บนยอดเขายอดหนึ่งบนเขาทรงซัวแห่งนี้


ตุ๊กตากับฮวงจุ้ย ตอนที่ ๒


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน


ในส่วนของตุ๊กตาของผู้ใหญ่ ก็จะเป็นตุ๊กตาที่เป็นวัตถุมงคล  หรือบางคนอาจจะชอบสะสมเหยี่ยวหรือพวกสัตว์ต่าง ๆ เราก็ต้องสังเกตดูอีกว่า สัตว์เหล่านั้นมีความหมายอย่างไร เช่น เหยี่ยว คือการแข่งขัน  เสือ ไม่ควรมีลักษณะที่กำลังหากินหรือเป็นเสือที่อด ลักษณะอย่างนี้เราต้องดูด้วย  หรือมีม้าที่มีความคึกคักอยู่อย่างสม่ำเสมอ มีหลักการวิชาการดี คืออยู่ที่ว่าเราสะสมอะไร

มีที่ทำงานแห่งหนึ่งทำงานเกี่ยวกับการก่อสร้างคอนกรีต ปรากฏว่าภายในห้องมีแต่รูปแรด ตั้งแต่ตัวใหญ่สุดจนกระทั่งถึงลูกแรด วางรายล้อมรอบตัวเต็มไปหมด ก็คือเขาชอบแรด  ผลก็คือ ตัวเขาต้องอดทนเหนื่อยยาก เขาทำเสาคอนกรีตอยู่แล้วก็ไม่เป็นไร แต่ก็ต้องอดทนและเหนื่อยเหมือนกับแรด มันไม่รวย คือ แรดมันมากไป  เลยให้เลือกตัวที่รักที่ชอบไว้สัก ๒-๓ ตัว แล้วหาสิ่งของอย่างอื่นที่มันเข้ากัน มาผสมผสาน  ทุกอย่างขอให้อยู่ในความพอดี อย่าให้มากเกินไป

แม้กระทั่งวัตถุมงคลต่าง ๆ ไม่ใช่ว่าเมื่อเดินเข้าห้องไปแล้ว พบแต่วัตถุมงคลเต็มไปหมดและมีขนาดใหญ่ยักษ์ทั้งสิ้น ถ้ามีขนาดเล็ก ๆ ก็ไม่มีผล แต่ถ้าใหญ่ตั้งเต็มไปหมด ก็จะส่งผลในลักษณะของการคุกคามบุคคลได้เช่นกัน อะไรก็ตามที่มันมากเกินไป ก็ย่อมไม่ส่งผลดีให้ หรือรูปปั้นที่เป็นลักษณะแบบโรมัน แม้ว่ามันอ่อนช้อย แต่อย่าลืมว่าเทพโรมันวุ่นวายที่สุด มีทั้งสงคราม อิจฉาริษยา มีทั้งแก่งแย่ง ซึ่งถือเป็นความหมายของโลกียะโดยสมบูรณ์


ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน
 

ตุ๊กตาไทยดีอยู่อย่างหนึ่ง คือ เขาไม่นิยมทำให้มันมีขนาดใหญ่โต หากทำขนาดเล็ก ๆ น้อย ๆ กระจุ๋มกระจิ๋ม ดูแล้วสบายตาสบายใจและร่มเย็น แต่ว่าเล่นมากไปหน่อย ก็จะเฉื่อยมากไปหน่อย สมมุติว่าเมื่อเข้าห้องไปแล้วมีแต่ตุ๊กตาแบบนี้ทั้งหมด ห้องนี้ควรที่จะใช้เป็นห้องพักผ่อนมากกว่า  ถ้าหากจะวางรูปปั้น ก็ต้องดูว่ารูปปั้นนั้นมีความหมายในเรื่องของการรบ หรือมีความหมายถึงความสงบสุข ก็ต้องดูอีกเหมือนกัน

มีบ้านหลังหนึ่ง ห้องภรรยามีรูปปั้นสุนัขตั้งเรียงไล่มาตั้งแต่ทางเข้า แล้วตรงโต๊ะที่นั่งก็ยังมีรูปปั้นสุนัขที่เป็นลักษณะรูปเหมือนจริงเลยนั่ง แยกเขี้ยวอีก ผู้เป็นสามีไม่เข้าห้องนั้นเลย เพราะว่าภรรยาดุ นั่นคือบรรยากาศในที่นั้นคือการป้องกันแล้วก็ดุ แต่เนื่องจากมันมีมากเกินไปภายในห้อง ก็เลยทำให้ดุ ตัวเราก็พลอยได้รับกระแสความดุตรงนั้นไปด้วย ทั้ง ๆที่เราไม่ได้ไปดุเหมือนรูปปั้นสุนัขนั้น แต่หมายความว่าบรรยากาศในห้องนั้นคือ “ความดุ”

เมื่อเราเข้าบ้านด้วยความหนักแน่นมั่นคง เพราะมีเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ ๆ น่าเกรงขามหมด เหล่านี้ก็ได้อีกอารมณ์หนึ่ง เราเข้าบ้านมีตุ๊กตาแบบไหนก็ก่อให้เกิดอารมณ์แบบนั้นเหมือนกัน ตุ๊กตาจึงมีผลต่อฮวงจุ้ยอย่างแน่นอน

ตุ๊กตากับฮวงจุ้ย ตอนที่ ๑

 


ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม

ตุ๊กตาของเด็กเข้าไปมีความเกี่ยวข้องกับหลักของจีนอย่างหนึ่ง ใน ๑๒ นักษัตรที่เทียบกันกับปี อย่างเช่น ปีชวด ซึ่งจะตรงกับทิศเหนือ ให้เราดูที่เข็มนาฬิกา โดยเริ่มที่เลข ๑๒ เป็นปีชวด แล้วเลข ๑ เป็นปีฉลู เลข ๒ เป็นปีขาล และไล่เรียงตามลำดับลงไป (ตามรูป) จนกระทั่งถึงปีกุน จะมาอยู่ที่เลข ๑๑ เท่านี้เราก็จะสามารถมองเห็นได้แล้วว่า มีนักษัตรใดที่อยู่ตรงข้ามกันบ้าง ซึ่งเราถือว่านี่คือการ “ชง” กันที่เห็นได้อย่างชัดเจน ตัวอย่าง เช่น ปีเถาะ จะชงกับ ปีระกา

คราวนี้เราก็ลองนำมาเปรียบเทียบกับตุ๊กตาของเด็ก ๆ กันดู ตัวอย่างเช่น ตุ๊กตามิ๊กกี้เมาส์ซึ่งก็คือ “หนู” หรือ “ชวด” นั่นเอง เรื่องที่นำมาเป็นตัวอย่างเกิดขึ้นกับบ้านหลังหนึ่ง ที่มีลูกสาวเกิดปีมะเมีย แล้วใช้ผ้าปูที่นอนและผ้านวมเป็นรูปมิกกี้เมาส์ เด็กเป็นโรคภูมิแพ้ซึ่งแพ้หลายอย่างหลายประเภทปนกัน มองหาเหตุและผล ดูสภาพแวดล้อม ดูกรรมพันธุ์หรืออะไร ๆ ก็ดูหมดแล้ว เป็นเพียงสิ่งที่บอกให้ทราบได้บางส่วนเท่านั้นว่าเป็นโรคภูมิแพ้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ได้บอกให้รู้ว่ามีบางอย่างที่มันชงกันอยู่ภายในห้องนอน อาจารย์แอนได้เลือกการจัดปรับธาตุน้ำเพราะเด็กธาตุน้ำ เอาน้ำไปไว้ที่หัวเตียงแล้วก็เปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้เป็นชุดตุ๊กตาผู้หญิงแทน และถ้าจะเล่นตุ๊กตาก็ให้เล่นตุ๊กตาสุนัขแทน

การจะดูว่านักษัตรปีใดถูกกับอะไรบ้าง ให้นับถัดไปทีละ ๕ โดยเริ่มนับจากชวดไป ๕ ปี ก็จะถูกกับมะโรง นับไปอีก ๕ ก็ถูกกับวอก เท่ากับ ชวด-มะโรง-วอก เป็นปีที่ถูกกัน หรือที่เรียกว่าเป็นพันธมิตรกัน หรือไตรภาคีกัน หรือ ถ้าเกิดปีมะเมีย นับไป ๕ จะเจอสุนัข จึงให้มีตุ๊กตาสุนัขได้ หากนับไปอีก ๕ ก็จะพบขาล ดังนั้นการรักษาทางการแพทย์ก็รักษาไปเป็นปกติ แต่ในลักษณะของการปรับธาตุในร่างกายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คือ ปรับฐานภายในร่างกายให้ดูดีเพื่อรักษาให้ถูกต้องแล้ว จึงค่อยมาปรับสภาพแวดล้อมที่ถูกกับตัวของเด็กเอง ถ้าเป็นพันธมิตรกันให้นับ ๕ จากปีเกิดไป เราก็จะสามารถรู้ได้ว่าเด็กควรจะเล่นตุ๊กตาอะไร หรือเราควรจะจัดหาอะไรมาเป็นของเล่นให้แก่เด็ก


ซินแสฮวงจุ้ย, ดวงจีน, โหราศาสตร์จีน, ฮวงจุ้ยเสริมโชค, อาจารย์แอน


หลักนี้ได้นำไปสอนในห้องเรียนแล้ว เช่น ตัวอย่าง มดเอ็กซ์คือปีมะเส็ง สัตว์เลื้อยคลานที่น่ารัก ๆ หรือตัวหนอน ตัวอะไรต่าง ๆ เราจัดเป็นปีมะเส็งหมด หรือ พวกหมี ถือเป็นวอก อีกประการหนึ่งตุ๊กตาที่มีอยู่ในบ้าน มันจะมีผลทางพฤติกรรมกับสิ่งแวดล้อมของเด็กอีกด้วย อย่างห้องเด็ก หรือ ห้องลูก ๆ มีแต่ตุ๊กตาหุ่นยนต์ มันมีความหมายคือการต่อสู้และความขัดแย้งกัน มันเป็นการก่อให้เกิดความก้าวร้าว นอกจากจะมีตุ๊กตาหุ่นยนต์แล้ว อาจจะมีนักเตะฟุตบอลอยู่อีกด้วย นั่นก็หมายถึงการแข่งขันกันอีก แปลว่าห้องเด็กนี้มีแต่บรรยากาศของการแข่งขัน และการต่อสู้กัน ซึ่งเด็กถ้าเกิดมีดวงชะตาที่กล้าแข็งมีดาวบาปเคราะห์กุม เด็กจะกลายเป็นคนก้าวร้าวได้


ฮวงจุ้ยโชคลาภ, บ้านกับฮวงจุ้ย, จัดบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเตียงนอน


ในขณะเดียวกัน ถ้าเด็กคนนั้นเป็นคนอ่อนแอ แต่เรากลับสนับสนุนให้เขาชอบสิ่งของเหล่านี้ เขาก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การจัดของเล่นในห้องควรจะให้สมดุลกัน มีนักฟุตบอล มีตุ๊กตาหุ่นยนต์ แล้วก็ต้องมีตุ๊กตาที่มีประโยชน์ ตุ๊กตาน่ารัก ๆ บ้าง คือเราดูความหมายตุ๊กตาที่อยู่ในห้องลูกด้วย คืออะไรถ้าเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ฟุ่มเฟือย เด็กก็อาจจะมีรสนิยมอยากได้ของจุกจิกอยู่ตลอดเวลา ถ้าเป็นตุ๊กตาน่ารัก ๆ เด็กนั้นจะมีนิสัยกระจุ๋มกระจิ๋ม

เรามาจัดหมวดหมู่ของตุ๊กตากัน โดยถ้าเราต้องการให้เป็นเด็กที่เป็นปกติธรรม ไม่โน้มน้าวจิตใจเขาไปข้างใดข้างหนึ่ง ในห้องจะต้องมีตุ๊กตาแต่พอควร อย่ามีตุ๊กตาแม่มดเต็มไปหมด เด็กก็จะมีอาการคล้ายแม่มดเจ้าเสน่ห์แสนกล เพราะว่ามันมีมากเกินไป คือทุกอย่างให้ประสมประสาน  โลกของเด็กก็ยังคงเป็นโลกของเด็ก โลกของตุ๊กตาก็ต้องมีดอกไม้ แล้วในโลกของความสวยงามอ่อนหวานแต่ก็ควรมีความเข้มแข็งเจืออยู่บ้าง คือนั่นหมายถึงว่าจะต้องมีการประสมประสานกันภายในห้องของเด็กนั้น



การจัดทำเลสอดคล้องกับการปฎิบัติ

 
การจัดบ้านให้เกิดความปลอดโปร่งเป็น เรื่องสำคัญ ถ้าพูดตามหลักโหราศาสตร์โบราณ จะบอกละเอียดถึงพลังของแต่ละทิศ  การจัดที่อยู่อาศัยให้สบาย จะช่วยเสริมสร้างพละกำลังให้กับตัวเรา ทั้งสุขภาพร่างกายและสติที่แจ่มใส ซึ่งสามารถแจกแจงออกเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้

ลำดับที่ 1

ต้องพิจารณาว่าบ้านมีขนาดเป็นอย่างไร อากาศหมุนเวียนถ่ายเทพอไหม ในทางฮวงจุ้ย บัญญัติไว้ว่า ประตูหนึ่งบานต่อหน้าต่างสามบาน เนื่องจากจะทำให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศที่เหมาะสมและกลมกลืน ในทางปฏิบัติจริง เราสามารถดูได้จาก กระแสที่เราเดิน เราเดินเข้าบ้านมาแล้วเดินไปห้องน้ำ เดินไปห้องครัว ไปห้องต่าง ๆ ติดขัดหรือเปล่า เช่น ต้องเดินขึ้นเดินลง เดินแล้วต้องลอดบ้าง ปิดกั้นต้องอ้อมบ้าง อย่างนั้นเดินไม่สะดวก เดินเป็นซอกหรือเปล่า ดูอากาศถ่ายเท พยายามให้เกิดการถ่ายเทด้วยแสง ด้วยลม ด้วยกระจก คือ ดูให้มีความกว้างขึ้น


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน


ลำดับที่ 2

ความโปร่ง บางครั้งสถานที่ของเราเป็นทาวน์เฮ้าส์หรือตึกแถว จะมีพื้นที่จำกัด การเลือกเฟอร์นิเจอร์ก็ต้องเลือกที่ใช้พื้นที่น้อย ประโยชน์ใช้สอยมีมาก มีขนาดพอดี ไม่ใหญ่เกินไป  ดูว่าเก้าอี้ใหญ่เกินห้อง คับห้อง หรือต้นไม้ใหญ่ที่คุกคามคน ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดโปร่งหรือไม่  บนโต๊ะมีของวางรกหรือไม่ ถ้ามีหลาย ๆ จุด  มีทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่หนัก ทั้งของรก ก่อให้เกิดความไม่ปลอดโปร่ง เราต้องจัดในลักษณะที่มีที่โล่งพอสมควร อาจจะรกได้บ้างแต่ต้องไม่มากเกินไป


ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน


ลำดับที่ 3

ความสดใสหรือจุดเด่น เราเข้าบ้าน บ้านเรามีจุดเด่นหรือไม่ เหมือนภาพวาด เราจะวาดอะไรสักอย่างต้องมีจุดประสงค์ เช่นเราจะวาดนก เราต้องให้นกดูเด่นกว่า แล้วมีส่วนประกอบ เช่นต้นไม้มีรัง มีท้องฟ้า มีบ้านคนเล็ก ๆ อันนี้มีนกเป็นจุดเด่น  อย่างที่บ้านเรา ถ้าเราจัดบ้าน เราต้องการความสดใส สดชื่น อาจเป็นสีสันของดอกไม้ ตุ๊กตา ของเล่น ของใช้ หรือของที่เราได้รับรางวัลมา เราต้องจัดให้ดูเด่น อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ใช่เด่นทั้งบ้าน

ลำดับที่ 4

ดูความสมดุลในบ้านของเรา ถ้าเรามีของเก่าหรือของโบราณ เราจะต้องมีศิลปะในการตกแต่ง เพื่อให้เกิดความสมดุล ดูแล้วไม่ขัดกับความรู้สึก ดูแล้วไม่มืด หนัก แข็ง  เราเอาความรู้สึกของเราที่เข้าบ้านทุกวันดู  คนที่ปฏิบัติธรรมจะเกิดความสมดุลในจิตใจที่บอกว่า รู้เหตุ รู้ผล รู้การณ์ รู้ประมาณตน รู้ตน รู้บุคคล การจัดบ้านของเรานอกจากจะดูให้หมุนเวียนปลอดโปร่ง ดูแล้วสบายตาสบายใจแล้ว ต้องดูกลมกลืน ดูสว่าง เป็นจุดเด่น อาจจะเรื่องเฟอร์นิเจอร์ที่เท่ากัน 2 ข้าง ไม่เอียงข้าง หรือของที่มืดเกินไป ก็ต้องมีของที่สว่าง ที่สงบนิ่ง ถ้ามีของเก่าแก่ ต้องมีของใหม่ ตกแต่งควบคู่กันแล้วดูสมดุลกลมกลืน

ลำดับที่ 5

การติดรูปภาพ ควรติดรูปภาพที่ให้ความรู้สึกที่ดี สอดคล้องกับสิ่งที่เราทำอยู่ และสอดคล้องกับห้องนั้น ๆ เพราะแต่ละห้องจัดเพื่อวัตถุประสงค์แต่ละอย่าง รูปภาพก็ต้องสอดคล้อง เช่น ถ้าเป็นห้องพักผ่อนหย่อนใจแต่ติดรูปที่รบกันไว้ ก็ไม่สอดคล้องกลมกลืน ถ้าเป็นห้องอาหารแต่ติดรูปคนอดหิวโซ ก็ไม่สอดคล้องกลมกลืน หรือถ้าเป็นห้องนอน แต่ติดรูปคนกำลังปั่นจักรยาน ก็ไม่เหมาะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเหมาะสม


ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม


ในการจัดบ้าน หากเราดูรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยมีเคล็ดอย่างนี้ สอดคล้องกับที่เราปฏิบัติในแต่ละวัน การใคร่ครวญต่างๆตามพระธรรม  เข้าหลักฟ้าประทาน ดินบันดาล ประสานบุคคล  ฟ้าประทาน คือ เรื่องของดวงดาวว่าเรามีวาสนาขนาดไหน เราก็ควรประมาณตนตรงนั้น  ดินบันดาล คือ การปรับแต่งทำเลให้สอดคล้องกลมกลืนในลักษณะที่กล่าวข้างต้น การดูแลเอาใจใส่บ้าน สุขอนามัยต่าง ๆ  การประสานบุคคล คือ การปฎิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะดำรงชีวิตได้อย่างสุขสบาย

อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดทำเล ตอนที่ 2

 
4.  เสียง คล้าย ๆ กับแสงสว่าง เป็นตัวทำลายหยิน เป็นการก่อสภาพของหยางที่มีลักษณะการเคลื่อนไหว มีชีวิต บางห้องเราไม่ได้ใช้งาน ก็ต้องทำให้ห้องนั้นเกิดเสียง เช่นเปิดเครื่องเสียงไว้ก็ได้ หรือบ้านที่มีความเงียบเอามาก ๆ ให้ติดกระดิ่งลมเอาไว้ หรือนาฬิกาที่มีเสียงนกร้องเป็นระยะ จะทำให้บ้านที่เงียบ มีคนอยู่น้อย เกิดการเคลื่อนไหวขึ้น ก็ทำให้เป็นทำเลหยาง หรือการเปิดทีวีถือว่าเป็นหยาง


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน


5.  น้ำ มีประโยชน์มากในการแก้ไขทำเลฮวงจุ้ย นอกจากใช้แก้สิ่งที่ไม่ดีแล้ว ยังเสริมให้มีโชคลาภได้อีกด้วย เพราะฉะนั้น น้ำ หมายถึง ทรัพย์สินเงินทอง มนุษยสัมพันธ์ การก่อสภาพหยางให้เกิดขึ้น  น้ำที่ใช้แก้ไขทำเลฮวงจุ้ย คือ น้ำพุ หรือน้ำในตู้ปลา (เพราะเป็นน้ำที่มีการเคลื่อนไหว)  ข้อสำคัญ ในที่ที่เราอยู่อาศัยนั้นน้ำต้องไม่เสีย


ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม


ตู้ปลา แก้ฆาตร้ายได้ดีที่สุด การตั้งตู้ปลาได้ ต้องมีสภาพที่เป็นหยาง มีการเคลื่อนไหว ต้องไว้ในทิศทางที่ถูกต้อง คือ ทิศตะวันออก  ทิศตะวันตก  ทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือตรงประตูทางเข้าบ้าน เป็นการแก้ไขบ้านที่ถูกกระแสพิฆาตร้ายได้  แต่ถ้าฮวงจุ้ยดีอยู่แล้ว การใช้ตู้ปลาวางในบ้านเป็นการเพิ่มและกระตุ้นพลังของโชคลาภ พลังของชี่ให้หมุนเวียน เพราะฉะนั้น ตู้ปลาจึงจัดเป็นอุปกรณ์ดีที่สุดอย่างหนึ่ง หรือบางบ้านอาจจะติด โป้ยก่วย แต่ถ้าจะให้เกิดความสอดคล้องกับธรรมชาติเราจะไม่ค่อยนิยมใช้โป้ยก่วยกัน จะใช้ต้นไม้เป็นหลักมากกว่า

6.  รูปปั้น วัตถุประสงค์หลัก ๆ ของการใช้รูปปั้นจะช่วยให้เกิดความหนักแน่น เช่น บางบ้านที่ขาดธาตุดินหรือธาตุทอง ก็ใช้รูปปั้นหนัก ๆ แทนได้ หรือจะใช้รูปสัตว์ที่เป็นมงคลก็ได้ เช่น มังกร สิงโต หงส์ เสือ เต่า ม้า เป็นต้น  (ต้องดูเจ้าของบ้านด้วย ว่าเหมาะสมและสอดคล้องกันหรือเปล่า)  บ้านที่ขาดธาตุดิน ในห้องครัวควรใช้ภาชนะต่าง ๆ เป็นดิน เพราะจะสร้างความหนักแน่นในชีวิตสมรสและทรัพย์สินเงินทอง


ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน

ตัวสัตว์ต่าง ๆ มีความหมายที่แตกต่างกันไป เช่น
มังกร คือ ความดีงาม โชคลาภ
สิงโต เสือ คือ การให้พลัง อำนาจ ความกล้าหาญ
ม้า คือ ความกระตือรือร้น (เหมาะไว้ในห้องเด็ก แต่ไม่เหมาะกับเด็กที่เกิดปีชวด และปีฉลู)
ช้าง คือ ให้ความแข็งแรง แต่ต้องเป็นช้างต้น ช้างทรง
หงส์ คือ ความซื่อสัตย์
นกกระเรียน คือ เกี่ยวกับความรู้
นกยูง คือความสง่า เกียรติยศ
เต่า คือ อายุยืน
กิเลน คือ โชคดี
เป็ด คือ ความรัก ความจงรักภักดี
ไก่ฟ้า คือ โชคลาภ


7.  สี ในทางฮวงจุ้ยมีอิทธิพลกระทบต่อธาตุ ต่อทิศ การแก้ไขทำเลไม่ดีบางจุดที่ไม่สามารถใช้วัตถุเข้าไปวางได้ จึงใช้สีเข้าไปแทน บางคนใช้สีของดอกไม้ ผ้า วัสดุ วัตถุที่จัดวาง (ฮวงจุ้ยพิชัยสงคราม จะใช้สีตามดวงดาว ตามดวงชะตาของแต่ละบุคคล)

แต่สีในทางธาตุ
ในตำแหน่งที่เป็นธาตุดิน ควรใช้สีขาว สีเหลือง
ในตำแหน่งที่เป็นธาตุทอง ใช้สีขาว
ในตำแหน่งที่เป็นธาตุน้ำ ใช้สีเข้ม ๆ เช่น สีดำ สีน้ำเงิน
ในตำแหน่งที่เป็นธาตุไม้ ใช้สีเขียว
ในตำแหน่งที่เป็นธาตุไฟ ใช้สีเข้ม เช่น แดง ส้ม ชมพู


การใช้สีให้สอดคล้องกับบ้าน สอดคล้องกับตัวบุคคล ให้ยึดตามดวงชะตาของแต่ละบุคคลเป็นหลัก ถ้าหากมีการแก้ไขทำเลแล้ว ไม่ควรไปปรับเปลี่ยนแก้ไขอะไรอีก  การจัดปรับแต่งทำเลด้วยการใช้วัสดุสิ่งของต่าง ๆ เราจำเป็นต้องรู้ถึงทิศ ธาตุ ความหมายของมันด้วย เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกลมกลืน มิฉะนั้นการจัดเสริมตำแหน่งต่าง ๆ เพื่อให้เกิดผลดี ส่งเสริมแก่ดวงชะตา อาจกลายเป็นการจัดปรับแล้วเกิดข่มธาตุกันเอง หรือพิฆาตกันเองได้ ต้องระมัดระวังในจุดนี้ด้วย



อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดทำเล ตอนที่ 1

คือ อุปกรณ์ เครื่องมือ วัสดุสิ่งของต่าง ๆ ที่นำมาใช้แก้ไข หรือใช้ในการปรับแต่งฮวงจุ้ย  อุปกรณ์ที่มีอยู่ในธรรมชาติที่เราสามารถนำมาช่วยแก้ไขทำเลมีอยู่มากมาย หลายอย่าง แต่ที่นำมาใช้แล้วเกิดประสิทธิภาพ มีอยู่ไม่กี่อย่าง เช่น


ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน, ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ตกแต่งร้านค้า, อาจารย์แอน


1. ต้นไม้ จัดว่าเป็นอุปกรณ์ที่ดีที่สุด เพราะถือว่าเป็นตัวยาสารพัดประโยชน์ที่ใช้ในการแก้ไข อีกทั้งยังให้ประโยชน์ในทางสภาพแวดล้อมด้วย ช่วยลดมลพิษ ช่วยฟอกอากาศ ให้ความสวยงาม และทำให้เกิดความสมดุลกลมกลืนกับธรรมชาติ ช่วยทำให้สภาพแวดล้อมน่าอยู่ ให้ร่มเงาบังแดด ช่วยลดกลิ่นหรือเสียงที่รบกวนต่าง ๆ ฯลฯ ทั้งปิดบังทัศนียภาพไม่สวยงาม เช่น ที่รกร้าง โรงงาน สุสานใกล้บ้าน กองขยะ หรือแม้แต่ทำเลที่ไม่เหมาะสม ก็เอาต้นไม้มาวางได้ หรืออะไรที่พุ่งตรงเข้ามา มีลักษณะแหลมคม ปลูกต้นไม้กันก็สามารถช่วยกันได้หมด (ลักษณะของศรพิฆาตที่พุ่งเข้ามา ต้นไม้ช่วยแก้ได้ ดังนั้นปลูกไม้ใหญ่แก้ไขทำเลได้ หรือเป็นไม้เลื้อยก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมตรงนั้นด้วย) หรือแม้แต่มุมแหลมของเสาในบ้าน แก้ไขมุมที่ขาด หรือเว้าแหว่งของรูปทรงบ้าน หรือจุดที่แหลมที่เรียกว่า "ชายธง" การปลูกไม้ใหญ่สามารถช่วยแก้ไขทำเลได้ที่เสียตรงจุดนี้ได้

โดยมาก นิยมใช้ต้นไม้ในการแก้ไขทำเลมากที่สุด ทำเลที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบจากภายในบ้านหรือนอกบ้านก็ตาม ข้อควรระวัง อย่าให้ต้นไม้ตาย เฉา หรือปลูกมากเกินไปจนกลายเป็นรกครึ้ม (เป็นทำเลหยิน) และบ้านที่ปลูกต้นไม้ครึ้มล้อมรอบบ้านไปหมด อาจเกิดภาวะหยินพิฆาตได้ เพราะว่ามีความเป็นหยินมากเกินไป เพราะฉะนั้นในการแก้ไขทำเลทุกอย่างต้องอยู่ในความพอดีหรือเหมาะสมกับทำเล นั้น ๆ


ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งคอนโด, จัดสวน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยครัว, อาจารย์แอน
 

2.  กระจกเงา มีความนิยมมากพอ ๆ กับต้นไม้ แต่มักจะใช้ภายในบ้าน (ใช้นอกบ้านหรือหลังคา อาจโดนฟ้าผ่าได้) เพราะฉะนั้น การใช้กระจกเงาแก้ไขทำเลต้องระมัดระวังและวางให้ถูกตำแหน่ง เช่น ในพื้นที่ที่แคบ ใช้กระจกเงาเพื่อให้พื้นที่นั้น ๆ ดูกว้างขึ้น แต่ไม่ใช้ในห้องนอน เพราะติดแล้วถ้าหากกระจกส่องตัวเราหรือเตียงนอน ทำให้เกิดสภาวะการเป็นหยางมากเกินไปหรือเรียกว่าหยางพิฆาต  กระจกเงาสามารถทำให้เกิดการสะท้อนกลับได้ด้วย เช่น เราติดไว้ในมุมหนึ่งเพื่อสะท้อนกลับในสภาพที่เราไม่ต้องการในบ้าน หรือสะท้อนเข้ามาในบ้าน คือ มองแล้วเห็นอะไรในกระจก เช่น รูปน้ำ ตึกสวยงาม แต่ถ้าเห็นเป็นมุมแหลมหรือปลายแหลมพุ่งเข้ามา อย่างนี้ไม่ได้ หรือสะท้อนเมรุเข้ามาอยู่ในบ้านก็ไม่ดี

ตัวอย่างเช่น ติดกระจกเงาเพื่อสะท้อนให้ร้านทองมาอยู่ในบ้าน จะได้ร่ำรวย ทำได้แต่ผิดความหมาย และต้องดูธาตุในบ้านด้วยว่า บ้านประกอบด้วยธาตุอะไรบ้าง เช่น ถ้าบ้านเรามีธาตุไม้อยู่เต็มไปหมด จู่ ๆ ก็มีธาตุทอง (ของร้านทองทางกระจก ) สะท้อนเข้ามา ทองตัดไม้ ไม่ดี ต้องดูว่าวัฏจักรในบ้านของเราว่า ธาตุดิน เสริม ธาตุทอง เสริม ธาตุน้ำ เสริม ธาตุไม้ มีทุกอย่างครบในบ้านแล้วมีธาตุทอง เข้ามาเสริมก็จะดี เพราะฉะนั้นการใช้กระจกต้องพิจารณาให้ดีก่อน เช่น ขยายพื้นที่ ถ้าตึงมากไปจะกลายเป็นหยางพิฆาต หรือสะท้อนน้ำ ต้องดูว่าตรงทิศหรือเปล่า ต้องเป็นน้ำตะวันออก ตะวันตก ตะวันตกเฉียงใต้ เป็นน้ำดี น้ำเงินน้ำทอง  และการติดกระจกภายในบ้านให้สังเกต เวลาเดินผ่านต้องสามารถมองเห็นได้เต็มตัว ไม่ใช่หัวขาด ตัวคด อย่างนี้ไม่ถูกต้อง

กระจก แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ เรียบ นูน เว้า แต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน
ลักษณะเรียบ จะสะท้อน กับดึงดูด
ลักษณะเว้า ช่วยแก้ไขในสิ่งปลูกสร้างที่มีทรงแหลม เช่น ตึกสูง หรือเสาไฟฟ้าแรงสูง จะเปลี่ยนสภาพนั้นให้หัวกลับ
ลักษณะนูน จะแก้ไขธาตุลม หรือ ซอกตึก ทางสามแพร่ง เป็นการเปลี่ยนกระแสของทิศทางไปตามกระจกโค้ง



อาจารย์หม่า, ซินแสภาณุวัฒน์, หมอช้าง, หมอลักษณ์, อาจารย์มาศ, อาจารย์แอน
 

3.  แสงสว่าง ส่วนใหญ่ใช้ในกรณีที่ต้องพิฆาตหยิน หมายถึง สถานที่นั้น ๆ เป็นหยินล้วน บ้านที่มีความเป็นหยินมากเกินไป แสงสว่างจะช่วยปรับสภาวะความสมดุลของหยินหยางได้ดี เช่น บ้านที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ ทำให้มีแสงสว่างน้อย พื้นที่ข้างบ้านที่รกร้างว่างเปล่า ในบ้านของเราต้องมีแสงจากไฟฟ้าหรือช่องแสง  ถ้าบ้านที่มืดจริง ๆ ต้องเปิดไฟไว้เสมอ โดยเฉพาะไฟตรงบันได  แสงสว่างยังช่วยแก้ไขสภาพบ้านที่มีพื้นที่ที่ไม่เท่ากัน เช่น บ้านที่มีหลังบ้านต่ำกว่าหน้าบ้าน (ตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าไม่ดี) การติดไฟไว้บริเวณหลังบ้านจะช่วยให้พื้นที่บริเวณนั้นเท่ากันได้ หรือบ้านที่มีรูปทรงตัว L (แอล) คือ บ้านขาด หรือ ตัว T (ที) ก็ติดไฟไว้ตามมุมที่ขาด แสงจะสาดทำให้พื้นที่นั้นเท่ากันได้ ถ้าหากเป็นพื้นที่ต่ำ ให้ติดไฟลักษณะเป็นช่อหงายขึ้น จะเป็นการช่วยดึงดิน หรือพื้นที่ให้สมดุลกันได้

ต้นไม้ที่ปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคล

ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน, ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ตกแต่งร้านค้า, อาจารย์แอน

ต้นมะยม

ตามชื่อก็นิยมปลูกเพื่อให้เป็นที่นิยม แล้วอีกแง่หนึ่ง ต้นมะยมก็จะเป็นไม้ยมฑัณฑ์ของพระยม ชื่อไปพ้องกัน มุ่งเน้นในอำนาจขับไล่พวกภูตผีปีศาจด้วย ซึ่งเป็นตำนานเดิม  สมัยก่อนบ้านใครที่มีผึ้งมาเกาะทำรังต้นมะยมก็เชื่อกันว่าเจ้าของบ้านจะมี ความสุขความเจริญ  ปกติเกาะที่ตัวบ้านก็ว่าดีแล้ว เกาะต้นมะยมอีกยิ่งดีไปใหญ่ ขี้ผึ้งจากรังผึ้งที่มาจากต้นมะยมก็สามารถนำไปทำขี้ผึ้งสีปากก็เชื่อว่าเป็น เมตตามหานิยม

ถ้าหากต้นมะยมเป็นตัวผู้ไม่ออกลูกแล้วก็ตายเองไม่ใช่ไปทำให้มันตาย จะนำเอาต้นกับรากมาทำเครื่องราง แกะเป็นรูปรูปตุ๊กตาเป็นเจ้ายม แล้วก็แกะแม่นางกวัก จะถือว่าขลังที่สุด บางตำรายังบอกอีกว่ารากมะยม ถ้ารากชื้ไปทางตะวันออกสามารถนำมาทำของขลัง แต่ตอนที่ไปขุดต้องมีดอกไม้ หมากพลู ธูปเทียนไปสังเวยเทวดาคือไปขอแล้ว ก็แกะรูปกุมาร ทำเด็กหัวจุกแล้วตั้งท่ากำหมัดชกมวยปลุกเสกทำไสยศาสตร์ใส่ขวดแช่น้ำหอมรวม กับเจ้ารัก เรียกว่ารักยมเวลาไปไหนเอาน้ำมันหอมเจิมหน้าทาคิ้ว ใครเห็นก็รักชื่นชมเสกเมตตาลงไป ใส่น้ำมันหอมลงไป เหล่านี้คือที่มาของรักยมและต้องเป็นต้นมะยมตัวผู้

มะยม มีรสเปรี้ยวดังนั้นการปลูกต้นมะยมไม่ควรปลูกไว้ทางด้านทิศตะวันตกหรือตะวัน ตกเฉียงเหนือของพื้นที่ดิน เพราะว่าทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือเป็นธาตุทอง รสเปรี้ยวเป็นธาตุไม้ซึ่งขัดกัน จะทำให้เมล็ดมะยมไม่สวยและมีขนาดเล็ก และยังให้ผลในเรื่องการขัดแย้งแทนที่จะเป็นเมตตามหานิยม เพราะฉะนั้น ต้องดูทิศที่จะปลูกด้วย ทิศที่ดีคือทางด้านทิศตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้


ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งคอนโด, จัดสวน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยครัว, อาจารย์แอน


ต้นมะขาม

เป็นต้นไม้ที่คนไทยคุ้นเคย จริงๆแล้วทางฮวงจุ้ยจะถือว่าเป็นไม้หนามที่ไม่ควรจะปลูก ถือเป็นอุปสรรคขวากหนาม  ทีนี้ถ้าเรามามองดูถ้าไม่นึกถึงที่คนโบราณพูด ต้นมะขามจะอยู่ในพื้นที่ที่แห้งแล้งคือดินจะไม่ค่อยดี หรืออาจจะเป็นดินชุ่มน้ำด้วยซ้ำไป ถ้าเป็นต้นมะขามเทศจะเป็นดินที่ปนทรายหรือแข็งนิดหน่อย ต้นมะขามลักษณะแบบนี้ ทางฮวงจุ้ยถือว่าดินไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์ ยกเว้นเป็นพืชเศรษฐกิจแล้วต้องอาศัยดินดีอันนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในที่นี้หมายถึงมะขามที่มันขึ้นเอง

คนไทยตามประเพณีตามความเชื่อ กลับเห็นว่าตามตำราให้ปลูกมะขามไว้หน้าบ้านจะทำให้เกิดตบะเดชะ เป็นที่ยำเกรงของคนทั่วไป โจรผู้ร้ายจะอยู่ห่างไม่มาแวะเวียน ถือว่ามะขามไปพ้องกับความน่าเกรงขามนั่นเอง เหล่านี้คือตำราของไทย ตบะเดชะ หมายความว่าสำหรับพื้นที่หรือว่าบ้านที่มีผู้ชายที่มีนักรบหรือทำหน้าที่ ต้องใช้เดชใช้อำนาจ แต่ถ้าหากไปอยู่ในบ้านที่มีแต่ผู้หญิง หรือเป็นคหบดีค้าขายธรรมดาก็คงไม่เหมาะเช่นกัน และสอดคล้องกับทางจีนจะถือว่าเป็นไม้หนาม


อาจารย์หม่า, ซินแสภาณุวัฒน์, หมอช้าง, หมอลักษณ์, อาจารย์มาศ, อาจารย์แอน

ต้นขนุน

ไม้ขนุน คนไทยรู้จักดีและก็ชอบด้วย คือผลมีรสหวานกินแทนของว่างได้ ขนุนปลูกบริเวณทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ตรงตามหลักของฮวงจุ้ยด้วย เพราะว่าขนุนมีรสหวาน ทิศตะวันตกเฉียงใต้ดินรสหวาน ทางไทยมีความเชื่อว่าสามารถป้องกันโทษร้ายได้ อาจารย์บางท่านนิยมใช้ไม้ขนุนทำฐานพระพุทธรูปและใช้ไม้จากต้นโพธิ์อีกด้วย แล้วบรรจุดวงชะตาเข้าไป

ไม้ขนุนถือเป็นการหนุนนำแล้วก็แก้ไขให้ดวงชะตานั้นดีขึ้น คือหนุนดวงชะตานั่นเอง แล้วก็ทำให้คนเกิดความบริบูรณ์เพียบพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติและบริวารแทนที่จะ เอาแค่ขนุนมาทำเป็นไม้ฐานแล้ว ก็เลยปลูกทั้งต้นเท่ากับหนุนทั้งบ้าน นี่คือความเชื่อซึ่งเป็นความเชื่อเหมือนกับทางจีน เป็นไม้เนื้อแข็งที่สามารถจะปลูกทางตะวันตกได้ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งตะวันตก เฉียงใต้

มะนาว

อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือ พื้นที่ที่อยู่ใกล้รก ใกล้พง ใกล้ที่ลุ่ม อาจารย์แนะนำว่าให้ปลูกต้นมะนาวไว้เพราะบริเวณนั้นงูพิษเยอะ คือ มะนาวเป็นต้นไม้ที่แพ้กันกับงู ถ้าปลูกมะนาวเอาไว้ หรือปลูกของเปรี้ยว มะกรูด มะนาว งูจะไม่มี จะไกลจากอสรพิษทันที อันนี้คือประโยชน์ของมะนาว การปลูกมะนาวตามตำราบ้านไทยจะให้ปลูกทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือ แต่ถ้าเป็นศาสตร์ทางฮวงจุ้ยจะปลูกทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้เพราะตรงนั้น เป็นดินเปรี้ยว ทิศของพื้นที่


ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม

ต้นใบเงินใบทอง

คนเฒ่าคนแก่จะนิยมปลูก ใบจะออกด่างๆ เป็นสีขาวๆซึ่งจะไม่เรียกกันว่าสีขาว เรียกว่าใบเงินใบทองแทน เป็นไม้ประดับที่คนไทยนิยมปลูกกันมาก ถือว่าถ้างดงามดีก็จะส่งเสริมให้เจ้าของบ้านมั่งมีเงินทองคล้ายกับต้นวาสนา เหมือนกัน ไม่มีการมาตัดยอด อาศัยการดูแลเอาใจใส่และบำรุงค่อนข้างมากและถือเป็นต้นไม้มงคล

สีต่าง ๆ และอารมณ์ของสี


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน

โดยทั่วไป ปุถุชนคนธรรมดาที่ยังมีอุปทานอยู่ ก็มักจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสีหรืออารมณ์ของสี ผู้ที่เรียนในเรื่องเกี่ยวกับทฤษฏีสี คงจะทราบดีว่ามีผลค่อนข้างมาก คือจิตยังคิดปรุงแต่ง ทำให้มีอารมณ์และความรู้สึกไปตามสีนั้นๆ  สีของแต่ละเผ่าแต่ละชาติมีอิทธิพลไม่ค่อยเหมือนกันใน เพราะว่าเบื้องหลังของชีวิตหรือประสบการณ์ชีวิตไม่เหมือนกัน  อย่างชาวต่างชาติก็คิดว่าสีนี้ให้อารมณ์อย่างนี้ ในขณะที่ของไทย อินเดีย หรือของจีนจะไม่เหมือนกัน เบื้องหลังประสบการณ์ก็ต่างกัน กรรมจำแนกสัตว์ อุปทานก็เลยไม่เหมือนกัน

ศาสตร์อิทธิพลของสี จะใช้ไม่ได้สำหรับผู้ที่มีจิตหลุดพ้นแล้ว  จิตที่หลุดพ้นจากอุปทานหรือทำขันธ์ 5 ให้ว่างได้แล้ว ถือว่าเป็นนักปราชญ์หรือบัณฑิตที่ไม่ได้รับอิทธิพลจากสิ่งเหล่านี้อีกต่อไป  เพราะจิตแน่วแน่แล้วก็นิ่ง แต่ว่าทางสายเซน เซนหมายถึงการทำจิตให้เข้าถึงความว่าง ทำจิตให้เข้าถึงปัญญาหรือพุทธิปัญญา  ได้พูดถึงอิทธิพลของสีต่างๆ ขึ้นมา ซึ่งจะออกไปในเรื่องของธรรมชาติหรือภายใต้อิทธิพลของดวงดาวนั่นเอง จึงได้นำมาพูดคุยให้ฟัง เพราะว่าจะตรงกันในเรื่องของอิทธิพลกับดวงดาวบนท้องฟ้าอย่างเช่น

ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน

สีขาว ทางเซนก็จะหมายถึงความบริสุทธิ์ ความผ่องใส ความสะอาด คือการเห็นดอกไม้สีขาวต่างๆ ให้ความรู้สึกสบายใจ สีต่าง ๆ จะให้อารมณ์ที่ไม่เหมือนกัน แต่สีขาวจะให้อารมณ์นิ่งๆ จะให้ความว่าง เพราะฉะนั้นสีขาวจึงเป็นสีที่ผู้ที่ปฏิบัตินิยมใช้ เราจะเห็นว่าผู้ที่ถือศีลจะต้องใส่สีขาว ถ้ายังไม่ถึงบวชก็ใส่สีขาว คืออารมณ์ที่นิ่งแล้วก็สบายใจ

สีดำ เป็นสีที่เศร้า คือทำให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่างกับสีขาวค่อนข้างมาก สีดำจะซ่อนความเร้นลับ เป็นเครื่องหมายของอารมณ์เศร้าหมองในใจ ความรู้สึกมืดมัว หนักแน่น บึกบึน แข็งแรง อดทน ความกลัวผสมผสานกับความเหี้ยม ความดุร้ายและกล้าหาญ สีเหล่านี้ถ้าเราเทียบกับดวงดาวก็คือดาวเสาร์นั่นเอง ซึ่งอันนี้ลูกศิษย์ก็จะทราบดีอยู่แล้วว่าสีดำเป็นสีประจำของดาวเสาร์


ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม


ถ้าบังเอิญเราเห็น สีแดง หรือ สีชมพู เขาบอกว่าการสอบอารมณ์กัมมัฏฐานของบางคน ถ้าลองมองเห็นสีแดง มันหมายถึงชีวิตที่ยังมีความตื่นเต้น เลือดเนื้อที่ยังรับรู้หรือว่าตื่นเต้นไปกับสิ่งต่างๆ แต่ก็เป็นสีที่เป็นแรงกระตุ้นเร้าใจ กล้าหาญ มีความรุนแรง แม้กระทั่งเกี่ยวกับสงคราม สีแดงก็ทำให้เกิดความกระตือรือร้น ไฟแห่งความมุ่งมั่นและเอาชนะ เพราะฉะนั้นสีแดงหรือสีชมพูเป็นสีของดาวอังคารนั่นเอง

สีเทา จะคล้าย ๆ กับสีดำแต่ก็ยังอ่อน เพราะว่าผสมสีขาวเข้าไปด้วย อันนี้กว่าจะพบหนทางหรือพบสติปัญญา เกิดความลังเล  เพราะฉะนั้น สีเทาจะเป็นสีที่ค่อนข้างซึมเศร้า เหนื่อยหน่าย และก็เหงาหงอย เป็นสีของดาวเสาร์เช่นกัน แต่เป็นสีดาวเสาร์ที่เสื่อม ไม่รุนแรง ที่ภาษาโหรเรียกว่าเสาร์เป็นนิจหรือเป็นประนั่นเอง

สีเขียว เป็นสีที่เย็นตาเย็นใจ ดอกไม้สดใสใบเขียว ดอกไม้สดต่าง ๆ หรือหยก มรกต สีพวกนี้ให้ความรู้สึกที่เย็นตา เย็นใจ แล้วก็กระชุ่มกระชวย เราจะสังเกตได้ว่าการปฏิบัติธรรมในบางครั้งต้องท่องป่า เพราะว่าพระผู้ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านมองสีเขียวแล้วให้เกิดความสงบด้วย  การที่เพ่งดูสวนป่า ใบไม้ใบเขียวสดใส ดูไปนานๆ มันคือความสงบของจิต จิตจะไม่เกาะเกี่ยวคือเห็นธรรมชาตินั่นเอง ตัดอารมณ์เดิมลง แล้วก็มักน้อยลง แล้วก็มีผลทางสมาธิด้วย  ซึ่งอันนี้มันตรงกับดาวพุธ ซึ่งเป็นมหาอุจจ์ คือการงอกเงย การเจริญเติบโตทางสติปัญญา ซึ่งจะหมายถึงทางด้านสมาธิด้วย ส่วนตำรายาโบราณก็ได้มาจากสมุนไพร เพราะฉะนั้นสีเขียวเป็นสีของยา เป็นสีของการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ การมองสีเขียวนานๆ ทำให้สายตาดี และทำให้ร่างกายสดชื่นและแข็งแรงด้วย

สีเหลือง สีทอง หรือสีเหลืองอร่าม น้ำตาลอ่อน ๆ  สีนี้ให้ความรู้สึกสดใส สุกสว่าง แล้วก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจให้ไปในทางเมตตา กรุณา ปราณี ความศรัทธา อย่างเช่น ผ้าสีเหลืองเป็นจีวรของพระ พระพุทธรูปทองคำ หรือรังสีเหลืองอร่าม เกิดได้ด้วยความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์กับความศรัทธา  เพราะฉะนั้น สีเหลืองจึงเป็นสีของความศรัทธา ความอุ่นใจ ความมั่นคงของจิตใจ จะเป็นลักษณะเช่นนี้ แล้วก็จะเหมือนกันทุกชนชาติด้วย  เพราะฉะนั้นทองคำจึงเป็นสื่อการแลกค้าแลกเปลี่ยนวัตถุทุกชาติ เพราะเป็นสีที่ทุกคนยอมรับนับถือกันหมด เป็นสีที่มีคุณค่า  ถ้าเป็นสีเหลืองแก่จัดหรือสีกระ อันนี้คือความเคร่งขรึม เราจะเห็นพระภิกษุใช้จีวรสีกระ ความศรัทธาสูงสุด มุมสงบ มุมลึกลับ มีความเพียรพยายามในอุดมคติ อันนี้ก็ส่วนใหญ่พระธุดงค์ ฤๅษี โยคี เซียน นักพรต จะชอบที่เป็นสีเหลืองแก่จัด ให้ความสงบทางใจด้วย ให้ความศรัทธาสูงสุด

สีฟ้า สีเย็น ๆ นักสอบอารมณ์กัมมัฏฐานหรือว่าอาจารย์เซนต่าง ๆ จะบอกว่าสีฟ้าให้ความรู้สึกที่เยือกเย็น คิดถึงความรัก ความหลัง ร่าเริง บันเทิงใจ ความเลื่อมใส สีแห่งความเมตตาเช่นเดียวกัน แต่ถ้าออกเป็นน้ำเงินจะดูมั่นคงกว่า แต่ในขณะเดียวกันผู้ที่มีสีฟ้าเป็นสีที่ตัวเองชอบ ควรจะฝึกในเรื่องของความเป็นอนัตตาให้มาก เพราะสีฟ้าหมายถึงด้านกิเลสผสมกลมกลืนอยู่ ในความเมตตามันมีความใจอ่อนแฝงอยู่ด้วย


ซินแสฮวงจุ้ย, ดวงจีน, โหราศาสตร์จีน, ฮวงจุ้ยเสริมโชค, อาจารย์แอน

สีทั้งหมด 8 สีที่มีผลในเรื่องของจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการปฏิบัติ และก็ไปตรงกับดวงดาวด้วย เพราะฉะนั้นการตกแต่งบ้าน เราต้องการอารมณ์อย่างไร เราก็ควรจะใส่สีอย่างนั้นที่บ้านของเรา  เมื่อนำใช้ไปแล้วก็อาจจะต้องเก็บสถิติ คือลองสังเกตพฤติกรรมและความรู้สึกของเราเอง ว่าเป็นไปตามอารมณ์ของสีเหล่านี้หรือเปล่า เพราะสีที่ได้บรรยายมานี้ เห็นว่าได้ตรงกันกับสีประจำของดวงดาวต่าง ๆ และไปตรงกับการวิเคราะห์แยกสีของศาสนาพุทธสายเซนด้วย

แสดงว่าที่จริงแล้วเรื่องของสี คือการนำสีไปใช้ ถ้าเป็นความชอบของคน บางคนบอกว่าชอบสีแดงเป็นชีวิตจิตใจ ก็สามารถที่จะบอกนิสัยอารมณ์คนนั้นได้เลยว่า เป็นคนที่มีความกระตือรือร้น เป็นนิสัยของดาวอังคาร ถ้าเราเป็นคนที่มีนิสัยอย่างหนึ่ง แล้วไปเลือกสีที่ตรงกันข้ามกับนิสัยของเราหาได้ยาก โดยมากแล้วในความลึกๆ จะแฝงไปด้วยสีในสิ่งที่เราจะชอบ ลองสังเกตดู บางทีทายออกไปดูจากนิสัยใจคอจะตรงกับสีที่เขาชอบอยู่แล้ว โดยมาก 80 เปอร์เซ็นต์ อีก 20 เปอร์เซ็นต์คือผู้ที่ขาดในสิ่งเหล่านั้นมาก ๆ ก็จะไปชอบสิ่งที่ตัวเองขาด แต่พฤติกรรมก็จะไปโน้มน้าวไปทางนั้นเช่นเดียวกัน

สีดำ เป็นสีที่ซ่อนความเร้นลับ นักธุรกิจก็ต้องมีอะไรที่เก็บ ๆ ไว้ แล้วก็เป็นความรู้สึกที่หนักแน่นด้วย บึกบึน อดทน ผสมผสานในเรื่องของความเศร้า ความกลัว ความไม่แน่นอน ความเผด็จการ กล้าหาญ คือรวมไปหมดในสี นักธุรกิจส่วนใหญ่ก็เลยชอบใส่สีดำ เพราะดูเคร่งขรึมดี ดูลึกลับดี ถ้ามีนักธุรกิจคนไหนใส่แจ็คเก็ตสีเหลืองคลุมมา ก็ลองเอาสีเหลืองไว้ข้างใน เอาสีดำไว้ข้างนอก อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเขายังมีจิตที่สว่างไสวอยู่ในความที่เคร่งขรึมเอาจริง เอาจัง หรือถ้ารู้สึกว่าหนักไปหมด ก็ลองใช้สีอื่นดูบ้าง  บางคนก็แก้โดยใส่สีดำ แต่ภายในบ้านหรือที่สำนักงานจะต้องมีสีเขียวอยู่ด้วย เพื่อให้ความเย็นตา เย็นใจ กระชุ่มกระชวยแล้ว ทำให้เกิดปัญญา บางอย่างการจัดสำนักงาน ก็มีความกลมกลืนในเรื่องของสีอยู่แล้ว

ศิลปะของฮวงจุ้ย ตอนที่ 2


รูปภาพที่อยู่ภายในบ้าน เราต้องดูว่าให้ความรู้สึกโน้มเอียงไปในทางไหน ซึ่งมันจะเป็นบรรยากาศภายในบ้านเรา เราก็จะเป็นไปหรือโน้มเอียงไปทางนั้น เช่น ภาพคนทำนา แบกฝืน ทำงานอย่างขะมักเขม้น ภาพจะให้ความรู้สึกอะไร ก็ต้องดูว่าสถานที่ประกอบการนั้นเป็นอย่างไร ทำอะไร เช่น เป็นธุรกิจเกี่ยวกับความสดชื่น ร่าเริง ก็ไม่เหมาะ เพราะภาพนั้นแสดงถึงความเหน็ดเหนื่อย อ่อนแรง แห้งแล้ง


ซินแสฮวงจุ้ย, ดวงจีน, โหราศาสตร์จีน, ฮวงจุ้ยเสริมโชค, อาจารย์แอน

ยกตัวอย่าง บริษัทขนส่ง มีอุบัติเหตุ รถชน รถคว่ำบ่อยมาก  ปรากฏว่าภาพที่ติดอยู่ในบริษัทคือ ภาพรถแข่ง (ภาพชนกันหงายท้อง, ตะแคง ฯลฯ)  อาจารย์แนะนำให้ปลดรูปนี้ลง เปลี่ยนเป็นรูปรถสวยๆ รุ่นใหม่ๆ แทน  รูปดอกไม้  หลังจากเปลี่ยนภาพรถ คนขับรถขับดีขึ้น  เพราะฉะนั้นเราประกอบกิจการอะไร ให้เลือกรูปภาพมาติดให้เข้ากัน สอดคล้องกับงานที่ทำ  ถ้าเราเอารูปนักฟุตบอลดังๆ นักกีฬาดังๆ มาติดห้องลูก ลูกก็จะไม่สนใจการเรียน หรือรูปดาราด้วย เพราะเด็กจะผูกพันกับอะไร จิตใจจะโน้มเอียงไปทางนั้น

การเลือกซื้อภาพวาดต่างๆ นอกจากเลือกโดยความหมายแล้ว ต้องเลือกสีด้วย สีที่จัดจ้าน สีที่ขัดกันรุนแรง ไม่เหมาะเฟอร์นิเจอร์ก็อย่าเลือกให้สีสันมันเลอะเทอะไปทั้งห้อง ไม่แบ่งเฉดแบ่งโซน จะให้ความสับสนว่าคืออะไรกันแน่ แสดงถึงความไม่มีระเบียบ สับสน  บุคคลที่นิยมสะสมของเก่า เช่น เก็บหัวเรือเก่าๆ มาไว้ในบ้าน  การจัดบ้านก็ต้องจัดให้เข้ากัน สอดคล้องกันทั้งสิ่งของและบรรยากาศ จัดแล้วดูดี  แต่ถ้าไปจัดเช่น เอาหัวเรือเก่าๆ ไว้ข้างไม้ผุ ไม่สะอาด มีหยักไย ความรู้สึกเมื่อเห็นจะแตกต่างกันออกไป

เพราะฉะนั้น ในทางฮวงจุ้ยทำได้ทุกอย่าง แต่ต้องทำอย่างมีศิลปะ สามารถทำในสิ่งที่เราชอบ เช่น เอาอิฐแตก หินแตกมาวาง เอารูปภาพที่ชอบมาจัด  แต่ถ้าเป็นรูปภาพที่ให้ความรู้สึกที่ขัดแย้ง เราก็ควรเอาอะไรไปเสริมบริเวณรอบๆ สิ่งนั้น ให้เกิดความกลมกลืน (เป็นทั้งศิลปะ และการหักล้างในความรู้สึก ในเรื่องธาตุต่างๆ)

ให้หลีกเลี่ยง ฉาก ม่านกั้น ที่มีรูปภาพของความวิบัติ เช่น แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม น้ำท่วม การสังหารหมู่ ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ เช่น รูปเรือไททานิคกำลังล่มหรือจมลง ( ภาพที่ยืนที่หัวเรือ สดชื่น เพ้อฝัน แต่ความรักจะแตกสลาย เพราะเรือจม ไม่ดี)  คนที่ติดรูปประเภทนี้ จะมีปฏิกิริยาแฝงเร้นไปด้วยความก้าวร้าว มีเรื่องกังวล กระวนกระวายใจ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ควรหลีกเลี่ยงภาพที่เกี่ยวกับความยากจน ความหดหู่ การรอคอย การไร้ชีวิตชีวา โดยเฉพาะห้องคู่สมรส  และที่นิยมกันมากขณะนี้คือ ความรักในหอแดง  รูปภาพเหล่านั้น เราต้องดูด้วยว่า บั้นปลายของความรักนั้นจบลงด้วยดีหรือไม่ (เพราะจิตใต้สำนึก เรารู้อยู่)  เช่น หยางกุ้ยเฟย ตอนจบแขวนคอตาย  ถ้าจะติดจริงๆ ให้รูปนางฟ้า ๑๒ องค์ นางฟ้า ๔ องค์ นางฟ้าดีดพิณ ได้ทั้งมงคลและศิลปะ


ฮวงจุ้ยโชคลาภ, บ้านกับฮวงจุ้ย, จัดบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเตียงนอน


บ้านนายทหารอากาศ มีรูป หรือของประดับเป็นเครื่องบิน ถ้าเข้ากันกับอาชีพ ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าติดรูปเครื่องบินตก  ทำอย่างไรก็ได้ ให้เรารู้สึกดี ชื่นชอบ ไม่รู้สึกหดหู่ หรือดึงอารมณ์ให้ลงต่ำตามwxด้วย  ภาพ abstract  impression ต่างๆ ต้องดูถึงความสวยงาม และความรู้สึกที่ใส่ลงไปในภาพ  ถ้าเป็นภาพวาดที่มีสีสันสวยสดใส การออกแบบแสดงถึงความแจ่มใส ความเป็นศิลปะ ความกลมกลืนในรูปภาพนั้น ก็สามารถติดได้  ภาพดวงอาทิตย์ส่องแสงสู่บ้านสวน ก่อให้เกิดสันติสุข มั่นคง ถือเป็นภาพกลางๆ ต้องเลือกติด  ภาพบ้านที่มี ถนน แม่น้ำ เป็นภาพเกี่ยวกับโชคลาภ ความรู้สึก ความสุข แต่บางภาพดูเหมือนน้ำเน่า ก็ไม่ดี หรือภาพกำลังเกิดพายุในทะเล เรือถูกพัดโคลงเคลง มองดูแล้วก็จะกระรุ่งกระริ่งไปด้วย


ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยร้านค้า, ฮวงจุ้ยห้องนอน, อาจารย์แอน


ภาพต่างๆ เหล่านี้คือศิลปของฮวงจุ้ย บางทีเรามองแต่อันตรายภายนอกที่คุกคาม จนลืมมองสิ่งที่คุกคามอยู่ภายในบ้าน คือสิ่งที่กระทบสายตา แล้วสร้างความรู้สึกให้แสดงอารมณ์ออกมา ยกตัวอย่างเช่น คนเกิดปีขาล แล้วติดรูปเสือที่อ้าปากไว้ด้านหลังที่นั่ง เหมือนกับถูกเสือกิน  รูปเสือวางได้แต่ต้องมีศิลปะ ให้รู้สึกว่าเราเป็นเจ้านาย และต้องไม่ใช่เสือที่พร้อมจะเขมือบเรา

อย่าเกาะติดอยู่กับตำรา อย่าขัดความรู้สึก แต่ต้องมีศิลปในการจัดด้วย  เพราะการศึกษาวิชาฮวงจุ้ย เป็นการเรียนรู้และทำความเข้าใจในหลักของธรรมชาติ  ดังนั้นเมื่อเรายิ่งเข้าใจความเป็นธรรมชาติของสรรพสิ่งมากขึ้นเท่าใด การจัดปรับทำเลตามหลักวิชาที่สามารถผสมผสานความกลมกลืนกับธรรมชาติ ย่อมบังเกิดผลดีอย่างแน่นอน  และยิ่งเป็นผู้ที่มีศิลปะในการจัดตกแต่งสิ่งของด้วยแล้ว การผสมผสานกลมกลืนในหลักวิชา จะจัดปรับทำเลออกมาจนผู้พบเห็นไม่สามารถดูออกเลยว่า มีการจัดทำเลเสริมดวงชะตาหรือเสริมสถานที่       
 




ศิลปะของฮวงจุ้ย ตอนที่ 1


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน

ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ควบคู่กัน  ฮวงจุ้ยเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ในตัวของมันด้วย เพราะฉะนั้น คนที่มีหัวในทางศิลป์จะเรียนฮวงจุ้ยได้ดีที่สุด เพราะจะรู้จักพลิกแพลง  ศาสตร์แบบนี้ยึดเกาะตามตำราไม่ได้ ต้องอาศัยความเข้าใจ พลิกแพลง ดัดแปลง ใช้ความสมดุล ใช้ความรู้สึก เข้ามาผสมผสานในการเรียนรู้ หรือใช้ศิลปะนั่นเอง เช่น การจัดบ้าน สอนกันตามทฤษฏี แต่ผู้จัดไม่มีศิลปในการจัดตกแต่งบ้านเลย การจัดปรับทำเลก็ทำได้ยาก เพราะจะเกาะติดตำรา ไม่รู้จักดัดแปลงใช้ให้สอดคล้องกลมกลืน กับคนในบ้าน กับสิ่งแวดล้อมของบ้าน หรือจัดออกมาแล้วไม่สวยไม่งามเลย  เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ในการจัดทำเล ต้องเป็นคนที่รักการจัดบ้านด้วย ต้องจัดให้เหมาะสมกลมกลืนทั้งตนเองและบุคคลอื่นๆในบ้าน  บุคคลที่เป็นประเภท “ขุนสุม ถนัดโปะ” ไม่เหมาะจะจัดทำเลฮวงจุ้ย ต้องใจรักในการจัด จัดได้อย่างสมดุลและสอดคล้องกับหลักวิชา  เพราะฉะนั้นคนจัดบ้านเก่งได้เปรียบ และต้องถือความกลมกลืน ความเป็นธรรมชาติเป็นหลักในวิชาฮวงจุ้ย

ภาพวาด รูปปั้น และงานศิลปะอื่นๆ ที่ทำให้ผู้พบเห็นเกิดความประทับใจ  คนส่วนใหญ่มักมองข้ามว่า เวลาไปที่ไหน เข้าบ้านใครแล้วเราประทับใจอะไร  ลองเก็บมาเป็นประสบการณ์ ดัดแปลงมาใช้  ศิลปะในการจัดฮวงจุ้ยไม่ได้เจาะจงเฉพาะว่าต้องเป็นสิ่งของเกี่ยวกับจีน  เราใช้ได้ทุกอย่าง ไม่กำหนดว่าต้องใช้ลูกท้อ หยก กระจกแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นวัตถุมงคล เป็นวัฒนธรรมของจีน  ของทางไทยก็เป็นพวกตลับเบญจรงค์ สังข์ น้ำเต้าไทย เครื่องเงิน เครื่องทอง เครื่องแก้ว

ภาพวาด และรูปปั้นต่างๆ จะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองทางอารมณ์ได้  แม้แต่คนที่ขาดความรู้สึกละเอียดอ่อน เมื่อเห็นภาพที่สวยงามในบางครั้งบางคราว สามารถกระตุ้นให้มีความอ่อนโยนเกิดขึ้นในใจ  สิ่งแวดล้อมที่เกิดจาก ภาพวาด การจัดของรอบๆ ตัว หรือรูปปั้น จึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง เพราะสามารถดึงจิตใต้สำนึกของคนออกมาได้

ยกตัวอย่างเช่น ภาพวาด หรืองานศิลป์ต่างๆ ที่แสดงถึงความยากจน ความสกปรกโสโครก หรือความน่าเกลียดน่าชัง  ไม่ว่าภาพนั้นจะวาดด้วยศิลปะดีแค่ไหนก็ตาม ภาพวาดเหล่านั้นก็จะสามารถดึงอารมณ์ของเราให้ลงต่ำ หดหู่  ความประทับใจจะพิมพ์ลงสู่จิตใต้สำนึกของเรากับภาพเหล่านั้น มีผลต่อจิตใจทันทีที่ได้จ้องมองลงไป  หรือถ้าเป็นภาพน้ำตกที่ไหลซู่ซ่า ความรู้สึกของเราจะรู้สึกสดชื่นตามไปด้วย ตามสภาพของน้ำ แต่ถ้าภาพน้ำตกนั้นเป็นหินผาชะโงก เราก็จะมีความรู้สึกว่าดิ่งตามเขานั้นไปด้วย

 
ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน

ภาพวาดที่แสดงถึงความเศร้าหมอง โศกเศร้า ทึม หรือภาพที่ใช้สีที่ดูแล้วปวดหัวเวียนหัว เช่น พวกภาพ modern art ที่แสดงความรู้สึกและอารมณ์ของศิลปิน ณ ขณะนั้นว่ามีอารมณ์แบบไหน  ภาพ abstract ทั้งหลาย ที่ไม่สามารถแยกแยะส่วนของภาพได้ ไม่มีรูปทรง แสดงความสับสนวุ่นวาย  ภาพรถแข่ง ให้ความหมายถึงการแข่งขัน แข่งกับเวลา  ภาพต่างๆ ที่เรามอง ไม่ว่าจะตั้งใจมองหรือไม่ก็ตาม แต่ต้องผ่านไปผ่านมา มองเห็นอยู่เสมอๆ  ภาพเหล่านั้นก็จะเข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึกของเราอย่างสม่ำเสมอ  อยู่ในห้องนั้น บรรยากาศอย่างนั้น  หรือภาพงานศิลป์ที่แสดงสรีระของมนุษย์ที่บิดเบี้ยว ก่อให้เกิดความประทับใจในด้านลบ น่ากลัว  แล้วถ้านำภาพนี้ไปติดในห้องเล็กๆ แคบๆ ในมุมของเรา ภาพเหล่านี้จะทำให้เราปวดศีรษะ หรือเกิดอาการเครียด  ภาพที่แสดงถึงกายภาพ การบิด การเจ็ดปวด ภาพกล้ามเนื้อบิดตัว แต่ไม่ได้ติดในห้องออกกำลังกาย แต่กลับไปติดในห้องที่ใช้สำหรับพักผ่อน ห้องอาหาร จะก่อให้เกิดความตึงเครียด กระเพาะอาหารหดตัว ทำให้เป็นโรคกระเพาะได้

เพราะฉะนั้น ฮวงจุ้ย ไม่ใช่แค่สิ่งที่คุกคาม อะไรที่มันแหลมทิ่มตา ขวางประตู สามแพร่ง ฯลฯ  แต่จากห้องของเรา มองออกไปเห็นอะไร การจัดบ้านมีความประทับใจมากน้อยแค่ไหน ตู้เสื้อผ้ามีลายที่คุกคาม เช่น ลายสามเหลี่ยม กระจกเป็นรูปตัวที หรืออะไรที่มีลักษณะก้าวร้าว ศิลปะเหล่านี้ต้องอาศัยว่าเรามองแล้วเกิดความรู้สึกอะไรอย่างไร


ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม

ภาพต่างๆ ไม่ว่าจะแสดงอารมณ์อะไรออกมานั้น ก็ย่อมขึ้นอยู่กับความชอบซึ่งประกอบด้วยความรู้สึกส่วนตัว ทั้งๆที่รู้ว่ามันจะส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกอย่างไร เมื่อมองแล้วถ้าชอบก็ใช้ได้   แต่ถ้าต้องการจัดทำเล ภาพที่แสดงอารมณ์รุนแรงต่างๆ ก็ต้องเอาออก ถ้าเราต้องการความอ่อนโยน  ยกตัวอย่างเช่น ห้องผู้บริหารท่านหนึ่ง ภาพหลังโต๊ะทำงาน เป็นภาพครุฑกำลังจิกพญานาคต่อสู้กันอยู่ เป็นภาพที่แกะบนผนัง ลงสีลงทองอย่างดี  ถามว่าทำไมตัวเขาจึงมักขัดแย้งกับบุคคลอื่นไปทั่ว  รูปนี้มองได้ ๒ แบบ แบบแรกคือ สำหรับคนใจอ่อน รู้สึกสงสาร  แบบที่สอง คนเข้มแข็ง มองแล้วไม่รู้สึกอะไร ถือเป็นการต่อสู้เฉยๆ  แต่ทั้งสองฝ่ายมีจิตใต้สำนึกตรงกันคือ ขัดแย้ง การรังแก การฆ่ากัน เพราะฉะนั้นรูปนี้ก็จะมีอิทธิพลต่อคนตรงนั้น ไม่ว่าจะนั่ง เดินผ่าน มองบ้างไม่มองบ้าง รู้สึกบ้างไม่รู้สึกบ้าง  แต่สิ่งเหล่านี้ได้เข้าไปอยู่เป็นภาพใต้จิตใต้สำนึก และยอมรับว่า ภาพนี้มีความหมายถึง การต่อสู้ การขัดแย้ง รูปภาพในหน้าหนังสือพิมพ์ก็มีผลเช่นกัน
 

เรื่องของหยินหยาง


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน


ใครก็ตามที่คิดจะเรียน ศาสตร์ว่าด้วยภูมิพยากรณ์ ต้องมีความเข้าใจหลักของ หยิน-หยาง อย่างถ่องแท้ และเมื่อเห็นภาพแสดงสัญลักษณ์ ก็ต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในกฎเกณฑ์ธรรมชาติ ความสมดุลกลมกลืน ความเป็นไปโดยราบรื่นบนพื้นฐานของความขัดแย้งกัน คำอธิบายที่ชัดเจนของวลีที่ว่า "ความเป็นไปโดยราบรื่นบนพื้นฐานของความขัดแย้งกัน" นั้น คือธรรมชาติที่อยู่รอบๆตัวเรา ยกตัวอย่างเช่น มีกลางวันให้เราต้องตื่นตัวลุกขึ้นทำงาน และถึงเวลาพักผ่อนที่ทุกคนจะรู้โดยอัตโนมัติ เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน แลเห็นดาวหรือพระจันทร์ลอยเด่นขึ้นมา  หยินและหยาง เป็นหลักความดีและไม่ดี ที่ครอบงำโลกนี้ จักรวาลนี้รวมทั้งสิ่งที่มีชีวิตในจักรวาล 

ในโลกเรานี้ มีทุกอย่างเป็นของคู่กัน ทั้งๆที่อยู่ตรงกันข้ามกัน  มีมืด ก็ต้องมีสว่าง มีดี ก็ต้องมีเลว มีทุกข์ ก็ต้องมีสุข มีหญิง ก็ต้องมีชาย มีหัวเราะ ก็ต้องมีร้องไห้ มีสิ่งที่สงบนิ่ง ก็ต้องมีสิ่งที่เคลื่อนไหว และ อีกมากมาย ฯลฯ  หยิน หมายถึงความสงบ ความนิ่ง ความจม ความมืด ความทุกข์ ความกลุ้มใจ ความอืดอาด คือผู้หญิง และความเยือกเย็น สถานที่ ก็หมายถึง ที่มืด ที่อับชื้น เหว หุบเขา ลำธาร ป่าช้า และความตาย เป็นตัวแทนของนรก  ในขณะที่ หยาง มีความหมายถึง สิ่งที่มีชีวิตชีวา การเคลื่อนไหว การไหวตัวไม่อยู่นิ่ง คือ ความเจริญเติบโต การกระจายตัวออก ลอย ฟู แสงสว่าง ความกะตือรือล้น ความสุข ความร่าเริง คือ ผู้ชาย ความร้อน อารมณ์ร้อน สถานที่ ที่ที่สว่างไสว มีชีวิตชีวา ความแข็งแรง ภูเขา ที่ราบที่โล่ง และ เป็นตัวแทนของสวรรค์

พลัง หยิน และ หยาง ต่างมีสภาวะของธรรมชาติ ที่ส่งเสริมกันอย่างกลมกลืนในโลกนี้ ถ้าอยู่ร่วมกันในจังหวะเวลาและสถานที่ที่ควรจะเป็น ก็จะเป็นพลังที่มีความกลมกลืน ส่งเสริมกัน ไม่เป็นปฎิปักษ์ต่อกัน  หยินและหยาง เป็นวิถีทางของเต๋า คือ ความเป็นไปของธรรมชาติที่ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อมีความมืด ก็มีโอกาสที่จะสว่าง เมื่อมีซ้าย ก็มีโอกาสที่จะเป็นขวา เมื่อมีทุกข์ ต่อไปก็มีโอกาสมีสุข และเมื่อมีเลว ก็อาจจะเป็นดี ในขณะเดียวกัน มีดี ก็อาจมีเลวได้ เป็นวัฏฏะหมุนเวียนกันอย่างนี้ ไม่มีที่สิ้นสุด

ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน


สัญลักษณ์ของหยินหยาง มีจุดเริ่มต้นที่เดียวกัน ดูเหมือนเริ่มต้นไปคนละทาง แต่ก็วนไปทางเดียวกัน ตามๆกัน อย่างกลมกลืนและกลมเกลียว  ในทำเลที่อยู่อาศัยหนึ่งๆ ต้องมีความสมดุลของความเป็นวัฎจักรในลักษณะนี้ จึงจะสามารถหมุนเวียนวน เป็นทำเลที่มีชีวิต มีประวัติ มีความเป็นมาและเป็นไป ตามสภาวะที่กลมกลืนกัน ขัดแย้งกัน แต่ก็ส่งเสริมกัน ไม่เป็นปฎิปักษ์ต่อกัน หยิน และ หยางในสถานที่หนึ่ง จะต้องพึ่งพาอาศัยกัน และมีความหมายต่อความเป็นไปของมนุษย์ที่เป็นปรกติ  คือ เมื่อมีสว่าง แต่ถ้าปราศจากความมืด คำว่าหยุดพักเพื่อเอาแรงไว้ต่อสู้กับสภาวะหยางของชีวิตก็จะไม่มี

ดังนั้น หยินและหยาง มีผลกระทบซึ่งกันและกันต่อเนื่องกันไป อันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง วิวัฒนาการ ดังเช่น เมื่อมีกลางคืนต่อเนื่องจากกลางวัน ความมืดเปลี่ยนเป็นสว่าง วันคืนก็ผ่านไปอย่างสมดุล มนุษย์ก็ใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับวัน คืน  เมื่อถึงฤดูร้อน เสื้อผ้าบางเบา วันหนึ่งก็ต้องหลีกทางให้ฤดูหนาวเข้ามาทำหน้าที่ และก็วนเวียนมาสู่ฤดูร้อนอีก เป็นการเปลี่ยนแปลง มีการเคลื่อนไหว และเมื่อนำหลักของธรรมชาติของ หยิน หยาง มาใช้กับศาสตร์ว่าด้วยการพยากรณ์ ก็จะต้องเข้าใจว่า เวลานี้เราประสบโชคร้ายมีเคราะห์กรรม แต่วันเวลาก็จะเปิดทางให้โชคดีหมุนเวียนมาหาเรา และในขณะเดียวกัน เมื่อประสบโชคดี ก็ต้องมีวันที่จะต้องประสพโชคร้ายเช่นกัน

ต้นกำเนิดวิธีคิดอย่างนี้เป็นของลัทธิเต๋า จึงสามารถกล่าวได้ว่า ลัทธิเต๋า คือต้นกำเนิดของวิชาฮวงจุ้ย และโชคชาตาของมนุษย์ที่มีขึ้นมีลง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย สิ่งนี้เองที่เรียกกันว่า เป็นวิถีแห่งเต๋าของมนุษยชาติ และเป็นรากฐานของการพยากรณ์และการปรับแต่แก้ไขที่อยู่อาศัย เพื่อความเป็นไปที่ดี ที่ส่งเสริมกันและไม่เป็นปฎิปักษ์ต่อกัน อันมีผลต่อ ชีวิตและความเป็นอยู่ของมนุษย  นั่นคือ "หยิน และหยาง จะต้องอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองและกลมกลืน เสมอภาค อันจะทำให้เกิดฮวงจุ้ยที่ดี"