ศิลปะของฮวงจุ้ย ตอนที่ 2


รูปภาพที่อยู่ภายในบ้าน เราต้องดูว่าให้ความรู้สึกโน้มเอียงไปในทางไหน ซึ่งมันจะเป็นบรรยากาศภายในบ้านเรา เราก็จะเป็นไปหรือโน้มเอียงไปทางนั้น เช่น ภาพคนทำนา แบกฝืน ทำงานอย่างขะมักเขม้น ภาพจะให้ความรู้สึกอะไร ก็ต้องดูว่าสถานที่ประกอบการนั้นเป็นอย่างไร ทำอะไร เช่น เป็นธุรกิจเกี่ยวกับความสดชื่น ร่าเริง ก็ไม่เหมาะ เพราะภาพนั้นแสดงถึงความเหน็ดเหนื่อย อ่อนแรง แห้งแล้ง


ซินแสฮวงจุ้ย, ดวงจีน, โหราศาสตร์จีน, ฮวงจุ้ยเสริมโชค, อาจารย์แอน

ยกตัวอย่าง บริษัทขนส่ง มีอุบัติเหตุ รถชน รถคว่ำบ่อยมาก  ปรากฏว่าภาพที่ติดอยู่ในบริษัทคือ ภาพรถแข่ง (ภาพชนกันหงายท้อง, ตะแคง ฯลฯ)  อาจารย์แนะนำให้ปลดรูปนี้ลง เปลี่ยนเป็นรูปรถสวยๆ รุ่นใหม่ๆ แทน  รูปดอกไม้  หลังจากเปลี่ยนภาพรถ คนขับรถขับดีขึ้น  เพราะฉะนั้นเราประกอบกิจการอะไร ให้เลือกรูปภาพมาติดให้เข้ากัน สอดคล้องกับงานที่ทำ  ถ้าเราเอารูปนักฟุตบอลดังๆ นักกีฬาดังๆ มาติดห้องลูก ลูกก็จะไม่สนใจการเรียน หรือรูปดาราด้วย เพราะเด็กจะผูกพันกับอะไร จิตใจจะโน้มเอียงไปทางนั้น

การเลือกซื้อภาพวาดต่างๆ นอกจากเลือกโดยความหมายแล้ว ต้องเลือกสีด้วย สีที่จัดจ้าน สีที่ขัดกันรุนแรง ไม่เหมาะเฟอร์นิเจอร์ก็อย่าเลือกให้สีสันมันเลอะเทอะไปทั้งห้อง ไม่แบ่งเฉดแบ่งโซน จะให้ความสับสนว่าคืออะไรกันแน่ แสดงถึงความไม่มีระเบียบ สับสน  บุคคลที่นิยมสะสมของเก่า เช่น เก็บหัวเรือเก่าๆ มาไว้ในบ้าน  การจัดบ้านก็ต้องจัดให้เข้ากัน สอดคล้องกันทั้งสิ่งของและบรรยากาศ จัดแล้วดูดี  แต่ถ้าไปจัดเช่น เอาหัวเรือเก่าๆ ไว้ข้างไม้ผุ ไม่สะอาด มีหยักไย ความรู้สึกเมื่อเห็นจะแตกต่างกันออกไป

เพราะฉะนั้น ในทางฮวงจุ้ยทำได้ทุกอย่าง แต่ต้องทำอย่างมีศิลปะ สามารถทำในสิ่งที่เราชอบ เช่น เอาอิฐแตก หินแตกมาวาง เอารูปภาพที่ชอบมาจัด  แต่ถ้าเป็นรูปภาพที่ให้ความรู้สึกที่ขัดแย้ง เราก็ควรเอาอะไรไปเสริมบริเวณรอบๆ สิ่งนั้น ให้เกิดความกลมกลืน (เป็นทั้งศิลปะ และการหักล้างในความรู้สึก ในเรื่องธาตุต่างๆ)

ให้หลีกเลี่ยง ฉาก ม่านกั้น ที่มีรูปภาพของความวิบัติ เช่น แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม น้ำท่วม การสังหารหมู่ ความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ เช่น รูปเรือไททานิคกำลังล่มหรือจมลง ( ภาพที่ยืนที่หัวเรือ สดชื่น เพ้อฝัน แต่ความรักจะแตกสลาย เพราะเรือจม ไม่ดี)  คนที่ติดรูปประเภทนี้ จะมีปฏิกิริยาแฝงเร้นไปด้วยความก้าวร้าว มีเรื่องกังวล กระวนกระวายใจ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ควรหลีกเลี่ยงภาพที่เกี่ยวกับความยากจน ความหดหู่ การรอคอย การไร้ชีวิตชีวา โดยเฉพาะห้องคู่สมรส  และที่นิยมกันมากขณะนี้คือ ความรักในหอแดง  รูปภาพเหล่านั้น เราต้องดูด้วยว่า บั้นปลายของความรักนั้นจบลงด้วยดีหรือไม่ (เพราะจิตใต้สำนึก เรารู้อยู่)  เช่น หยางกุ้ยเฟย ตอนจบแขวนคอตาย  ถ้าจะติดจริงๆ ให้รูปนางฟ้า ๑๒ องค์ นางฟ้า ๔ องค์ นางฟ้าดีดพิณ ได้ทั้งมงคลและศิลปะ


ฮวงจุ้ยโชคลาภ, บ้านกับฮวงจุ้ย, จัดบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเตียงนอน


บ้านนายทหารอากาศ มีรูป หรือของประดับเป็นเครื่องบิน ถ้าเข้ากันกับอาชีพ ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าติดรูปเครื่องบินตก  ทำอย่างไรก็ได้ ให้เรารู้สึกดี ชื่นชอบ ไม่รู้สึกหดหู่ หรือดึงอารมณ์ให้ลงต่ำตามwxด้วย  ภาพ abstract  impression ต่างๆ ต้องดูถึงความสวยงาม และความรู้สึกที่ใส่ลงไปในภาพ  ถ้าเป็นภาพวาดที่มีสีสันสวยสดใส การออกแบบแสดงถึงความแจ่มใส ความเป็นศิลปะ ความกลมกลืนในรูปภาพนั้น ก็สามารถติดได้  ภาพดวงอาทิตย์ส่องแสงสู่บ้านสวน ก่อให้เกิดสันติสุข มั่นคง ถือเป็นภาพกลางๆ ต้องเลือกติด  ภาพบ้านที่มี ถนน แม่น้ำ เป็นภาพเกี่ยวกับโชคลาภ ความรู้สึก ความสุข แต่บางภาพดูเหมือนน้ำเน่า ก็ไม่ดี หรือภาพกำลังเกิดพายุในทะเล เรือถูกพัดโคลงเคลง มองดูแล้วก็จะกระรุ่งกระริ่งไปด้วย


ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยร้านค้า, ฮวงจุ้ยห้องนอน, อาจารย์แอน


ภาพต่างๆ เหล่านี้คือศิลปของฮวงจุ้ย บางทีเรามองแต่อันตรายภายนอกที่คุกคาม จนลืมมองสิ่งที่คุกคามอยู่ภายในบ้าน คือสิ่งที่กระทบสายตา แล้วสร้างความรู้สึกให้แสดงอารมณ์ออกมา ยกตัวอย่างเช่น คนเกิดปีขาล แล้วติดรูปเสือที่อ้าปากไว้ด้านหลังที่นั่ง เหมือนกับถูกเสือกิน  รูปเสือวางได้แต่ต้องมีศิลปะ ให้รู้สึกว่าเราเป็นเจ้านาย และต้องไม่ใช่เสือที่พร้อมจะเขมือบเรา

อย่าเกาะติดอยู่กับตำรา อย่าขัดความรู้สึก แต่ต้องมีศิลปในการจัดด้วย  เพราะการศึกษาวิชาฮวงจุ้ย เป็นการเรียนรู้และทำความเข้าใจในหลักของธรรมชาติ  ดังนั้นเมื่อเรายิ่งเข้าใจความเป็นธรรมชาติของสรรพสิ่งมากขึ้นเท่าใด การจัดปรับทำเลตามหลักวิชาที่สามารถผสมผสานความกลมกลืนกับธรรมชาติ ย่อมบังเกิดผลดีอย่างแน่นอน  และยิ่งเป็นผู้ที่มีศิลปะในการจัดตกแต่งสิ่งของด้วยแล้ว การผสมผสานกลมกลืนในหลักวิชา จะจัดปรับทำเลออกมาจนผู้พบเห็นไม่สามารถดูออกเลยว่า มีการจัดทำเลเสริมดวงชะตาหรือเสริมสถานที่       
 




ศิลปะของฮวงจุ้ย ตอนที่ 1


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน

ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ควบคู่กัน  ฮวงจุ้ยเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ในตัวของมันด้วย เพราะฉะนั้น คนที่มีหัวในทางศิลป์จะเรียนฮวงจุ้ยได้ดีที่สุด เพราะจะรู้จักพลิกแพลง  ศาสตร์แบบนี้ยึดเกาะตามตำราไม่ได้ ต้องอาศัยความเข้าใจ พลิกแพลง ดัดแปลง ใช้ความสมดุล ใช้ความรู้สึก เข้ามาผสมผสานในการเรียนรู้ หรือใช้ศิลปะนั่นเอง เช่น การจัดบ้าน สอนกันตามทฤษฏี แต่ผู้จัดไม่มีศิลปในการจัดตกแต่งบ้านเลย การจัดปรับทำเลก็ทำได้ยาก เพราะจะเกาะติดตำรา ไม่รู้จักดัดแปลงใช้ให้สอดคล้องกลมกลืน กับคนในบ้าน กับสิ่งแวดล้อมของบ้าน หรือจัดออกมาแล้วไม่สวยไม่งามเลย  เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ในการจัดทำเล ต้องเป็นคนที่รักการจัดบ้านด้วย ต้องจัดให้เหมาะสมกลมกลืนทั้งตนเองและบุคคลอื่นๆในบ้าน  บุคคลที่เป็นประเภท “ขุนสุม ถนัดโปะ” ไม่เหมาะจะจัดทำเลฮวงจุ้ย ต้องใจรักในการจัด จัดได้อย่างสมดุลและสอดคล้องกับหลักวิชา  เพราะฉะนั้นคนจัดบ้านเก่งได้เปรียบ และต้องถือความกลมกลืน ความเป็นธรรมชาติเป็นหลักในวิชาฮวงจุ้ย

ภาพวาด รูปปั้น และงานศิลปะอื่นๆ ที่ทำให้ผู้พบเห็นเกิดความประทับใจ  คนส่วนใหญ่มักมองข้ามว่า เวลาไปที่ไหน เข้าบ้านใครแล้วเราประทับใจอะไร  ลองเก็บมาเป็นประสบการณ์ ดัดแปลงมาใช้  ศิลปะในการจัดฮวงจุ้ยไม่ได้เจาะจงเฉพาะว่าต้องเป็นสิ่งของเกี่ยวกับจีน  เราใช้ได้ทุกอย่าง ไม่กำหนดว่าต้องใช้ลูกท้อ หยก กระจกแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นวัตถุมงคล เป็นวัฒนธรรมของจีน  ของทางไทยก็เป็นพวกตลับเบญจรงค์ สังข์ น้ำเต้าไทย เครื่องเงิน เครื่องทอง เครื่องแก้ว

ภาพวาด และรูปปั้นต่างๆ จะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองทางอารมณ์ได้  แม้แต่คนที่ขาดความรู้สึกละเอียดอ่อน เมื่อเห็นภาพที่สวยงามในบางครั้งบางคราว สามารถกระตุ้นให้มีความอ่อนโยนเกิดขึ้นในใจ  สิ่งแวดล้อมที่เกิดจาก ภาพวาด การจัดของรอบๆ ตัว หรือรูปปั้น จึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง เพราะสามารถดึงจิตใต้สำนึกของคนออกมาได้

ยกตัวอย่างเช่น ภาพวาด หรืองานศิลป์ต่างๆ ที่แสดงถึงความยากจน ความสกปรกโสโครก หรือความน่าเกลียดน่าชัง  ไม่ว่าภาพนั้นจะวาดด้วยศิลปะดีแค่ไหนก็ตาม ภาพวาดเหล่านั้นก็จะสามารถดึงอารมณ์ของเราให้ลงต่ำ หดหู่  ความประทับใจจะพิมพ์ลงสู่จิตใต้สำนึกของเรากับภาพเหล่านั้น มีผลต่อจิตใจทันทีที่ได้จ้องมองลงไป  หรือถ้าเป็นภาพน้ำตกที่ไหลซู่ซ่า ความรู้สึกของเราจะรู้สึกสดชื่นตามไปด้วย ตามสภาพของน้ำ แต่ถ้าภาพน้ำตกนั้นเป็นหินผาชะโงก เราก็จะมีความรู้สึกว่าดิ่งตามเขานั้นไปด้วย

 
ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน

ภาพวาดที่แสดงถึงความเศร้าหมอง โศกเศร้า ทึม หรือภาพที่ใช้สีที่ดูแล้วปวดหัวเวียนหัว เช่น พวกภาพ modern art ที่แสดงความรู้สึกและอารมณ์ของศิลปิน ณ ขณะนั้นว่ามีอารมณ์แบบไหน  ภาพ abstract ทั้งหลาย ที่ไม่สามารถแยกแยะส่วนของภาพได้ ไม่มีรูปทรง แสดงความสับสนวุ่นวาย  ภาพรถแข่ง ให้ความหมายถึงการแข่งขัน แข่งกับเวลา  ภาพต่างๆ ที่เรามอง ไม่ว่าจะตั้งใจมองหรือไม่ก็ตาม แต่ต้องผ่านไปผ่านมา มองเห็นอยู่เสมอๆ  ภาพเหล่านั้นก็จะเข้าไปอยู่ในจิตใต้สำนึกของเราอย่างสม่ำเสมอ  อยู่ในห้องนั้น บรรยากาศอย่างนั้น  หรือภาพงานศิลป์ที่แสดงสรีระของมนุษย์ที่บิดเบี้ยว ก่อให้เกิดความประทับใจในด้านลบ น่ากลัว  แล้วถ้านำภาพนี้ไปติดในห้องเล็กๆ แคบๆ ในมุมของเรา ภาพเหล่านี้จะทำให้เราปวดศีรษะ หรือเกิดอาการเครียด  ภาพที่แสดงถึงกายภาพ การบิด การเจ็ดปวด ภาพกล้ามเนื้อบิดตัว แต่ไม่ได้ติดในห้องออกกำลังกาย แต่กลับไปติดในห้องที่ใช้สำหรับพักผ่อน ห้องอาหาร จะก่อให้เกิดความตึงเครียด กระเพาะอาหารหดตัว ทำให้เป็นโรคกระเพาะได้

เพราะฉะนั้น ฮวงจุ้ย ไม่ใช่แค่สิ่งที่คุกคาม อะไรที่มันแหลมทิ่มตา ขวางประตู สามแพร่ง ฯลฯ  แต่จากห้องของเรา มองออกไปเห็นอะไร การจัดบ้านมีความประทับใจมากน้อยแค่ไหน ตู้เสื้อผ้ามีลายที่คุกคาม เช่น ลายสามเหลี่ยม กระจกเป็นรูปตัวที หรืออะไรที่มีลักษณะก้าวร้าว ศิลปะเหล่านี้ต้องอาศัยว่าเรามองแล้วเกิดความรู้สึกอะไรอย่างไร


ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม

ภาพต่างๆ ไม่ว่าจะแสดงอารมณ์อะไรออกมานั้น ก็ย่อมขึ้นอยู่กับความชอบซึ่งประกอบด้วยความรู้สึกส่วนตัว ทั้งๆที่รู้ว่ามันจะส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกอย่างไร เมื่อมองแล้วถ้าชอบก็ใช้ได้   แต่ถ้าต้องการจัดทำเล ภาพที่แสดงอารมณ์รุนแรงต่างๆ ก็ต้องเอาออก ถ้าเราต้องการความอ่อนโยน  ยกตัวอย่างเช่น ห้องผู้บริหารท่านหนึ่ง ภาพหลังโต๊ะทำงาน เป็นภาพครุฑกำลังจิกพญานาคต่อสู้กันอยู่ เป็นภาพที่แกะบนผนัง ลงสีลงทองอย่างดี  ถามว่าทำไมตัวเขาจึงมักขัดแย้งกับบุคคลอื่นไปทั่ว  รูปนี้มองได้ ๒ แบบ แบบแรกคือ สำหรับคนใจอ่อน รู้สึกสงสาร  แบบที่สอง คนเข้มแข็ง มองแล้วไม่รู้สึกอะไร ถือเป็นการต่อสู้เฉยๆ  แต่ทั้งสองฝ่ายมีจิตใต้สำนึกตรงกันคือ ขัดแย้ง การรังแก การฆ่ากัน เพราะฉะนั้นรูปนี้ก็จะมีอิทธิพลต่อคนตรงนั้น ไม่ว่าจะนั่ง เดินผ่าน มองบ้างไม่มองบ้าง รู้สึกบ้างไม่รู้สึกบ้าง  แต่สิ่งเหล่านี้ได้เข้าไปอยู่เป็นภาพใต้จิตใต้สำนึก และยอมรับว่า ภาพนี้มีความหมายถึง การต่อสู้ การขัดแย้ง รูปภาพในหน้าหนังสือพิมพ์ก็มีผลเช่นกัน
 

เรื่องของหยินหยาง


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน


ใครก็ตามที่คิดจะเรียน ศาสตร์ว่าด้วยภูมิพยากรณ์ ต้องมีความเข้าใจหลักของ หยิน-หยาง อย่างถ่องแท้ และเมื่อเห็นภาพแสดงสัญลักษณ์ ก็ต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในกฎเกณฑ์ธรรมชาติ ความสมดุลกลมกลืน ความเป็นไปโดยราบรื่นบนพื้นฐานของความขัดแย้งกัน คำอธิบายที่ชัดเจนของวลีที่ว่า "ความเป็นไปโดยราบรื่นบนพื้นฐานของความขัดแย้งกัน" นั้น คือธรรมชาติที่อยู่รอบๆตัวเรา ยกตัวอย่างเช่น มีกลางวันให้เราต้องตื่นตัวลุกขึ้นทำงาน และถึงเวลาพักผ่อนที่ทุกคนจะรู้โดยอัตโนมัติ เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน แลเห็นดาวหรือพระจันทร์ลอยเด่นขึ้นมา  หยินและหยาง เป็นหลักความดีและไม่ดี ที่ครอบงำโลกนี้ จักรวาลนี้รวมทั้งสิ่งที่มีชีวิตในจักรวาล 

ในโลกเรานี้ มีทุกอย่างเป็นของคู่กัน ทั้งๆที่อยู่ตรงกันข้ามกัน  มีมืด ก็ต้องมีสว่าง มีดี ก็ต้องมีเลว มีทุกข์ ก็ต้องมีสุข มีหญิง ก็ต้องมีชาย มีหัวเราะ ก็ต้องมีร้องไห้ มีสิ่งที่สงบนิ่ง ก็ต้องมีสิ่งที่เคลื่อนไหว และ อีกมากมาย ฯลฯ  หยิน หมายถึงความสงบ ความนิ่ง ความจม ความมืด ความทุกข์ ความกลุ้มใจ ความอืดอาด คือผู้หญิง และความเยือกเย็น สถานที่ ก็หมายถึง ที่มืด ที่อับชื้น เหว หุบเขา ลำธาร ป่าช้า และความตาย เป็นตัวแทนของนรก  ในขณะที่ หยาง มีความหมายถึง สิ่งที่มีชีวิตชีวา การเคลื่อนไหว การไหวตัวไม่อยู่นิ่ง คือ ความเจริญเติบโต การกระจายตัวออก ลอย ฟู แสงสว่าง ความกะตือรือล้น ความสุข ความร่าเริง คือ ผู้ชาย ความร้อน อารมณ์ร้อน สถานที่ ที่ที่สว่างไสว มีชีวิตชีวา ความแข็งแรง ภูเขา ที่ราบที่โล่ง และ เป็นตัวแทนของสวรรค์

พลัง หยิน และ หยาง ต่างมีสภาวะของธรรมชาติ ที่ส่งเสริมกันอย่างกลมกลืนในโลกนี้ ถ้าอยู่ร่วมกันในจังหวะเวลาและสถานที่ที่ควรจะเป็น ก็จะเป็นพลังที่มีความกลมกลืน ส่งเสริมกัน ไม่เป็นปฎิปักษ์ต่อกัน  หยินและหยาง เป็นวิถีทางของเต๋า คือ ความเป็นไปของธรรมชาติที่ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อมีความมืด ก็มีโอกาสที่จะสว่าง เมื่อมีซ้าย ก็มีโอกาสที่จะเป็นขวา เมื่อมีทุกข์ ต่อไปก็มีโอกาสมีสุข และเมื่อมีเลว ก็อาจจะเป็นดี ในขณะเดียวกัน มีดี ก็อาจมีเลวได้ เป็นวัฏฏะหมุนเวียนกันอย่างนี้ ไม่มีที่สิ้นสุด

ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน


สัญลักษณ์ของหยินหยาง มีจุดเริ่มต้นที่เดียวกัน ดูเหมือนเริ่มต้นไปคนละทาง แต่ก็วนไปทางเดียวกัน ตามๆกัน อย่างกลมกลืนและกลมเกลียว  ในทำเลที่อยู่อาศัยหนึ่งๆ ต้องมีความสมดุลของความเป็นวัฎจักรในลักษณะนี้ จึงจะสามารถหมุนเวียนวน เป็นทำเลที่มีชีวิต มีประวัติ มีความเป็นมาและเป็นไป ตามสภาวะที่กลมกลืนกัน ขัดแย้งกัน แต่ก็ส่งเสริมกัน ไม่เป็นปฎิปักษ์ต่อกัน หยิน และ หยางในสถานที่หนึ่ง จะต้องพึ่งพาอาศัยกัน และมีความหมายต่อความเป็นไปของมนุษย์ที่เป็นปรกติ  คือ เมื่อมีสว่าง แต่ถ้าปราศจากความมืด คำว่าหยุดพักเพื่อเอาแรงไว้ต่อสู้กับสภาวะหยางของชีวิตก็จะไม่มี

ดังนั้น หยินและหยาง มีผลกระทบซึ่งกันและกันต่อเนื่องกันไป อันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง วิวัฒนาการ ดังเช่น เมื่อมีกลางคืนต่อเนื่องจากกลางวัน ความมืดเปลี่ยนเป็นสว่าง วันคืนก็ผ่านไปอย่างสมดุล มนุษย์ก็ใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับวัน คืน  เมื่อถึงฤดูร้อน เสื้อผ้าบางเบา วันหนึ่งก็ต้องหลีกทางให้ฤดูหนาวเข้ามาทำหน้าที่ และก็วนเวียนมาสู่ฤดูร้อนอีก เป็นการเปลี่ยนแปลง มีการเคลื่อนไหว และเมื่อนำหลักของธรรมชาติของ หยิน หยาง มาใช้กับศาสตร์ว่าด้วยการพยากรณ์ ก็จะต้องเข้าใจว่า เวลานี้เราประสบโชคร้ายมีเคราะห์กรรม แต่วันเวลาก็จะเปิดทางให้โชคดีหมุนเวียนมาหาเรา และในขณะเดียวกัน เมื่อประสบโชคดี ก็ต้องมีวันที่จะต้องประสพโชคร้ายเช่นกัน

ต้นกำเนิดวิธีคิดอย่างนี้เป็นของลัทธิเต๋า จึงสามารถกล่าวได้ว่า ลัทธิเต๋า คือต้นกำเนิดของวิชาฮวงจุ้ย และโชคชาตาของมนุษย์ที่มีขึ้นมีลง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย สิ่งนี้เองที่เรียกกันว่า เป็นวิถีแห่งเต๋าของมนุษยชาติ และเป็นรากฐานของการพยากรณ์และการปรับแต่แก้ไขที่อยู่อาศัย เพื่อความเป็นไปที่ดี ที่ส่งเสริมกันและไม่เป็นปฎิปักษ์ต่อกัน อันมีผลต่อ ชีวิตและความเป็นอยู่ของมนุษย  นั่นคือ "หยิน และหยาง จะต้องอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองและกลมกลืน เสมอภาค อันจะทำให้เกิดฮวงจุ้ยที่ดี"

หลักสามประสานสอดคล้องกันอย่างไร

ชีวิตคนเราจะ มีความเกี่ยวข้องกับหลัก 3 ประสานคือ ฟ้าประทาน ดินบันดาล ประสานบุคคล  เวรกรรม อิทธิพลของกรรม และอิทธิพลของดวงดาวนำเรามาเกิด ฟ้าให้มาก็คือ บางคนมีวาสนาหรือไม่มีวาสนา บางคนดำเนินชีวิตแล้ว ทำอย่างไรก็ไม่สูงที่สุด บางคนทำอะไรก็ไม่ขึ้นสักที เช่นนี้เรียกว่าเป็นวาสนาของตัวบุคคล เรามีวิธีการเช็คว่าแต่ละคนมีวาสนาแค่ไหน แล้วต้องจัดทำเลและสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกัน ชีวิตของบุคคลนั้นก็จะเป็นสุขขึ้น

แต่ขณะเดียวกัน บุคคลนั้นก็ต้องรู้ด้วยว่า เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะเวรกรรมของตนเอง เช่น บางคนทำดีมาตลอดแต่ไม่มีใครเห็น เช่นนี้ก็ต้องมีความเข้าใจว่า เปรียบเหมือนกับการปิดทองหลังพระ  นาน ๆ เข้าก็ต้องมีคนเห็น โดยมากบุคคลเหล่านี้มักมีดาวพฤหัสเป็นนิจ ประ หรือพฤหัสเสื่อม ตอนที่เราเกิด ดาวดวงนี้ทำมุมไม่ดีไม่ส่องแสงให้กับเราเพียงพอ ทำให้เราทำอะไรก็เหมือนกับเราได้แสงไม่เพียงพอ ทำให้เราส่องแสงสว่างกระจายแสงออกไปได้ไม่แจ่มชัด เพราะมีดาวบังคับให้เราไปเกิดภายใต้อิทธิพลของดาวแบบนี้ หมายถึงเป็นเวรกรรมนำมา อย่างนี้เป็นจุดที่จะทำให้เราเรียนรู้ว่าจังหวะนี้เป็นจังหวะที่ดาวดวงนี้ สำหรับเราไม่ดีเลย ทำให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้น  ถ้าเราเคยมีกรรมว่าเราเคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมา เราก็ต้องได้รับผลกรรมในเรื่องของสุขภาพไม่ดี แต่เมื่อใดมันจะเข้ามาสนอง ก็ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อดวงดาวนี้โคจรเข้ามาหรือดวงดาวที่เกี่ยวพันกับชีวิต เราได้รับอันตรายจากดวงดาวอื่นๆ หรือส่องแสงไม่เพียงพอเป็นต้น


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน
 
 
นี่คือการศึกษาหลักฟ้าประทานหรือโหราศาสตร์   อาจารย์เลือกใช้ทั้งโหราศาสตร์ไทยและดวงจีน เพราะถือว่าเรื่องดวงชะตาของคนมีความละเอียดซับซ้อน มีกลไกที่มีความเกี่ยวพันกับบุพกรรมและเวรกรรมอันเก่าก่อนด้วย เพราะฉะนั้นความซับซ้อนและความละเอียดนี้คงจะต้องใช้มากกว่าหนึ่งศาสตร์
                 

ถัดจากฟ้าประทานก็เป็นดินบันดาล คือการจับหลักว่าดวงของคนนี้ไปได้แค่ไหน วาสนาเป็นอย่างไร อ่านดวงให้ออกว่าในดวงของบุคคลนั้นมีดาวเสียมากมาย หมายถึงมีข้อห้ามในดวงมาก เราก็ต้องวางทำเลให้สอดคล้องกับดวงชะตาของบุคคลนั้น ทิศทาง ธาตุประจำตัว รวมทั้งลัคนากำเนิดในดวงด้วย ยกตัวอย่างเช่น บางคนเคยดูดวงแล้วถูกทักว่า ดวงแบบนี้ต่อไปไม่ส่งเสริมพ่อแม่ ทำให้ตระกูลเสื่อม จะเรียนไม่จบ จะมีปัญหา คนที่เคยถูกทำนายมาแบบนี้ ถ้ารู้หลักโหราศาสตร์ ก็สามารถแก้ปัญหาให้ตนเองได้ โดยให้เข้าใจว่า บุคคลนั้นไม่สามารถที่จะโตหรือว่าสร้างความเจริญในถิ่นฐานเดิมได้ จะไปได้ดีที่อื่น แล้วอาจจะกตัญญูส่งความช่วยเหลือมา แต่ถ้าดูดวง ณ วันกำเนิดของคนนั้น คือจุดที่ลัคนาอยู่ มีดาวบาปเคราะห์อยู่มากมายและเบียนลัคนาด้วย ซึ่งถ้าโดยทั่วไปก็อาจจะทำนายว่าคนนี้พึ่งไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้ว หมายถึงว่าบุคคลนั้นต้องไปโตที่อื่น แล้วก็ไม่สามารถจะอยู่ถิ่นฐานเดิมหรืออยู่ใกล้ชิดกับพ่อแม่หรือญาติพี่น้อง เดิมได้ เพราะว่าเราเองต่างหากที่เป็นผู้ถ่วงดวงเขา ไม่ใช่เขามาถ่วงดวงเรา 


ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน

 
สามารถอธิบายได้ว่า หลักโหราศาสตร์หากนำมาเปรียบเทียบกับทางพุทธศาสนาแล้ว ทุกคนก็มีข้อดีของตนเอง หากในดวงของคนหนึ่ง  มีดวงต้องพินทุบาทว์ ดวงต้องเนรคุณพ่อแม่ หากมองในมุมกลับ สามารถจะมองข้อดีของดวงนี้ได้ เพราะว่าดวงนี้จะมี 2 ด้าน หมายถึงบุคคลจะต้องมีกรรมดี กรรมชั่ว มาประกอบกัน จึงจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แต่ว่ากรรมดีหรือกรรมชั่วจะได้รับการส่งเสริมในด้านไหนมากกว่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และขึ้นอยู่กับบุญที่เกิดมามีพ่อแม่ที่มีความเข้าใจ แล้วไม่ใส่ใจกับคำทำนายเหล่านั้น ให้พื้นฐานที่ดีโดยไม่ต้องคิดว่าเลี้ยงแล้วต้องมาตอบแทนผู้เป็นพ่อแม่ในวัน ข้างหน้า แต่เกิดมาแล้วให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเขา คือ สิ่งแวดล้อมที่ดี สิ่งแวดล้อมที่ดีสามารถที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมได้

สรุป ถ้าท่านใดที่ชอบนำดวงของบุตรหลานไปให้คนอื่นทำนาย อย่าไปตระหนกตกใจ หากถูกทักว่าดวงนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คงจะต้องหันมาดูของดีของแต่ละคน และยังสามารถนำมาส่งเสริมได้ ทำให้เจริญได้ อย่างที่ว่า ฟ้าประทาน ให้มาแบบนี้ก็มาปรับทำเลซึ่งก็คือดินบันดาล ที่สำคัญคือการสร้างสภาพแวดล้อมของโลก ก็นำหลักพระพุทธศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องคือต้องมีความเมตตา และใจเย็นกับเด็ก อย่าเอาความคิดเห็นของตนเองไปใส่ให้กับเด็ก อย่าเอาอารมณ์ร้อน อารมณ์เสียจากนอกบ้านมาใส่ให้เด็ก อย่าลงโทษด้วยความโมโห แต่ให้ลงโทษด้วยความรักความเมตตาเช่นนี้คือจุดเริ่มต้นของการสร้างสภาพแวด ล้อมที่ดีให้กับเด็ก
                
เช่นนี้คือตัวอย่างของฟ้าประทาน และดินบันดาล การวางทำเลในตำแหน่งต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับทิศ ธาตุ และทิศทางที่เขาจะเดิน และก็ประสานบุคคล โดยขัดเกลาตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการกระทำตนซึ่งก็คือจิต ต้องมีความเข้าใจว่า การที่เราทำจิตดีของเราทุก ๆ วัน เป็นการหันเหดาวของเราไปหาดาวศุภเคราะห์ เปิดชีวิตของเราด้วยดาวศุภเคราะห์ สิ่งดี ๆ ก็จะวิ่งเข้ามาหาเรา แต่ถ้าเราเปิดชีวิตด้วยดาวบาปเคราะห์ สิ่งร้าย ๆ ก็วิ่งเข้าหาเรา คำว่าบาปเคราะห์ก็เหมือนกับตีเขาเขาก็ตีเราตอบ เราด่าเขาเขาก็ด่าเราตอบ แต่ถ้าเป็นดาวศุภเคราะห์ เรามีปิยวาจา มีความอ่อนโยน เราก็จะได้รับสิ่งนั้นตอบแทน ความซาบซึ้งใจก็จะเกิดขึ้น มนุษย์มีมโนธรรม มีจิตใจที่ซึมซับและรับทราบเหมือนกันทุกคน สำคัญว่าคนนั้นซึมซับสิ่งใดมาในชีวิต เต็มแล้วหรือยัง เช่น เขาซึมซับแต่สิ่งร้ายมาจนเต็ม ไม่สามารถสอดแทรกสิ่งดี ๆ เข้าไปได้ หรือว่าเขาซึมซับสิ่งที่ดี ๆ มามากจนกระทั่งทำบาปไม่ขึ้น สิ่งร้าย ๆ เข้าไปไม่ได้ อยู่ที่เราซึมซับอะไรมา ตรงนี้สำคัญที่สุด ทุกคนเลือกเองได้ ทางชีวิตของคนเราที่เป็นมงคลก็คือ มงคล 38 ประการ มงคลของชีวิตเป็นการรักษาตนให้เป็นปกติ ดำรงชีวิตให้เป็นสุขโดยที่เรามองเห็นภัยของชีวิต และทางที่จะดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย
                 




ฮวงจุ้ยกับอาชีพ ตอนที่ 2

ทิศตะวันออก

ถ้าทิศตะวันออกโดดเด่น หรือใช้เป็นประจำ ควรมีธาตุไม้เด่นตามไปด้วย เช่น อาชีพรายการวิทยุ ข่าวสาร หนังสือพิมพ์ นิตยสาร และสื่อทุกชนิด การแปลเอกสาร เครื่องมือสื่อสาร  ทิศตะวันออกเป็นทิศของสายฟ้าหรือ คลื่น คือ “เจิ้น” เพราะฉะนั้นก็จะเกี่ยวกับคลื่น เครื่องมือสื่อสาร หรือคอมพิวเตอร์เพราะสมัยนี้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือสื่อสาร อินเตอร์เน็ต ท่านที่มีอาชีพเช่นนี้ ไม้จะตายไม่ได้ รวมไปถึงคนที่ทำงานเป็นออเปอร์เรเตอร์

ทิศตะวันออกเป็นธาตุไม้ จะเป็นดนตรีคลาสสิค ชั้นสูง ไม่ใช่ดนตรีธรรมดา เพราะดนตรีธรรมดาจะจัดอยู่ในอีกทิศหนึ่ง เช่นครูสอนไวโอลิน เปียโน กีต้าร์คลาสสิค หรือเรียนดนตรีเหล่านี้ ต้นไม้ต้องสวยงามและมุมตะวันออกต้องเด่น ขายผลไม้ การจัดสวน ขายไม้ ขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ขายของชำร่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ตลาดสด การจัดดอกไม้ บางคนไม่ได้ประกอบอาชีพเหล่านี้ แต่พอมาอยู่บ้านที่ทิศตะวันออกเด่น ธาตุไม้เด่น ก็จะได้ประกอบอาชีพทางด้านนี้ ยาสมุนไพร เพราะทำมาจากไม้

บางคนทำงานทางด้านการสื่อสาร แต่ทิศตะวันออกน้ำรั่ว น้ำซึม หรือหลังคารั่ว จะทำให้การงานมีอุปสรรค และยิ่งทิศตะวันออกเป็นธาตุไม้ ก็ต้องการธาตุน้ำมาส่งเสริม น้ำจะเสียไม่ได้ การทำบุญปลูกต้นไม้ในวัด หรือแม้อุดหนุนคนที่มีอาชีพขายดอกไม้ หรือซื้อต้นไม้เข้าบ้าน ก็ถือว่าเป็นการส่งเสริมอาชีพของตนเองเหมือนกัน ธาตุไม้ หมายถึงอารมณ์ความรู้สึกที่อ่อนไหวง่าย ถ้าที่ใดธาตุไม้แรง คือ ไม้เนื้อแข็งเต็มและรกครึ้มเต็มไปหมดก็จะทำให้อารมณ์หงุดหงิดง่าย หรือถ้าในดวงชาตาธาตุไม้เยอะ จะหงุดหงิดง่ายก็ต้องระบายด้วยธาตุไฟ บ้านก็ต้องสว่าง
 

ซินแสฮวงจุ้ย, ดวงจีน, โหราศาสตร์จีน, ฮวงจุ้ยเสริมโชค, อาจารย์แอน
 

ทิศตะวันออกเฉียงใต้

หมายถึง ไม้ออกดอกออกผล ก็จะแปรรูปไปอีกทีจากด้านตะวันออก ถ้าเราใช้ทางด้านนี้มาก เช่น เป็นประตู เป็นทางออก คึกคัก มีคนชุมนุมเป็นนิจ พูดคุยเป็นประจำ มีเสียงดัง ก็จะส่งเสริมอาชีพเกี่ยวกับความงาม เสริมสวย ออกแบบตกแต่งภายใน การโฆษณา การจัดสวนดอกไม้ น้ำหอม เครื่องหอม ตลาดสด มินิมาร์ท ขายเครื่องเขียน หนังสือ ขายงานเกี่ยวกับศิลปะ (เป็นคนขายไม่ได้ทำเอง)  เสื้อผ้าสำเร็จรูปตามแฟชั่น ดอกไม้และดอกไม้ประดิษฐ์ โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์มือถือ เครื่องมือตกแต่งทุกชนิด ประดับยนต์ อาชีพที่เกี่ยวกับเครื่องบิน แอร์โฮสเตส นักบิน อาชีพเกี่ยวกับธาตุลม อาชีพเกี่ยวกับสัตว์ปีก เช่น เลี้ยงไก่ ทำงานที่เกี่ยวกับมูลนิธิ

แต่ถ้าตะวันออกเฉียงใต้ทรุด ก็จะทำให้การทำงานของเราถูกเปลี่ยนตัว ไม่เป็นที่พอใจ ทะเลาะกับคนอื่น มีปัญหากับคนอื่น และจะเอาแต่ใจตัวเอง นั่นก็คือ จะไม่สนับสนุนในอาชีพของเรา ถ้าธาตุลมดี และธาตุไม้ดี ก็จะสนับสนุนเรา แต่ถ้าเราไม่ค่อยได้ใช้มุมนั้น ก็อาจจะทำให้ตก ๆ หล่น ๆ ได้ เช่น อาจจะขาดงานบ่อย เพราะทิศทางไม่ได้สนับสนุนแต่สนับสนุนแค่ธาตุเท่านั้น


 
ฮวงจุ้ยโชคลาภ, บ้านกับฮวงจุ้ย, จัดบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเตียงนอน


ทิศใต้

ธาตุไฟ คือ ขายอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด แต่ถ้าที่บ้านประหยัดไฟเป็นที่สุด อาชีพนั้นก็จะไม่เจริญรุ่งเรือง หรือขายคอมพิวเตอร์ ไฟต้องสว่างไสว ทิศใต้ก็ต้องโดดเด่น และยังหมายถึงนักวิชาการ บัณฑิต จักษุแพทย์ หมอโรคหัวใจ การถ่ายรูปที่ใช้แฟลต ร้านขายแว่นตา เป็นครู ครูสอนคณิตศาสตร์ วิศวกร ผู้บริหารระดับสูง ขายอาวุธ ขายเตาแก๊ส อาชีพนางแบบ อาชีพที่อยู่ไม่เป็นที่ ถ้าทิศใต้บ้านใดไม่เด่น ธาตุไฟไม่ดีระวังโรคหัวใจ หรือคอมพิวเตอร์จะมีปัญหาบ่อย ตาเจ็บ หัวใจไม่ดี

ถึงเราไม่ได้ประกอบอาชีพ แต่ถ้าสามารถสังเกตได้ว่าทิศใต้ของเราไม่ดี ก็จะไม่ได้ส่งผลต่ออาชีพหรือการเงิน แต่จะส่งผลถึงสุขภาพเท่านั้น

ทิศตะวันตกเฉียงใต้   

เป็นทิศแม่ ธาตุดิน ดังนั้นจะเป็นงานแม่บ้านทุกชนิด การเลี้ยงเด็ก อาชีพแม่บ้าน การซักแห้ง งานโภชนาการ งานฝีมือแรงงาน เกี่ยวกับแม่ค้า ขายของเก่า ผลิตผลทางการเกษตร พืชไร่ ขายก๋วยเตี๋ยว ขายเสื้อผ้า ขายเสื้อ ขึ้นชื่อว่าแม่ค้า เกี่ยวกับธาตุดิน เซรามิคทุกชนิด งานด้านโหราศาสตร์ ศาสตร์ลี้ลับ งานก่อสร้าง ด้านอสังหาริมทรัพย์ การเกษตร


ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยร้านค้า, ฮวงจุ้ยห้องนอน, อาจารย์แอน

ทิศตะวันตก

เกี่ยวกับความรื่นเริง ร่าเริง ดารา นักพูด ตลก เครื่องดนตรีที่สนุกสนาน กฎหมาย ตำรวจ ที่ปรึกษา เซลล์แมน (อาชีพที่ใช้ปาก) นักโต้วาที พิธีกร นักแสดง รวมไปถึงนักโหราศาสตร์ด้วย การรับเชิญไปพูด ผู้แทน (สส.) ถ้าต้องการเป็นนักพูดที่ประสบผลสำเร็จ ก็ต้องดูแลไม่ให้ทิศตะวันตกเสีย ถ้าไปต่อเติมด้านตะวันออก แต่ประกอบอาชีพของทิศตะวันตก ก็จะทำให้อาชีพเราตกลงไปด้วยเช่นกัน

ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

การค้าระหว่างประเทศ ขายกระจก เพชร พลอย ร้านทอง อาชีพที่มีหลายสาขาแตกกิ่งก้านออกไป ขายรถ ธุรกิจส่งออก นักกีฬา นักปกครองระดับสูง นักบริหารบ้านเมือง นักดาราศาสตร์ ที่เป็นระดับสูงทุกอย่าง ธุรกิจขายตรงที่มีเครือข่ายเยอะ ถ้าตะวันตกเฉียงเหนือเสีย อาชีพก็จะคลอนแคลนไปด้วย และยังต้องให้ความสำคัญกับธาตุทองอีกด้วย ถ้าปรากฏว่าบ้านมีแต่ธาตุไม้เยอะ ธาตุทองไม่มีเลย ก็จะทำให้การบริหารของเรามีปัญหามาก



ฮวงจุ้ยกับอาชีพ ตอนที่ 1



ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน
 
บุคคลที่ประกอบอาชีพที่ต่างๆ  ฮวงจุ้ยและสภาพแวดล้อมของบ้านพักอาศัยที่ต่างกันไปนั้น จะให้การสนับสนุนอาชีพที่ต่างกันไป ซึ่งทำเลของบ้านแต่ละมุมแต่ละทิศ มีความสัมพันธ์กับอาชีพที่ทำ แต่ละทิศนั้นต่างก็มีความสำคัญในตัวของมันเอง บ้านที่เราอาศัยอยู่เป็นเวลานาน  เรามาลองสังเกตว่าอาชีพที่เราทำสอดคล้องกับธาตุใด และในบ้านเรานั้นมีทิศใดที่เด่น

ทิศทั้งหมด 8 ทิศ บ้านที่เราอยู่อาศัยถ้าทิศไหนเด่นจะนำไปสู่อาชีพอะไรบ้าง ไม่ได้ดูว่าบ้านหลังอิงทิศใด แต่ดูจากภายในบ้านว่าทิศใดเด่น แล้วมีธาตุอะไรที่เด่น ยกตัวอย่าง บ้านที่มีทิศเหนือเด่น ทำให้เราไปใช้มุมทางทิศเหนือมากที่สุด ซึ่งอาจจะเป็นทิศที่นั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือ นั่งดูทีวี เป็นที่รวมของทุกคนในครอบครัว หรือมุมทิศเหนือสวยที่สุดและใช้บ่อยที่สุด ทิศเหนือเป็นธาตุน้ำ และธาตุน้ำในบ้านดีอีกด้วย น้ำไหลแรงและแรงดันดี น้ำไม่เคยเสียเลย แต่ถ้ามีท่อแตก ชักโครกเสีย น้ำน้อย ก็ถือว่ามีอุปสรรคติดขัด อาจจะทำให้มุมทิศเหนือที่เราไปใช้นั้น เป็นการใช้แบบตะกุกตะกัก อาจจะไปนั่งทะเลาะกันที่ตรงนั้น คือไปใช้มุมทิศเหนือทุกวัน แต่ก็ทะเลาะกันทุกวัน  ก็เหตุเพราะธาตุน้ำเสียแต่ทิศเหนือในบ้านเด่น


ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน
 
 
ทิศเหนือ

จะเกี่ยวพันกับอาชีพธาตุน้ำ การขายน้ำ ธุรกิจที่เกี่ยวกับน้ำทั้งหมด เกี่ยวกับการธนาคาร  การเงิน เป็นนักคิด เช่น เป็นคนวางแผนระบบงานในองค์กร งานเกี่ยวกับการวิจัย  งานวิเคราะห์  นักการทูต  การตลาด ทำงานเกี่ยวกับการใช้ความคิดที่ต้องเข้าถึงจิตใจคนอื่น (จิตวิทยา)  ปรัญชา ความลึกซึ้ง ศาสนา การท่องเที่ยว เป็นเหมือนกระแสการหมุนเวียน ไม่อยู่นิ่ง เช่น ประกอบอาชีพเป็นไกด์  ร้านกาแฟสดหรือคอฟฟี่ช๊อป ขายเกี่ยวกับน้ำเป็นหลัก ทำเกี่ยวกับธาตุน้ำ เช่น การใช้วิทยาศาสตร์เข้าไปช่วย เช่น การซักเสื้อ  การย้อมสีเสื้อ หรือ การรับอัดพลีท

น้ำมัน ซึ่งจะเกี่ยวพันกับ 2 ทิศ คือ ทิศเหนือและทิศใต้ เพราะปั๊มน้ำมันสมัยนี้จะประกอบด้วยการล้างรถ และขายน้ำมันเครื่อง  มินิมาร์ท  ขายน้ำ  ขายกาแฟ ก็เลยให้ปั๊มน้ำมันอยู่ในทิศเหนือด้วย ถือว่าเป็นน้ำล้อมรอบกองไฟ ชาวประมง ขายปลา ขายสัตว์น้ำ ขายไอศกรีม น้ำแข็งใส อาชีพในการจัดการ คือ บริษัทที่เป็นออการ์ไนท์เซอร์ เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับคนเยอะ สามารถเอาตรงนั้นตรงนี้มารวมกันได้ บริษัทนี้เป็นคนวางแผน และจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้ลุล่วง

โรงเรียน กวดวิชา ไม่ใช่โรงเรียน เพราะโรงเรียนกวดวิชาจะไม่เป็นเวลา อาจจะกวดวิชาตอนกลางคืน เพราะทิศเหนือเป็นทิศของกลางคืน การหมุนเวียน งานที่เป็นกะ เป็นรอบ

ถ้าบ้านมุมทิศเหนือโดดเด่นมาก หรือใช้ทิศเหนือเป็นประจำแล้ว ก็จะต้องประกอบด้วยธาตุน้ำเด่น ถ้าอาชีพของเราตรงกับทิศที่เราใช้เป็นประจำ แต่ไม่เจริญรุ่งเรือง เพราะห้องน้ำเสีย ก๊อกน้ำรั่ว น้ำไม่ขึ้น ถ้าน้ำที่บ้านดี มีตำแหน่งน้ำในบ้านเยอะ มีบ่อปลา แต่ปรากฏว่ามุมทีศเหนือที่บ้านไม่ได้ใช้เลย การไม่ส่งเสริมกันระหว่างทิศจริงกับธาตุก็ทำให้ไม่ประสบผลสำเร็จ เช่น บ้านที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ธาตุน้ำไหลดี ก็ต้องไปใช้ด้านทิศเหนือ เลยนั่งทำงานอยู่ทางด้านทิศเหนือ และใช้ความคิดในการทำงาน เป็นทั้งนักการทูต เป็นทั้งนักคิด  นักวางแผน  นักการบริหาร การจัดการ การรู้จักคนนั้นคนนี้ ก็จะทำตรงนี้ได้ดี

บางคนที่เป็นนักวางแผนนักจัดการ แต่ทิศเหนือรก การทำงานก็จะติด ๆ ขัด ๆ ถ้าทำอาชีพดังที่อาจารย์แอนอธิบายไปแล้วปรากฏว่าทิศเหนือไม่เด่น งานของท่านก็จะไม่ดี หรือถ้าทิศนั้นเด่นแต่ไม่ได้ทำอาชีพที่ทิศนั้น ๆ สนับสนุน

มีคนเคยมาปรึกษาว่า มีที่ดินเป็นที่ลุ่มและจะทำบ่อกุ้ง จะออกจากงานทุกอย่างไปทำบ่อกุ้ง ปรากฏว่าทิศเหนือที่บ้านไม่มี การทำงานนี้ก็จะประสบผลสำเร็จไปไม่ได้ ถ้าให้ไปต่อเติมทางทิศเหนือ เจ้าของบ้านอาจจะไม่เข้าใจว่าบ้านก็ใหญ่โตแล้วทำไมต้องต่อเติมอีก อย่างไรก็ตาม การปรับบ้านก็ไม่เท่ากับความโดดเด่นที่ต้องไปใช้ตรงทิศเหนือ ก็เลยให้ทำศาลาและไปนั่งตรงด้านนั้นบ่อย ๆ ซึ่งเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะอะไรถึงต้องไปนั่งบ่อย ๆ ดังนั้นจึงต้องมีความเข้าใจในเรื่องความสำคัญของธาตุและทิศทางที่โดดเด่น ในที่สุดบ่อกุ้งก็เลยกลายเป็นบ่อน้ำเฉย ๆ ไม่สามารถจะทำอาชีพอะไรได้ เพราะไม่เคยใช้ทิศเหนือเลย บ่อกุ้งนั้นก็ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ หรือโรงเรียนกวดวิชา ทางด้านทิศเหนือ เป็นห้องพักครู เป็นที่ชงกาแฟและรก ดังนั้นโรงเรียนกวดวิชาแห่งนี้ไม่อาจประสบผลสำเร็จ อาจจะมีครูลาออกบ่อย นักเรียนไม่ติด หรือมีปัญหาจุกจิกภายใน


ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม


ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

เป็นทิศที่มีพลังที่สุดในยุคนี้ถึง 20 ปีทีเดียว ทุกบ้านมักจะแนะนำว่าให้ปรับทิศตะวันออกเฉียงเหนือให้ดี เพราะว่าเป็นทิศที่มีพลังที่สุดอย่าเอาอะไรไปสลายพลังตรงนั้น เช่น เอาขยะ ขุดสระน้ำใหญ่ ๆ กว้าง ๆ แต่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตรงด้านนั้นให้ดี ทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นยุคของการเปิดซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลาด พลาซ่า อพาร์ตเม้นต์ก็มีเยอะ โรงแรม 2-3 ดาว รีสอร์ท ที่พักแรม การเปิดโกดังให้เช่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ใน 20 ปีจะไปได้ดี ในระดับราคาปานกลางจนถึงระดับล่าง ไม่ใช่ระดับ 10  ล้านขึ้นไป

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นธาตุดิน และเป็นธาตุน้ำผสมธาตุไม้ด้วย เพราะฉะนั้นก็จะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการเงิน เงินทุนหลักทรัพย์ ปล่อยเงินกู้ คนที่ทำงานที่ศาลเจ้า คนทรงเจ้า ความลี้ลับ รปภ. การดูแล เพราะทิศนี้เป็นทิศของอิ๊งกับทิ่ว คือทิศของวัว ทำงานหนัก กับทิศของเสือดุและการเฝ้าดูแล เพราะฉะนั้นจะหมายถึง รปภ. คือทำงานหนักและก็ดุด้วย หรือทำเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างประเภทที่ต่อเติมบ้านเล็ก ๆ เช่น ทำกันสาด ทำผ้าใบ ติดกระจก ติดเหล็กดัด มุ้งลวด ซึ่งเป็นอาชีพของทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่กำลังจะนิยมใน 20 ปีของยุคนี้ และยังมีอาชีพที่ทำเกี่ยวกับแร่ธาตุ หรือโรงงานที่เกี่ยวกับถุงมือ

บ้านใดทิศตะวันออกเฉียงเหนือเด่น ก็จะทำอาชีพที่ทำงานหนัก จนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ถ้าเปิดร้านโชว์ห่วย ทิศตะวันออกเฉียงเหนือต้องโดดเด่น จะต้องใช้ ให้มีเสียง และมีการเคลื่อนไหวอย่าให้นิ่ง และบางอาชีพที่เป็นการผสมผสานของเคมีต่าง ๆ เช่น ฟลอย์ ของสมัยใหม่ ถ้าทิศตะวันออกเฉียงเหนือเสียและทำอาชีพดังกล่าวนี้ ก็จะเกิดอาการรวน

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำและธาตุไม้ สัญลักษณ์ของธาตุดินเสีย เช่น การเจ็บป่วยบ่อยของคนในบ้าน เช่น ปวดท้อง และอาการป่วยแบบที่ไม่ต้องไปโรงพยาบาล จุกจิกไปหมด ทำให้อารมณ์เสีย ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว แสดงว่าธาตุดินที่บ้านเสีย ถ้าประกอบอาชีพเหล่านี้อยู่ก็จะกระทบกระเทือนไปถึงอาชีพ ถ้าปลูกบัวด้านนั้น ก็ต้องไม่ให้บัวตาย

ตำนานฮวงจุ้ยในประวัติศาสตร์จีน ตอนที่ 5

ในประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้อย่างชัดเจนว่า ขงจื๊อ เป็นผู้เขียน "คัมภีร์อี้จิง" ซึ่งเกี่ยวกับ ทำเล ดิน ฟ้า อากาศ ที่อยู่อาศัย และการพยากรณ์ โดยหลักฐานเก่าแก่ที่อ้างอิงถึงการพยากรณ์นั้น มีมาตั้งแต่สมัยห้าฮ่องเต้ สามราชวงศ์ คือราชวงศ์เซี่ย ราชวงศ์ซาง และราชวงศ์โจว  มีการนำเอากระดองเต่ามาทาน้ำหมึกเผาไฟ  เมื่อแห้งก็จะเห็นเป็นรอบแตกเป็นริ้วรอยเห็นเป็นรหัสของทิศทั้งแปดบนกระดอง เต่า


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน

ตั้งแต่ ๒,๓๐๐ ปีก่อนคริสตกาล (ประมาณ ๔,๐๐๐ ปีผ่านมากแล้ว) จนกระทั่งมาถึง ๓๐๐ ปี ก่อนคริสตกาล ก็มีการทำนายโชคชะตาที่พัฒนาขึ้น มีการเสี่ยงทายจากกระดองเต่า เหรียญสามอัน และมีการวิวัฒนาการมาเป็นกระดูกวัวที่ค้นพบได้ถึง ๑,๕๐๐ ชิ้น การเขียนตัวอักษร การโยนรากไม้ไผ่ผ่าซีก คือการนำรากไม้ไผ่ ๒ ชิ้นแทนหยินหยางและโยนเพื่อเสี่ยงทาย จนในที่สุดก็วิวัฒนาการมาเป็นไม้เซียมซี  สำหรับการเสี่ยงทายแบบอี้จิงนั้น หากเป็นวัดของเจ้าแม่กวนอิมก็จะมีคำทำนายถึง ๑๐๐ ข้อ บางวัดก็จะมีคำทำนายตามคัมภีร์อี้จิง คือเพียงจำนวน ๘๔ เท่านั้น


ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน

คัมภีร์อี้จิงได้เขียนถึงสรรพสิ่งในธรรมชาติ ต้นไม้คือธาตุไม้ ภูเขารูปกลมเป็นธาตุทอง ทรงเหลี่ยมคือธาตุดิน เขาทอดตัวแนวยาวคือธาตุไม้ เขาลักษณะเป็นคลื่น คือธาตุน้ำ ลักษณะแหลมคือธาตุไฟ รวมเป็นห้าธาตุในธรรมชาติ แม้ตัวของคนเราเองก็มีห้าธาตุเหมือนกัน การพยากรณ์เกี่ยวกับธาตุในตัวเรานั้นจะต้องใช้อักษรถึง ๘ ตัว  แบ่งเป็น ๔ แถว (โป๊ยยี่ สี่เถียว)  การพยากรณ์นี้ผู้ที่ไม่รู้ภาษาจีนก็สามารถเรียนรู้ตัวภาษาจีน ๒๒ ตัวเพื่ออ่านธาตุได้ ธาตุของฐานปีหมายถึงสภาพแวดล้อม ธาตุของฐานเดือนก็หมายถึงพ่อแม่หรือสภาพแวดล้อมที่ใกล้ตัวเข้ามาอีกหรือฐานะดั้งเดิม ธาตุของฐานวันเกิดตัวเองหมายถึงคู่สมรส ธาตุของฐานยามคือบุตรหลานบริวาร การแก้ไขธาตุที่ไม่สมดุลย์ในร่างกายก็นำไปสู่ศาสตร์แห่งการตั้งชื่อเพื่อ แก้ไขธาตุให้สมบูรณ์  

ผู้ที่จะศึกษาฮวงจุ้ยนั้น ควรที่จะได้ศึกษาคัมภีร์อิ้จิงก่อนที่จะไปถึงการศึกษาเรื่องทำเล  นอกจากอี้จิงแล้วยังต้องสัมพันธ์ไปถึงเต๋าอีกด้วย เพื่อเข้าใจวิถีของธรรมชาติ เมื่อแตกฉานแล้วจึงมาถึงการเรียนรู้เรื่องทำเล ดวงจีน จนถึงศาสตร์การแพทย์ต่อไป

ในการเสี่ยงทายนั้น อิ้จิงมีการเขียนอ้างอิงคำทำนาย คือใช้ธาตุในการเสี่ยงทาย และใช้มากที่สุดในสมัยราชวงศ์ถัง ชาวจีนนั้นมีความเข้าใจในเรื่องธรรมชาติมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว  อักษรจีนที่วิวัฒนาการมาจากอักษรภาพนั้นอธิบายธรรมชาติได้ดีที่สุด  เช่นคำว่า ”ต้า” ซึ่งหมายถึงความยิ่งใหญ่นั้น มาจากอักษรที่หมายถึงคนและมีขีดที่หมายถึงหมวก คือคนที่มีเครื่องทรง ส่วนพลังของการเขียนตัวอักษรจีนคือจากซ้ายไปขวา หมายถึงพลังของโลกที่หมุนจากทางซ้ายไปทางขวา


ในแง่ของประวัติศาสตร์ รัฐฉินนั้นมีนักปราชญ์อยู่ผู้หนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะกล่าวถึงดังนี้ ในสมัยชุนชิวนั้นมีลัทธิขงจื๊อเกิดขึ้นซึ่งเป็นที่มาของคัมภีร์อี้จิง และในขณะเดียวกันก็ก่อกำเนิดลัทธิเต๋า ซึ่งเป็นกระแสความคิดใกล้เคียงกับลัทธิขงจื๊อทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการปกครอง การเมือง รัฐศาสตร์ รัฐประสาสนศาสตร์ พิชัยสงครามการยุทธ จนเป็นที่มาของฮวงจุ้ยคือเกี่ยวกับเรื่องธาตุตามธรรมชาติ ลัทธิเต๋านั้นพยายามจะไม่ไปยุ่งกับการเมืองและสังคมมากเท่ากับของขงจื๊อ ทั้งนี้เป็นเพราะว่าลัทธิของขงจื๊อจะเกี่ยวพันกับประเพณีเป็นส่วนใหญ่

ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม
ปรมาจารย์ของลัทธิเต๋าได้แก่ เหลาจื๊อ ซึ่งแปลว่าอาจารย์ผู้เฒ่า เหลาจื๊อนั้นเป็นคนยุคเดียวกับขงจี๊อ แต่ว่ามีอาวุโสกว่า เป็นชาวเหอหนาน (บางตำนานว่าเป็นชาวรัฐฉู่) เคยรับราชการในพระราชสำนักของกษัตริย์ราชวงศ์โจวที่เมืองลั่วหยาง เป็นพนักงานที่หอสมุด  ต่อมาเกิดความเบื่อหน่ายต่อความเสื่อมโทรมของสภาพสังคมและฐานะที่ตกต่ำลงเรื่อย ๆ ของกษัตริย์ ของคนรอบตัว และแคว้นต่าง ๆ จึงออกเดินทางไปทางด่านหานกู่ทางด้านทิศตะวันตก และหายสาบสูญไป หลังจากนั้นเมื่อมีผู้พบตัวอีกครั้ง จึงได้มีการขอร้องให้เหลาจื้อเขียนถึงคติธรรมต่างๆ ไว้

เหลาจื๊อจึงได้เขียนหนังสือขึ้นเล่มหนึ่ง มีความยาวห้าพันคำ มีชื่อว่า “เต๋าเต๋อจิง” หรือ “เต๋าเต๊กเก็ง” เป็นคัมภีร์มรรคหรือทางแห่งธรรมชาติ แสดงให้เห็นว่าแม้เป็นผู้ยิ่งใหญ่สักเท่าใด ก็ไม่สามารถชนะธรรมชาติได้ ควรปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ ต้องรู้จักรอคอย เฝ้าดูธรรมชาติและความเป็นไปของธรรมชาติ คติเหล่านี้สามารถปรับประยุกต์เข้ามาใช้กับชีวิต และการเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ได้ และปัญหาบางอย่างนั้นก็แก้ตัวเองได้โดยวิถีทางธรรมชาติ

ดังนั้นหากเป็นการฝืนธรรมชาติแล้ว สิ่งเหล่านั้นจะไม่สามารถดำรงอยู่ได้เลย จะเห็นว่าคำสอนของเหลาจื้อกับขงจื๊อนั้นไปคนละทาง แต่คัมภีร์เต๋าและขงจื๊อนั้นกลับไปในทางเดียวกัน ในสมัยนั้น ความคิดแบบเต๋านั้นจะได้รับความนิยมมากเพราะตรงกับการใช้ชีวิตของคนสมัยนั้นอยู่แล้ว และจากการที่เหลาจื๊อได้ขึ้นเขาและหายตัวไปเป็นเวลานานกว่าจะมีผู้พบเห็นอีก ครั้ง ก็เปรียบเหมือนกับเซียนที่ซ่อนตัวอยู่บนภูเขา  ซึ่งเป็นที่มาของปรมาจารย์ทางด้านฮวงจุ้ยที่ผู้ที่ศึกษาวิชาฮวงจุ้ยให้ความ เคารพคือ ไท้เสียงเล่ากุน นั่นเอง



ตำนานฮวงจุ้ยในประวัติศาสตร์จีน ตอนที่ 4

สมัยที่ชาวจีนเริ่มอารยธรรมที่ลุ่มแม่น้ำฮวงโหนั้น เป็นสมัยที่ศาสนายังไม่ชัดเจน มีลัทธิต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย  ดังนั้นจึงต้องอาศัยการสังเกตธรรมชาติตามคำที่กล่าวว่า “ฟ้าดินเข้าข้างใคร”   ในวันที่รวบรวมหัวเมือง 800 หัวเมือง เกิดเหตุมหัศจรรย์อันมีนกชาดเป็นนิมิต จนในกาลเวลาผ่านไป ราชวงศ์ซางก็ถูกล้มล้างได้เป็นผลสำเร็จ จากนิมิตนั้นจึงถือกันว่าราชวงศ์โจวที่ตั้งขึ้นมาใหม่อยู่ในอำนาจของธาตุไฟ  หลังจากนั้นราชวงศ์โจวยังคงใช้ระบบการปกครองเหมือนเดิม ด้วยการส่งขุนศึกหรือราชโอรส ไปปกครองตามหัวเมืองต่าง ๆ


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน
 
 
การที่ราชวงศ์โจวสามารถปกครองได้ยาวนานถึง 800 ปี ก็มาจากการเสี่ยงทายของเจียงไท่กง (เมื่อครั้งเจียงไท่กงเข้ารับราชการนั้นก็มีอายุมากแล้ว มีการเสี่ยงทายโดยขึ้นรถและให้โจวเหวินหวางลากรถนั้นไป  เมื่อลากไปได้ 800 ก้าวจึงหยุด ก็มีคำทำนายว่าราชวงศ์นั้นจะยืนยาวได้ถึง 800 ปี)  ในทางฮวงจุ้ยแสดงไว้ว่า ได้มีการวางยุคจากดาว 9 ยุค หรือดาวเหนือ ว่ายุคใดประตูเมืองควรจะหันหน้าไปทางทิศใด  อย่างไรก็ดี การตั้งประตูในยุคนั้นมีอายุ 800 ปีจึงสิ้นสุดยุค เป็นอันว่าราชวงศ์โจวก็สามารถสถาปนาขึ้นได้ตามหลักวิชาการวางประตูเมืองแบบ ดาว 9 ยุค

ในช่วงปลายราชวงศ์โจว ขุนศึกต่างๆ เริ่มตั้งตัวเป็นใหญ่คือ อ๋องแต่ละอ๋องก็จะมีขุนศึกของตัวเอง เข้าตีแคว้นเล็กแคว้นน้อย รวมรวมเข้ามาอยู่ในอำนาจของตน เพื่อให้แคว้นของตนเข้มแข็ง ในขณะนั้น มีรัฐเกิดขึ้นทั้งหมด 6 รัฐ อันประกอบด้วย รัฐฉิน รัฐฉี รัฐฉู่ รัฐจิ้น รัฐหาน รัฐเว่ย ในยุคราชวงศ์โจว  6 รัฐชิงความเป็นใหญ่ จนเข้าสู่ยุคชุนชิว มีสงครามยาวนานถึง 200 ปีก่อนที่ราชวงศ์โจวจะล่มสลาย ในตอนนั้น มีปราชญ์ต่าง ๆ นำความหมายของห้าธาตุมาตีความ หาที่ปรึกษาเพื่อพยายามจะนำหลักของห้าธาตุนั้นมาล้มล้างราชวงศ์โจว เหมือนดังที่ราชวงศ์โจวใช้หลักนี้ล้มล้างราชวงศ์ซางมาก่อน


ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน
 
 
มีบันทึกในประวัติศาสตร์ว่า มาถึงยุคชุนชิว สงครามกลางเมืองต่างๆ มีผู้นำเอาวิชาหยินหยางนี้ เริ่มมาสร้างเป็นหลักวิชาการว่าด้วยการก่อกำเนิดของสรรพสิ่งในโลก มีการประสมประสานกันระหว่างคู่ทั้งหมด มีมืด-สว่าง นิ่ม-แข็ง เลว-ดี น้ำกับไม้ถือเป็นธาตุหยิน ไฟทองเป็นธาตุหยาง ดินเป็นธาตุที่ผสมผสานของทั้งสองธาตุ ให้เกิดความกลมกลืนและกลมเกลียว


ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม
 
ธาตุทั้งห้านี้สามารถจะส่งเสริม และทำลายซึ่งกันและกัน เกิดเป็นทฤษฎีขึ้น เช่น ไม้ก่อกำเนิดไฟ ไฟก่อกำเนิดดิน ดินก่อกำเนิดทอง ทองก่อกำเนิดน้ำ น้ำก่อกำเนิดไม้  หากธาตุนั้นไม่สมดุลกัน ธาตุไม้ก็อาจสูญสิ้นได้เพราะธาตุไฟ ไฟก็อาจดับได้เพราะดิน หรือดินมากเกินไปก็สามารถกลบทอง  หรือธาตุดินอาจจะให้กำเนิดธาตุทองจนธาตุของตัวเองสูญสิ้น  ทองนั้นให้กำเนิดน้ำ ถ้ามากเกินไปก็ข่มน้ำ น้อยเกินไปก็สูญสิ้น  ธาตุน้ำนั้นให้กำเนิดไม้ น้ำมากเกินไปก็ข่มไม้ น้ำน้อยเกินไปก็สูญสิ้นเพราะไม้


ซินแสฮวงจุ้ย, ดวงจีน, โหราศาสตร์จีน, ฮวงจุ้ยเสริมโชค, อาจารย์แอน
 
ในขณะเดียวกัน ไม้ทำลายดิน ดินควบคุมน้ำเหมือนเขื่อน  แต่ถ้าน้ำมากก็สามารถทำลายเขื่อนได้  น้ำทำลายไฟ  ไฟข่มธาตุทองและสามารถหลอมทอง  ทองทำลายไม้เหมือนมีดสับเขียงหรือเลื่อยตัดไม้  หลักวิชาเหล่านี้ได้มาจากการสังเกตธรรมชาติ สามารถนำมาอ่านทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ และยังสามารถนำมาใช้ในหลักการพยากรณ์ เลือกที่ฝังศพ ใช้ในทางการแพทย์ ใช้ในการกำหนดทำเลที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับตัวบุคคล แล้วแต่วันเดือนปียามของบุคคล ธาตุทั้งห้ายังได้นำมาอธิบายหลักของขงจื๊อด้วย



ตำนานฮวงจุ้ยในประวัติศาสตร์จีน ตอนที่ 3

ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยร้านค้า, ฮวงจุ้ยห้องนอน, อาจารย์แอน

เรื่องของฮวงจุ้ยนั้น เกิดขึ้นมาพร้อมกับการเริ่มประวัติศาสตร์จีน และวิชาฮวงจุ้ย จะตกอยู่กับเหล่ากุนซือผู้เป็นอัจฉริยะในอดีตทั้งสิ้น  นับได้ตั้งแต่สมัยก่อนยุคชุนชิว  คือสมัยของ เจียงกุยแหย ซึ่งเข้ารับราชการเพื่อช่วย โจวเหวินหวาง ล้มล้างราชวงศ์ซาง ซึ่งปกครองโดยโจ้วอ๋อง  เมื่อได้ตัวเจียงกุยแหยมาแล้ว ก็แต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งไท่กงเรียกว่า  เจียงไท่กง ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ทางด้านโหราศาสตร์ ชัยภูมิ  ตลอดจนเรื่องของการปกครอง  ดังนั้นโจวเหวินหวางจึงได้ขอคำปรึกษาเพื่อทำให้อาณาจักรเล็ก ๆ ของตนนั้นได้เป็นปึกแผ่น เพื่อที่จะสามารถล้มล้างซางให้ได้
                

เจียงไท่กง มีข้อสรุปว่า “องค์กษัตริย์พึงยกย่องบุคคลที่เพียบพร้อมทั้งคุณธรรมและความสามารถ  มิพึงใช้บุคคลที่ไร้คุณธรรมและความสามารถ  พึงใช้บุคคลที่ซื่อสัตย์ น่าเชื่อถือ ปลดผู้ที่คิดคตหลอกลวง  ห้ามอย่างเข้มงวดต่อการกระทำที่ก่อให้เกิดความไม่สงบ  ไม่ส่งเสริมค่านิยมฟุ่มเฟือย ไม่สุรุ่ยสุร่าย”  นี้คือหลักการแต่โบราณที่ทำให้บ้านเมืองมีอายุยืนยาวถึง 800 ปี
                 

ในคืนนั้น โจวเหวินหวางมีคำถามว่า  ทำไมกษัตริย์โดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโจ้วอ๋องนั้น  มักไม่ได้บุคคลที่เหมาะสมต่อหน้าที่การงาน  ต้องเปลี่ยนกันอยู่บ่อย ๆ ฆ่าทิ้งเสียก็มี  (ในปีนั้น เป็นปีที่เริ่มมีกำเนิดของ ปี่ก้าน หรือ ไฉ่สิ่งเอี๊ย นั่นเอง โดยปี่ก้านถูกโจ้วอ๋องสังหารด้วยการควักหัวใจ โจ้วอ๋องนั้นมักเก็บคนชั่วไว้และฆ่าคนดี)  เจียงไท่กงจึงตอบว่า  “เนื่องจากองค์กษัตริย์จะเห็นว่า ผู้ที่คนทั่วไปชมเชยมักเป็นคนดี เป็นผู้ประเสริฐ  และบุคคลที่ถูกผู้คนว่ากล่าว ไม่เป็นผู้ประเสริฐ”

ในความหมายคือ ฟังความจากผู้อื่น ทำให้มีการใส่ร้ายป้ายสีกันได้ง่าย  ดังนั้น ผู้ที่มีพวกพ้องมากก็จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง  ผู้ที่มีพวกพ้องน้อยก็จะถูกขับไล่  พวกทรงอิทธิพลอันเลวร้ายก็จะตั้งกลุ่มหาผลประโยชน์   คนดีไม่มีโอกาสได้ทำงาน ขุนนางที่ดีต้องถูกกลั่นแกล้ง  ถูกประหารชีวิต พวกกังฉินก็ใช้การหลอกลวงให้ได้มาซึ่งยศศักดิ์  บ้านเมืองก็เกิดความระส่ำระสาย  อาณาจักรก็จะประสบความหายนะ

โจวเหวินหวางได้ฟังแล้วมิใคร่สบายใจ  จึงถามแก่เจียงไท่กงว่า ทำอย่างไรจึงจะตั้งอยู่ในสติสัมปชัญญะและไม่ประมาท เพื่อการปกครองแผ่นดินได้อย่างยั่งยืน  เจียงไท่กงได้ให้คำแนะนำว่า  “บุคคลที่มิได้รู้ตัวว่าหายนะกำลังคืบคลานมา ตัณหาราคะไม่มีที่สิ้นสุด หลงว่ามิได้เผชิญภัยพิบัติ  คิดว่าบ้านเมืองเจริญแล้ว ไม่ได้เตรียมพร้อมกับภัยจากสงคราม ภัยจากความยากจนของราษฎร ภัยจากธรรมชาติ  เหล่านี้จะทำให้อาณาจักรล่มสลาย”  โจวเหวินหวางได้ฟังจึงหมดความสงสัย  (หลักที่แนะนำนี้ คือการประสานบุคคล เมื่อได้ทำเลที่ดีแล้ว ได้คนดีมีฝีมือแล้ว  ก็ต้องประสานบุคคลกับผู้บริหารประเทศด้วย)

อย่างไรก็ตาม แผนการที่จะครอบครองอาณาจักรของโจ้วอ๋อง  ก็ดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากแผนการตัดแขนตัดขา  คือการตัดอาณาจักรรอบ ๆ ที่คอยส่งกำลังสนับสนุน (แผนการนี้พม่าเคยใช้ในสมัยรัตนโกสินทร์ คือครั้งสงครามเก้าทัพ)  แต่การครั้งนี้มีเรื่องนิมิตหมายของห้าธาตุเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย  คือหลังจากแผนการตัดแขนตัดขาสำเร็จแล้ว  เป็นช่วงที่เจียงไท่กงอายุได้ 80 ปี (รับราชการเมื่ออายุ 70 ปี และใช้เวลาในการดำเนินแผนการ 10 ปี)

โจวเหวินหวางผู้พ่อก็สิ้นชีวิตไป  โจวอู่หวางผู้ลูกซึ่งมีปณิธานเดียวกันได้ขึ้นเป็นอ๋องแทน  สืบทอดความคิดที่จะล้มล้างราชวงศ์ซาง เพราะแหลกเหลวขึ้นทุกวัน  หลังจากรวมพลได้ในระดับหนึ่งแล้ว จึงลองทำการตรวจพล โดยเขียนจดหมายขึ้น 100 ฉบับ ให้เจ้าเมืองต่าง ๆ มาร่วมชุนนุมกัน  แต่มีผู้ตอบรับการชุมนุมถึง 800 กว่าเมืองและนำกำลังเข้ามากันถึง 10 หมื่น

ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน, ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ตกแต่งร้านค้า, อาจารย์แอน
 
เจียงไท่กงมองถึงความเป็นไปของห้าธาตุ ระบบการส่งเสริมและพิฆาตกัน เมื่อสังเกตทางราชวงศ์ซางนั้น เห็นว่าเป็นราชวงศ์ที่ใช้เครื่องใช้ต่าง ๆ ล้วนเป็นทองเสียส่วนใหญ่ สิ่งที่จะข่มธาตุทองเสียได้นั้น คือ ธาตุไฟ  ดังนั้นในวันที่มีการชุมนุมกันที่ เมิ่งจิน พร้อมกับเจ้าเมือง 800 คนนั้น มีการบวงสรวงเทวดา ทำพิธีเพื่อรวมพล ขณะบวงสรวงนั้น  ท้องฟ้าก็มืดครึ้ม มีนกบินมาจากทางทิศใต้ เป็นนกชาดหรือนกหงส์สีแดงเด่นชัด แสดงสัญลักษณ์ของสัตว์ปีก ธาตุไฟ ทิศใต้
                

(สัตว์ประจำทิศ คือ เต่าดำประจำทิศเหนือ หมายถึงผู้สนับสนุน  มังกรเขียวประจำทิศตะวันออกแทนความกล้าหาญ เสือขาวประจำทิศตะวันตก คือความคิด มีสติ กำลังสนับสนุน  และทิศใต้คือนกหงส์) เมื่อแลเห็นนกชาดหรือหงส์แดงบินมาเป็นฝูง  จึงถือเอาเป็นสัญลักษณ์ของโจวอู่อ๋อง คือธาตุไฟ ที่สามารถข่มธาตุทองซึ่งเป็นธาตุของราชวงศ์ซาง เมื่อสิ้นเสียงประกาศการทำนายนิมิต  เกิดเสียงฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหวมีฟ้าแลบและลมแรงพัดมา

หลักปฏิทินโบราณนั้น หลังจากเดือนแห่ (พฤษภาคม) นับไปได้กี่วันถึงวันน้ำ วันนั้นฝนจะตก  และหากจะนับว่าปีนี้มังกรให้น้ำกี่ตัว  ก็นับตามจำนวนวันโดยนับจากวันชิวอิกไปจนถึงวันมะโรง (ซิ้ง) ได้กี่วันก็จะเป็นมังกรให้น้ำตามจำนวนวันที่นับได้  และหากต้องการทราบว่าโคทำนากี่ตัว ก็นับจากวันชิวอิกไปหาวันฉลู (ทิ่ว) ถ้านับได้ 2 วันคือ 2 ตัว ก็จะทำนายว่าคนจะทำนาได้ผลน้อย  นาจะแล้ง ข้าวไม่กล้า และในเดือนมั่งเจ้ง (พฤษภาคม นับเรื่อยมาจนถึงวันหยิม ฝนจะตก)

ทั้งนี้เข้าใจว่า เจียงไท่กงคงได้คำนวณฤกษ์ในวันนั้นแล้วว่า จะมีฟ้าร้องฝนตก  นอกจากปรากฏการณ์ดังกล่าวแล้ว  ยังมีลูกเห็บขนาดเท่าไข่ไก่ตกลงมาถูกกิ่งไม้โค่น  เจียงไท่กงมีสีหน้าปกติกล่าวว่า  อันฝน หรือหิมะ ลูกเห็บ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ไม่ต้องหวาดกลัว  แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นในวันประกาศนี้ ก็แสดงว่าทัพทั้งหลายเปรียบเสมือนลมฝนซึ่งมาจากทุกทิศทุกทาง  ลูกเห็บคือความสามารถ การยกทัพไปตีซางโจ้วนั้นต้องสำเร็จแน่นอน
                 

ต่อมาเมื่อล้มล้างราชวงศ์ซางได้สำเร็จ เจียงไท่กงได้เป็นรัฐบุรุษ ก่อตั้งราชวงศ์โจว  ดังนั้นราชวงศ์โจวจึงใช้สัญลักษณ์ สีแดง คือธาตุไฟ และนกหงส์  เจียงไท่กงได้ช่วยเหลือราชการถึงอายุได้ 100 ปี ปราบกบฏ  รวบรวมหัวเมือง พัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมการศึกษาให้ราษฎรมีระเบียบจารีตประเพณีอันดีงาม  รับสมัครผู้มีภูมิปัญญาทั่วสารทิศ  รับผู้มีความสามารถและชื่อเสียงจากฮวนตะวันออกให้ดำรงตำแหน่งตามความถนัดและ ความสามารถ  เจียงไท่กงรับใช้กษัตริย์ถึง 3 รัชกาล

ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งคอนโด, จัดสวน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยครัว, อาจารย์แอน
 
ในการสร้างเมืองในอดีต จะต้องมีหลักวิชาแฝงอยู่ ตั้งแต่การจัดทำเลประตูเมือง  เพื่อที่จะกำหนดว่าจะให้เมืองนั้นมีอายุยืนนานเท่าไร  หลักวิชานี้คือวิชาดาว 9 ยุค ซึ่งหมายถึงการโคจรของดาวเหนือ  ซึ่งมีทั้งหมด 7 ดวง และยังมีดาวดวงเล็กที่ยังเห็นได้ไม่ชัดเจนอีก 2 ดวง รวมทั้งสิ้นเป็น 9 ดวง ซึ่งทั้งหมดนี้จะโคจรสลับผลัดเปลี่ยนกันไปตลอดเวลา



ฮวงจุ้ยในประวัติศาสตร์ของจีน ตอนที่ 2

ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน
 
 
ต่อมา เมื่อเริ่มมีการโจมตี รวมรวมกลุ่มชนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยจักรพรรดินามว่าหวงตี้   (อึ่งตี้) หรือจักรพรรดิเหลือง การรบพุ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง  กษัตริย์องค์นี้หรือเดิมคือหัวหน้าชนเผ่าในมณฑลเหอหนาน ก็ได้เข้าเป็นผู้ระงับเหตุการณ์โดยรวบรวมหัวหน้าทั้งหมดเข้าปราบปรามคู่แข่งที่แข็งข้อ ในที่สุดก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหัวหน้าใหญ่ เป็นพระเจ้าแผ่นดิน แล้วจึงตั้งประเทศจีนขึ้น โดยมีอาณาเขตปกครองทางด้านทิศตะวันตกจรดมณฑลกานซู่ ทิศตะวันออกจรดทะเลเหลือง ทิศเหนือจรดปักกิ่ง และทิศใต้จรดฝั่งเหนือของแม่น้ำแยงซี และเกิดวัฒนธรรมในยุคแรกขึ้น

กษัตริย์อึ้งตี่มีนโยบายแรกคือ ปรับปรุงการปกครอง ให้ประชาชนมีระเบียบวินัย ต่อมาต้องทำให้ประชาชนเป็นสุขกับธรรมชาติ  เนื่องจากเป็นอารยธรรมที่เกิดจากลุ่มแม่น้ำ จึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร การชลประทาน และการสังเกตภูมิประเทศ เพราะจะมีอุทกภัยในแต่ละปี บางครั้งเกิดน้ำท่วม บางครั้งเป็นภัยแล้ง กษัตริย์อึ้งตี่พยายามจะตรากฏ ให้เกิดการปกครองโดยมีกษัตริย์เป็นแบบอย่างที่ดี เรียกว่าคุณธรรม มีการสืบกันตามกฎระเบียบของสังคมระดับสูง เรียกว่าสืบราชสมบัติ และมีการวางระเบียบบริหารราชการ เมื่อไปตีเมืองได้ที่ใดก็มีการวางระเบียบการถวายเครื่องราชบรรณาการ พร้อมทั้งกำหนดตัวหนังสืออักษรให้เป็นแบบเดียวกันหมด ใช้ปฏิทินชนิดเดียวกัน มีการดนตรี และสอนให้เลี้ยงตัวไหม และในสมัยอึ้งตี่นี้ก็ยังมีกำเนิดมังกรขึ้นอีกด้วย


ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน


เนื่องจากเดิม มีการตีรวบรวมชนเผ่าต่าง ๆ เพื่อมารวมประเทศ แต่ละเผ่าก็นิยมใช้สัญลักษณ์ สัตว์หรือดอกไม้ เป็นสัญลักษณ์ประจำเผ่า กษัตริย์อึ้งตี่จึงคิดสัญลักษณ์ที่จะสามารถรวบรวมเผ่าทุกเผ่าขึ้นเป็นอันหนึ่งอันเดียว และมองภาพรวมว่า ชนเผ่าต่าง ๆ นั้นอาศัยอยู่กับความคดเคี้ยวของแม่น้ำ ก็ถือเอาความคดเคี้ยวของแม่น้ำเป็นลำตัวที่เหมือนงู และนำส่วนต่างๆ ของแต่ละเผ่ามารวมกัน เช่นหัวของชนเผ่าวัว ตัวจากเผ่างู เกล็ดของเผ่าปลา เขาของเผ่ากวาง เท้าของเผ่านก รวมกันเรียกว่ามังกร เพราะฉะนั้นแม่น้ำฮวงโหจึงเปรียบเสมือนมังกรของชนชาติจีน และเป็นสัญลักษณ์ของการรวมเผ่า ผู้ที่รวบรวมสำเร็จก็ถือเป็นโอรสสวรรค์ หรือเป็นมังกร


ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม
 

ดังนั้น เสื้อคลุมที่ใส่ก็จะเป็นรูปมังกรและต้องเป็นสีเหลือง เพราะเริ่มต้นจากจักรพรรดิเหลือง และในขณะเดียวกัน จักรพรรดิเหลืองก็คือความหมายของธาตุทอง และมังกรทองก็ถือกันว่าเป็นมังกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดด้วย ต่อมามังกรจึงถูกยกเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์ที่ทรงคุณความดี ถือว่าเป็นมังกรมาจุติ ราชาศัพท์ที่ใช้ก็ต้องเกี่ยวข้องกับมังกร เช่น ครรภ์มังกร เป็นต้น  สืบต่อมาจนถึงสมัยกษัตริย์เงี้ยวและกษัตริย์ซุ่น มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่งตั้งเสนาบดี มีการวางระบบที่ละเอียดรอบคอบขึ้นเรียกว่ายุค 5 กษัตริย์ โดยมี กษัตริย์อึ้งตี่ กษัตริย์เงี้ยว กษัตริย์ซุ่น กษัตริย์อู๋ และกษัตริย์โง่วตี่ ถือเป็นยุคแรก ๆที่มีการจัดระเบียบการปกครองของการรวมตัวกัน และสิ่งที่กษัตริย์ทั้ง 5 ทรงทำเหมือนหมดคือ การมีพระราชกรณียกิจเสด็จเดินทางไปทั่วแผ่นดินจีนเพื่อจะสำรวจพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งเป็นที่มาของการวางทำเล


ซินแสฮวงจุ้ย, ดวงจีน, โหราศาสตร์จีน, ฮวงจุ้ยเสริมโชค, อาจารย์แอน
 

อักษรจีนในสมัยดึกดำบรรพ์ที่ยังเหลืออยู่ คืออักษรที่จารึกอยู่บนกระดองเต่าและกระดูกวัว ซึ่งมีการขุดค้นพบที่มณฑลเหอหนานเมื่อปี 2442 เป็นการยืนยันว่าตำนานพงศาวดารนั้นมีเค้าที่เป็นจริง

ฮวงจุ้ยในประวัติศาสตร์ของจีน ตอนที่ 1

เรื่องราวของฮวงจุ้ยนั้น เกิดขึ้นมาพร้อมกับประวัติศาสตร์ของชาติจีน เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ เป็นศาสตร์ที่อยู่ในชีวิตของชนชาติจีนมาโดยตลอด แผ่นดินจีนนั้น เป็นที่ราบตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปเอเชีย และเมื่อปี พ.ศ.2547 ที่ผ่านมา ยุคในทางฮวงจุ้ยก็ได้เปลี่ยนจากยุคที่ 7 มาเป็นเป็นยุคที่ 8 ในช่วงที่ยุค 7 กำลังเสื่อมนั้น ก็ได้เกิดภัยพิบัตินานา อาชญากรรม ยาเสพติด ภัยจากสงคราม แม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่นำผลร้ายมาสู่ชีวิตและทรัพย์สิน ยุคที่ 8 นั้นเป็นยุคที่ถือว่าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะมีพลังมากที่สุด จะมีการพัฒนาการอย่างเต็มที่


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน
 

ประเทศจีนมีอารยธรรมเก่าแก่ เรียกว่าอารยธรรมลุ่มแม่น้ำฮวงโห ซึ่งถือเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในประเทศจีน มีกำเนิดจากมณฑลกานซู่ ที่ราบสูงชิงไห่ ไหลลงสู่มณฑลซ่านซี ขึ้นไปมองโกลเลีย และไหลลงมายังมณฑลเหอหนาน เลี้ยวลดคดเคี้ยวผ่านจากทิศตะวันตกไปสู่ทิศตะวันออก ลงสู่ทะเลเหลือง มหาสมุทรแปซิฟิก วัฒนธรรมจีนได้กำเนิดและขยายจากลุ่มน้ำนี้ทั้งสิ้น


ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน


ผู้ให้กำเนิด คือ ชนชาติฮั่น ในความหมายเดิมของฮั่น คือ แม่น้ำสวรรค์หรือทางช้างเผือก (เมื่อไม่สามารถสืบค้นต้นน้ำของฮวงโหได้ จึงอุปมาว่าน้ำนี้ไหลมาแต่ทางช้างเผือกหรือสวรรค์ แล้วจึงเรียกตัวเองว่า ฮั่น คือผู้ที่อยู่ในลุ่มแม่น้ำของสวรรค์) ดังนั้นจึงสรุปว่าประมาณ 5000 ปีก่อนนั้น ชาวจีนอาศัยอยู่ที่ต้นน้ำฮวงโห แล้วจึงค่อยอพยพตามลำน้ำนี้สู่ทิศตะวันออก ซึ่งก็จะต้องเผชิญกับชนชาติเผ่าต่างๆ มีการขับไล่กันบ้าง ทำสงครามบ้าง ยึดครองบ้าง

ในช่วงแรกนั้นยังไม่มีการปกครองในรูปของประเทศ แยกกันอยู่เป็นหมู่เหล่า ต่างหมู่ต่างปกครองกันเอง ตามตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่าจักรพรรดิ์นามว่า สุ่ยยิ่น เป็นผู้ที่ริเริ่มใช้หินไฟ (ยุคเหล็ก ยุคไฟ) มีการสอนชาวบ้านให้ตีหินไฟ หรือสีไม้ให้เกิดไฟ และหุงต้มกินอาหารที่สุก จากสภาพเดิมที่เป็นชนเผ่าเร่ร่อน และแล่เนื้อเถือหนังกินอาหารดิบ

ต่อมาจักรพรรดิฮกฮี เป็นองค์ที่ 2 สอนการเลี้ยงสัตว์ สอนทำอวนล่าสัตว์จับปลา และในช่วงของจักรพรรดิฮกฮีนี่เอง ที่ได้เกิดการใช้สัญลักษณ์ของโป๊ยก่วย ที่สัมพันธ์กับธรรมชาติ กับบุคคลและสรรพสิ่งทั้งหลาย คือฟ้า ดิน และคน พอมาถึงจักรพรรดิสิ่งล้ง เทพเจ้าแห่งการเกษตร ก็สอนให้ทำเสียม จอบ ไร่นา จัดให้มีการนัดหมายแลกเปลี่ยนข้าวของกันในเวลาเที่ยงวัน เป็นการริเริ่มการค้าขายแบบแลกเปลี่ยนกัน จักรพรรดิ์สามองค์นี้ชาวจีนนับถือมากเรียกว่า ซำอ้วง เป็นยุคของสามจักรพรรดิ์ (จะสังเกตได้ว่า การเริ่มต้นของประวัติศาสตร์จีนนั้น ก็เริ่มมีโป๊ยก่วยขึ้นมาแล้ว) สัญลักษณ์ของโป๊ยก่วยนั้น ยังปรากฏอยู่ในพระราชวังโบราณและวัดโบราณตราบจนทุก วันนี้


ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม


สัญลักษณ์ของโป๊ยก่วยในยุคแรก ๆ นั้น ใช้สัญลักษณ์เส้นยาว 1 ขีดแทนหยาง และขีดสั้น 2 ขีดแทนหยิน ผสมกันเป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติ ระหว่างความสว่าง ความแข็ง เพศชาย และความมืด ความอ่อน เพศหญิง เป็นต้น สองสิ่งนี้ผสมกันหมายถึงชายหญิง หยินหยาง ให้กำเนิดสรรพปรากฏการณ์แห่งโลกทั้งหมด สัญลักษณ์เหล่านี้จะบอกถึงทิศทางต่าง ๆ และยังแทนธาตุทั้ง 5 ด้วยคือน้ำ ไม้ ไฟ ดิน ทอง จากนั้นจึงเกิดการเสี่ยงทาย

การสอนทางด้านปรัชญา เกิดเป็นคัมภีร์ขึ้นในยุคหลัง ๆ แต่เนื่องจากชาวจีนในยุคแรก ๆ นั้น ยังไม่มีการศึกษา จึงถือเอาสัญลักษณ์โป๊ยก่วยนี้เป็นยันต์ มีความสมดุลกลมกลืน ขจัดภัย อันตราย ภูตผีปิศาจ ถือเป็นการศึกษาขึ้นครั้งแรกระหว่างธรรมชาติและการอยู่ด้วยกันด้วยดีของมนุษย์ 

ทำไมจัดฮวงจุ้ยแล้ว แต่ละคนได้ไม่เท่ากัน

ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอนเมื่อจัดฮวงจุ้ยให้พื้นที่สอดคล้องกับชาตาดีแล้ว ก็จะมีแรงดึงดูดจากพลังที่สมบูรณ์ของพื้นที่และชาตาของเจ้าของ  แต่ถ้าเราเป็นคนขาดศีลธรรม ข้อใดข้อหนึ่ง ความสำเร็จของเราก็ไม่สมบูรณ์ พลังดึงดูดของเราก็จะไม่สอดคล้องกับพื้นที่ เช่น ถ้าเราเป็นคนฆ่าสัตว์ เป็นคนรังแกคนที่ต่ำกว่าตน เมื่อทำเลดึงคนมาให้ ดึงเงินมาให้ ดึงความอุดมสมบูรณ์มาให้ ตัวเรากลับดึงดูดสิ่งร้ายๆ เข้ามาหา เพราะพลังที่อยู่ในใจเราซึ่งเป็นหัวใจของกิจการนั้นๆ เป็นพลังร้าย พอเราได้เงิน ก็ต้องมีเรื่องถูกโกง คนที่เราคบหาสมาคมก็จะสอดคล้องกับพลังร้ายในตัวเรา เราเคยคิดร้าย เคยทำร้ายสัตว์ พลังร้ายที่เราเรียกว่า พลังของกฎแห่งกรรม ก็จะเข้ามาทำร้ายเราเหมือนกัน

ถ้าเราผิดศีลข้อสอง ทำให้ทรัพย์สินคนอื่นเสียหายด้วยวิธีต่างๆ เช่น โกง หลอกลวงเขา เป็นต้น เราก็ต้องมีภัยจากสิ่งเหล่านี้ คนที่เข้ามาหาเราจะได้รับพลังดึงดูดตามพื้นที่ที่ทำไว้ดีแล้ว บวกพลังร้ายในตัวเรา สิ่งที่เราได้มาจึงต้องเป็นสิ่งร้ายๆ เพราะพลังมันมาเร็วมาก เนื่องจากทำเลมีอำนาจ

ในทำนองเดียวกัน ถ้าผิดศีลข้อสาม เราก็จะมีเรื่องปวดหัว เรื่องคลาดเคลื่อน การผลัดวัน การทรยศหักหลังจากหุ้นส่วน  ยิ่งทำเลดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งดึงดูดมาหาเราเร็วเท่านั้น เพราะพลังร้ายในตัวเรามีส่วนในการดึงดูดนี้ด้วย

ถ้าเราสาหัสสากรรจ์ในการผิดศีลข้อสี่ เราก็จะเป็นบุคคลที่มักต้องมีเหตุให้เสียเครดิต มีปัญหาเรื่องลูกน้องบริวารไม่มีที่สิ้นสุด และมักถูกหลอกลวง ยิ่งทำทำเลไปแล้วยิ่งปรากฏชัดถึงบาปกรรมของเรา

เรามักดื่มเหล้าเป็นอาจิณ พอจัดทำเลเสร็จ มักถูกภาพลวงตามาหลอกล่อ อันเป็นเหตุให้เสียเงินทอง หาคนจริงใจยาก และมักประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันเพราะความขาดสติ หรือเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องเสียทรัพย์ เพราะความเผอเรอขาดสติ ยิ่งทำทำเลสมบูรณ์เท่าไหร่ อาการขาดสติและผลเสียหายจะต้องเกิดเพราะการขาดสติมากขึ้น

นี่เพียงคุณธรรมของศีล ๕ เท่านั้น ถ้ามีบาปกรรมจากกาย วาจา ใจ เราก็จะดึงดูดสิ่งเหล่านี้เข้าหาตัวเช่นเดียวกัน


 ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยามเพราะฉะนั้น ถ้าเราเป็นมังกรร้าย ไปอยู่ในที่สมบูรณ์ มีพลัง ตัวมังกรหรือตัวหัวมังกร ก็จะได้พบ ได้ประสบกับสิ่งร้ายๆ เป็นไปตามนิสัยของเรา

ถ้าเราเป็นมังกรดี ไปอยู่ในที่สมบูรณ์ มีพลัง เท่ากับเป็นมังกรที่สมบูรณ์ เพราะจะดึงดูดสิ่งที่ดีมาหาตัวเป็นทวีคูณ

จึงอยากจะบอกว่า ในการจัดทำเลนั้น ทุกคนได้ไม่เท่ากัน นอกจากจะเกี่ยวพันเรื่องวาสนา ดวงชาตาแล้ว ยังเกี่ยวพันกับสภาพจิตใจของเราในขณะนั้นด้วย

ผลของการจัดทำเลในแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน

มีคำกล่าวว่า ผู้มีวาสนาจะได้ทำเลที่สมบูรณ์ ต้องกล่าวใหม่ว่า ผู้ที่ทรงคุณธรรมความดี จึงจะมีทำเลที่สมบูรณ์

 นอกจากเรื่องคุณธรรมส่วนตัวแล้ว การประสานบุคคล ได้แก่ การจัดการนั้น ตัวเราตัองมีอำนาจ จากทำเลที่นั่ง ที่นอน ที่อยู่ ที่กิน เป็นประจำ และจะต้องมีสติปัญญา คือ มีพรสวรรค์ของความขยัน ของไหวพริบปฏิภาณ มีศิลป์ในการจัดการด้วย หากไม่มีหัวทางนี้เลยและยังไม่ขยันขันแข็ง ต่อให้ทำเลดี เป็นคนดีที่ประเสริฐ แต่ขาดพรสวรรค์ในการจัดการ ก็เปล่าประโยชน์เช่นกัน

ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดข้างต้น เป็นความสมเหตุสมผลของศาสตร์ว่าด้วยภูมิพยากรณ์ ไม่ว่าสายไหน สำนักใด ล้วนแล้วแต่มีพื้นฐานมาจากสิ่งเดียวกัน เพียงแต่วิธีการที่เกี่ยวกับทำเลอาจแตกต่างกัน
 

ทำเลมังกร

โดย...ษณอนงค์ คำแสนหวี (อาจารย์แอน)

บนผืนแผ่นดินโลกของเรานี้ มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ถ้าจะพูดไปแล้ว สิ่งที่เราสังเกตได้ง่ายที่สุด คือ จากแสงอาทิตย์ ที่ใดเป็นที่ได้รับแสงอาทิตย์มาก ที่นั้นก็จะร้อนมากหน่อย ก่อกำเนิดพลังงาน มีพืชพรรณไม้ มีสายลมพัดผ่าน และหากที่ใดขาดแสงแดด ที่นั้นก็จะเยือกเย็น


 ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งคอนโด, จัดสวน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยครัว

อาจารย์หม่า, ซินแสภาณุวัฒน์, หมอช้าง, หมอลักษณ์, อาจารย์มาศ, อาจารย์แอน

พืชที่โดนแดดกับพืชที่อยู่ในร่มก็ยังเป็นที่ยอมรับว่าแตกต่างกัน

พลังงานที่อยู่ใต้พื้นผิวโลกก็ย่อมมีความแตกต่างเช่นเดียวกัน

จากสภาพแวดล้อมบนพื้นโลก ซึ่งสัมพันธ์กับสภาพใต้พื้นผิวโลก ทำให้เกิดความแตกต่างของพื้นดิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน พลังก่อกำเนิด

คำว่า “ที่ที่มีพลังก่อกำเนิด” จะหมายถึง บริเวณที่มีสภาพแวดล้อมอำนวยให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ ทั้งพืชพรรณธัญญาหาร แสงแดด ลม น้ำ ฝน ที่ตกต้องตามฤดูกาล  สิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่ก่อกำเนิดอยู่ภายใต้ที่ที่มีพลังแห่งความสมบูรณ์ทั้งภายในและภายนอก หมายถึง สภาพที่แข็งแกร่ง สวยงาม ฟอร์มดีของต้นไม้ สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ อันได้แก่ สัตว์ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น ได้แก่ มด แมลง หรือแม้แต่ นก หนู กา หมู หมา ก็จะแสดงถึงความสมบูรณ์ให้เราเห็นได้ หรือแม้แต่ตัวเราเอง หากอยู่ในที่สมบูรณ์ ก็จะมีสุขภาพดี ทั้งกายและใจ อันจะนำไปสู่ความคิดที่สมบูรณ์ และมีพลังในการที่จะเผชิญปัญหาต่อไป ด้วยสติซึ่งมาจากความสมบูรณ์ของสภาพแวดล้อมดังกล่าว


ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอน
ในแต่ละแห่งอาจมีความพร้อม หรือความสมบูรณ์ของพื้นที่ไม่เท่ากัน  อันเป็นผลให้คน สัตว์ สิ่งมีชีวิตต่างๆ นั้น มีความแตกต่างซึ่งกันและกัน เช่น บางแห่งให้ความสมบูรณ์และสมดุลของธรรมชาติ ทำให้คน ๆ นั้นมีจิตใจที่อ่อนโยน มองคนในแง่ดี และอีกบางแห่ง มีสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ ในด้านความพร้อมที่จะออกมาเผชิญชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ

ศาสนาหรือปรัชญาในการดำเนินชีวิต จะเป็นเครื่องกำหนดพฤติกรรมว่า จะออกมาในทางสร้างสรรค์ หรือเป็นการทำลาย เป็นการสร้างสมทางด้านจิตใจ ชีวิตและวิญญาณ

เพราะฉะนั้น จึงต้องแยกออกมาเป็นสองนัย คือ สร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะ ให้สมบูรณ์สำหรับตัวเราและครอบครัว เป็นเรื่องของทำเล จากนั้น ต้องใส่ความคิด ต้องอบรมจิตใจให้สมบูรณ์ อันเป็นศิลปะของการดำเนินชีวิตที่งดงาม คือมีทั้งศาสตร์และศิลป์นั่นเอง
    
ทีนี้ หลักของ ฟ้าประทาน ดินบันดาล ประสานบุคคล ก็จะเข้าเป็นส่วนประกอบในการจัดสรร ทั้งทำเลที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับดวงชาตาของเรา รวมทั้งมีจังหวะในการดำเนินชีวิตที่ไม่ประมาท และการประสานบุคคลทั้งด้านการปฏิบัติ และประสิทธิภาพในการทำงาน  คือ ต้องเกิดจากความสามารถของตนด้วย จะพึ่งอภินิหารไม่ได้

เปรียบเสมือนบุคคลคนๆ หนึ่ง จะทำร้านอาหาร ไม่เคยดูดวง แต่พบว่าตั้งแต่เกิด เรามีความสามารถ รวมทั้งเราได้คลุกคลีกับร้านอาหารมาโดยตลอด เรามีความชำนาญ เรามีความรู้อันลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องอาหารโดยเฉพาะ อย่างนี้ไม่ต้องดูดวงแล้ว เราต้องมีดวงมาแน่นอนถึงได้ผูกพันขนาดนี้

ขั้นต่อไป สังเกตตัวเองถึงปีที่เราประสพผลสำเร็จ ขายดี ช่วงไหนขายไม่ดี เพราะอะไร แล้วจัดทำเลให้สอดคล้องกับชาตา หรือ จัดสถานที่ให้สอดคล้องกับสถานที่ที่เราเคยประสพผลสำเร็จมา เราต้องมีความสามารถพิเศษ ในวิชาชีพของเรามีอะไรที่โดดเด่นกว่าคนอื่น ทำเลของเราถึงจะมีประสิทธิภาพโดยสมบูรณ์ ซึ่งนอกจากจะดึงดูดลูกค้าแล้ว ประสานบุคคลจะทำให้ลูกค้าติดใจมาอีก และในที่สุด ปากต่อปากจะทำให้ร้านอาหารของเรามีชื่อเสียงไปเอง

ถ้าหากพอมีดวง ทำเลก็ดี มีคนเข้า แต่ด้วยกรรม ทำให้เราบริการไม่ถึง ไม่ใช้อิทธิบาท ๔ ในการจัดการร้านให้ดี คนที่มาเพราะทำเลดี ก็ไม่ติดใจ ในที่สุดก็ค่อย ๆ เสื่อมลง

ทำเลดี คือ สภาพแวดล้อมที่ดี ทั้งวัตถุและบุคคล ซึ่งเกิดจากพลังแวดล้อมที่กล่าวมาข้างต้น แล้วเราเลือกที่ที่มีพลัง และตรงกับดวงชาตา ประกอบกับความมีคุณธรรมของคนในอันที่จะสร้างมิตร สร้างเครดิต คนดีจะมีพลังดึงดูดในสิ่งที่ดี อันนี้ คือ มีศาสนาประจำใจ แถมเป็นคนมีพลังในตัวเอง สามารถดำเนินงานและจัดการกับสิ่งต่างๆ ที่พลังสมบูรณ์ของสภาพแวดล้อมดึงเข้ามาหาเรา บวกกับพลังของจิตใจที่ดีงามดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้าหาตัว

อย่างนี้เขาเรียกว่า “มังกรก่อกำเนิด” ทำอะไรก็สำเร็จหมด

ทีนี้ ถ้าเราให้ซินแสมาดูทำเล สร้างพลังให้กับพื้นที่ จัดสภาพแวดล้อมที่ดี สมบูรณ์มาก เผอิญไม่สอดคล้องกับดวงชาตาของเรา ก็เปรียบเสมือนโยนลูกบอลมาหาเรา แต่เราหันหลังให้ คือรับโชคอันนี้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ของเรา

พื้นที่หรือทำเลที่ดี จึงต้องสอดคล้องกับเจ้าชาตาด้วย


 ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน

ขยะมีความสำคัญกับฮวงจุ้ยอย่างไร ตอนที่ 2

โดย..ษณอนงค์ คำแสนหวี (อาจารย์แอน)

ที่ดินบางแห่งของเจ้าของที่ยังไม่ได้ล้อมรั้ว  และไม่ได้ใช้พื้นที่นั้นให้เกิดประโยชน์ แต่อยู่ท่ามกลางหมู่บ้าน  ชุมชนมีคนอยู่มาก  แล้วต่างก็นำขยะไปทิ้งกองรวมกันจนสูงขึ้นเรื่อย ๆ  จุดนี้ถือว่าเข้าข่ายเป้นขยะที่ไม่เป็นธรรมชาติ 

 ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน, รับดูฮวงจุ้ย, แก้ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยธุรกิจ, อาจารย์แอนแต่ถ้าเป็นธรรมชาติแล้ววางตรงไหนก็ได้  ขอให้มีคนมาเก็บโดยสะดวก  เมื่อขยะในบ้านมีการหมุนเวียน เต็มก็นำไปทิ้ง  เมื่อทุกอย่างมีการหมุนเวียน ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ  สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นมา  ขยะอีกแบบหนึ่งที่ผิดธรรมชาติ  คือการที่เราเป็นนักสะสมมืออาชีพ เรานำของเข้าบ้านทุกวัน หยิบของจากที่แล้วไม่เก็บ กลับนำมาวางไว้รวม ๆ กัน  สุม ๆ เอาไว้  คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยเก็บ พรุ่งนี้ค่อยเก็บไปเรื่อย ๆ เราจะกลายเป็นคนผัดวันประกันพรุ่ง มืออาชีพอีกเหมือนกัน  ซึ่งจะทำให้ของเหล่านั้นเป็นกองสุม ที่เรียกว่า “ ขุนสุมถนัดโปะ “  ประมาณสักเดือน ชี่ร้ายก่อตัวเกิดขึ้น  สิ่งร้าย ๆ ก็จะเข้ามา หากเป็นโต๊ะทำงานก็จะเข้าทางโทรศัพท์  กระจายจากความคิด จนบางครั้งเราเองยังไม่อยากจะนั่ง  เรียกว่าผิดปรกติ  เป็นการสะสมขยะบนโต๊ะอีกเหมือนกัน  สร้างโลกใบเล็กที่ไม่ดี   แต่ถ้าเกิดมีการหมุนเวียน ไม่เคยมีมดเข้ามาแทรก  ไม่มีแมลงสาบเข้ามาแทรก   สิ่งเหล่านั้นก็ยังไม่เกิด

ดูฮวงจุ้ย, เสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยสุสาน, ฮวงจุ้ยพยากรณ์, ฮวงจุ้ยที่ดิน, อาจารย์แอน
สิ่งเหล่านี้จะบอกถึงโชคลาภ  โชคชาตาของเราได้  ในลักษณะของพลังงานที่อยู่ในพื้นที่นั้น  เพราะฉะนั้น ขยะที่มีแต่พอดี   บ้านที่รกแต่มีการหมุนเวียน เป็นบ้านที่มีชีวิต  ส่วนที่รกที่ไม่มีการหมุนเวียน คือที่รกที่ตาย    กับรกที่ไม่ตายจะแตกต่างกัน  เราจึงไม่ต้องไปกลัวขยะ  ถ้าขยะเหล่านั้นถูกที่ เป็นระบบหมุนเวียนภายในบ้านที่ดี  ไม่ส่งกลิ่นและไม่หมักหมม

 ฮวงจุ้ยเสริมดวง, แต่งบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเข้าใจง่าย, ดวงจีน, ฤกษ์ยาม
 
ยังมีอีกหลายบ้าน  ที่มีการเปลี่ยนยางล้อรถแล้วไม่ยอมทิ้งไม่ยอมบริจาค  หรือเตียงนอนที่ใช้มาตั้งแต่สมัยแต่งงานยังเก็บไว้อยู่  หมอน รองเท้าของลูกตอนประถมยังเก็บไว้อยู่  ให้เหตุผลว่าเป็นของใช้ส่วนตัว เก็บไว้ดีกว่าไม่อยากบริจาคให้ใคร  พอไว้เก็บนาน เริ่มมีกลิ่น  แต่ไม่มีหนู ไม่มีแมลงสาบ  แต่ต้องดูว่าการเก็บนั้นมีการหมุนเวียนหรือไม่  หรือแย่งที่อยู่ของคนหรือไม่   สิ่งของเหล่านั้นโดดเด่นกว่าคนหรือไม่  ถ้าเป็นไปตามลักษณะที่กล่าวมานี้ อันตราย

 ถ้าจัดเก็บเป็นที่  เข้าไปเก็บทำความสะอาดได้ ยกขึ้นยกลงอยู่ตลอดเวลา  ถึงแม้ว่าจะถูกในทางฮวงจุ้ย  แต่ก็จะทำให้คุณเหนื่อย คุณลองพิจารณาดูว่า สิ่งของที่คุณรักที่สุดในบ้าน  ถ้าเกิดให้เป็นประโยชน์กับคนอื่น คุณจะรู้สึกอิ่มใจหรือไม่  หรือถ้าสิ่งนั้นอยู่กับบ้าน คุณอิ่มใจกว่า   แล้วให้เลือกในสิ่งที่คุณอิ่มใจ  แต่ก็ต้องไม่ผิดในลักษณะที่กล่าวมาด้วย  คือไม่ต้องสร้างโลกใบเล็กให้กับสัตว์ชั้นต่ำ  เพราะมันจะกระจายโลกของมันและกระจายชี่ออกไปทั่วบ้านเรา  แต่กรณีที่มีบ้าง นิด ๆ หน่อย ๆ มาเดินผ่าน อย่างกิ้งกือหลบฝน มดหลบน้ำ ไม่ถือว่าเป็นชี่ไม่ดี แต่หมายถึงว่า ถ้ามีการสร้างรังอยู่กันอย่างถาวรอย่างนั้น มีผลกับฮวงจุ้ยแน่นอน

ตอนนี้เราคงมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของขยะกันมากขึ้น แยกได้ว่าอย่างไหนเป็นขยะที่ให้โทษก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อาศัย หรือขยะประเภทไหนที่เป็นโทษต่อเรา  แต่ที่แน่ ๆ ขยะหรือสิ่งที่เหลือใช้ต่าง ๆ  บางอย่างสร้างอาชีพให้แก่คนกลุ่มหนึ่งได้  เป็นการสร้างงาน สร้างอนาคต   เพียงแต่ทางราชการคงต้องดูแลกวดขันในเรื่องของความปลอดภัยและการละเมิด สิทธิ์ของบ้านพักอาศัย

ขยะมีความสำคัญกับฮวงจุ้ยอย่างไร ตอนที่ 1

…โดย  อาจารย์ษณอนงค์ คำแสนหวี (อาจารย์แอน)

“ ขยะ ”  นับเป็นปัญหาที่สร้างความวุ่นวาย รำคาญใจให้กับทุกครัวเรือน  เพราะขยะเป็นสิ่งที่เหลือใช้ เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ สกปรกน่ารังเกียจ 

ฮวงจุ้ยโชคลาภ, บ้านกับฮวงจุ้ย, จัดบ้านเสริมฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยเตียงนอน
อาจารย์แอน หรือซินแสนักดูฮวงจุ้ยทุกคนไม่ใช่ผู้ตรวจสุขภาพ ที่มองหาสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หรือไปตรวจสุขอนามัย  เพราะหลายบ้านที่พอรู้ว่าอาจารย์แอนจะไปดูทำเลที่บ้าน อดหลับอดนอนจัดบ้านเป็นการใหญ่  ซึ่งอยากเรียนว่าทุกอย่างควรเป็นธรรมชาติ  เพราะจะได้รู้จักวงจรชีวิตของตัวเองเพราะว่าบ้างบ้านรกแล้วดี  รกแล้วรวยก็มี  เพราะฉะนั้นจึงไม่แน่นอนเสมอไป  แต่อย่างไรก็ตาม จะขอบอกในเรื่องของขยะหรือความไม่สะอาดของบ้าน  โดยยกตัวอย่างเช่น เรามีหนังสือพิมพ์เก่า ๆ วางอยู่ แล้วก็วางทิ้งไว้อย่างนั้น  พอดูแล้วเริ่มเกะกะ จึงนำไปซ่อนไว้ใต้บันได ทับถมทุกวัน เป็นเดือน เป็นปี  จนแน่นเต็มบันไดไปหมด  ถ้าวันที่คุณทำความสะอาดวันแรก  คุณจะมองเห็นหนูบ้าง จิ้งจกบ้าง กิ้งกือบ้าง ซึ่งจะซ่อนอยู่ในนั้น  หลายคนเคยพบอย่างนี้  สิ่งเหล่านี้เป็นสัตว์ที่เราเรียกว่า  เป็นสัตว์ชั้นต่ำ ยิ่งไปทับถมกองกันอยู่มากเท่าไร  จะยิ่งดึงดูดสิ่งที่มีชีวิตที่เป็นสัตว์ชั้นต่ำด้วยกันเข้ามา

ลองเปรียบเทียบกับความเป็นธรรมชาติดู  เพราะว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เห็นเป็นสถานที่น่าสะดวกสบายน่าอยู่  มีอาหารสารพัดให้กิน  มีทั้งแมลงสาบมาแพร่ขยายพันธ์  จิ้งจกออกล่าเหยื่อ  ข้างในนั้นก็จะเป็นอาณาจักรเล็ก ๆ  และกระจายพื้นที่ออกไป   กระจายเป็นชี่ที่เป็นลักษณะเดียวกันออกไปบริเวณรอบ ๆ  ทั้งกลิ่นชี่ที่สกปรกและสัตว์ชั้นต่ำ  ถ้าเกิดลักษณะแบบนี้มีอยู่ในบ้านมาก ๆ จะทำให้บรรยากาศในบ้านเป็นลักษณะอย่างนี้หมด  ก็จะดึงสัตว์ชั้นต่ำทุกประเภทเข้าบ้าน  รวมถึงคนที่มีจิตใจต่ำ นั่นคือ  “ขโมย “   อันนี้คือหลักธรรมของธรรมชาติ  คือโลกใบเล็กของสัตว์เหล่านี้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมันต้องการแพร่พันธุ์ออกไปเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่รู้ 

  ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยร้านค้า, ฮวงจุ้ยห้องนอน, อาจารย์แอน
เพราะฉะนั้น ในปีหนึ่ง ๆ ชาวจีนจึงให้มีการล้างทำความสะอาดบ้านใหม่กันก็ด้วยเหตุนี้  เพราะจะสร้างสุขอนามัยสุขภาพของคนที่อยู่ในบ้าน  ถ้าบ้านที่มีฝุ่นเยอะ  ยิ่งมีสัตว์เหล่านี้มาก สุขภาพของเราก็จะไม่ดี  นั่นแสดงว่ามีชี่ร้ายพลังร้ายแฝงอยู่  จึงดึงสิ่งเหล่านี้เข้ามาจากสัตว์ไปสู่คน ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ  เพราะฉะนั้น  บ้านเราก็จะมีสิ่งไม่ดีเข้ามา  ดึงบรรยากาศที่ไม่ดีเข้ามา  ลักษณะดังนี้หมายถึงขยะที่ไม่เป็นธรรมชาติคือมีอยู่เต็มบ้าน   

ลูกศิษย์ท่านหนึ่งถามว่า  ใต้เตียงหากทำเป็นชั้นเก็บของอย่างดี  เอาไว้เก็บกระเป๋าเดินทางลักษณะเช่นนี้ไม่เป็นไร  ไม่เข้าข่ายที่ว่ารวมของทุกอย่าง  เพราะถ้าเกิดรวมของที่เก็บแล้วเราไม่เคยเข้าไปยุ่ง ไม่เคยทำความสะอาด เริ่มมีแมงมุมหยากไย่เข้ามาก่อน  ตัวกินแมงมุม  ตัวกินแมลงสาบ หนู ตาม ๆ กันมาแล้ว  จะดึงชี่ร้ายทุกอย่างเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ   ลองคิดดูว่าสัตว์พวกนี้บางอย่างมีพิษ  มันจะกระจายสิ่งเหล่านี้เข้าไปสู่ตัวบุคคล  แล้วทำให้อารมณ์ของคนไม่ดี   นั่นคือการเปลี่ยนจากสภาพแวดล้อมที่ดี ๆ เป็นไม่ดี  มีปัญหา  ในที่สุดสิ่งไม่ดี ๆ จะเกิดขึ้นในบ้าน เป็นเพราะห้องเก็บของที่เอาไว้ในห้องนอนนั่นเอง  ดังนั้น ห้องเก็บของทุกที่มีได้ตามธรรมชาติ  แต่อย่าให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่กล่าวทั้งหมด  คือเป็นที่สร้างเก็บกักสัตว์ชั้นต่ำที่สุด  เพราะจะทำให้ดึงคนชั้นต่ำที่สุดวิ่งเข้ามาหาเราได้ในที่สุด 

ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน, ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ตกแต่งร้านค้า, อาจารย์แอน
บางบ้านมีใต้ถุน คือยกพื้นสูง ก็จะมีขยะบ้าง  ฝุ่นบ้าง ตกลงไปอยู่ใต้ถุนรวมถึงเศษอาหารด้วย  และมีคนถามอีกว่า บ้านอยู่ในน้ำ  มีน้ำอยู่ด้วยจะเป็นอะไรหรือไม่  ถ้าน้ำนั้นไม่อยู่ในข่ายน้ำที่รวมสัตว์ชั้นต่ำแบบนี้ ไม่เป็นไร  เพียงแต่เราปลูกพืชปลูกต้นไม้  เพราะว่าน้ำกับไม้เป็นวัฏจักรที่ส่งเสริมกัน  จะทำให้คนในบ้านมีหลักการ มีวิชาการ  เป็นนักคิดนักทำที่ดี  เหล่านี้คือลักษณะของน้ำกับไม้ 

 ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งคอนโด, จัดสวน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยครัว, อาจารย์แอนแต่หากว่าน้ำใต้บ้านเป็นลักษณะเป็นฝุ่น  มีขยะ มีเศษอาหารตกลงไป  เข้าข่ายแบบเดียวกันอีก  คือจะนำสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาในชีวิตของเรา  คนรอบข้างและทุก ๆ อย่างในลักษณะเดียวกัน  คำว่า “ฮวงจุ้ยกับขยะ “  คือ ขยะในบ้านที่ไม่เป็นธรรมชาติ   ถ้าสมมุติว่าเรารวบรวมขยะเอาไว้ ณ จุดใดจุดหนึ่ง  แต่มีการหมุนเวียนถ่ายเท  เช่นเรานำไปทิ้งหน้าบ้านก่อน  แล้วมีคนดูแลมาเก็บเอาไป เกิดการหมุนเวียนขึ้น   นั่นหมายความว่า  ระยะเวลา  3 – 4  วัน  กระแสชี่ร้ายยังไม่ได้สร้างอาณาจักรเล็ก ๆ  อย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น  ชี่ร้ายยังไม่มี พวกสัตว์ชั้นต่ำยังไม่เกิดตามมา  แต่ถ้าเกิดขยะกองจนเป็นภูเขา  แล้วเกิดโลกใบเล็ก ๆสำหรับสัตว์เหล่านั้น   ในบริเวณแถบนั้นก็จะได้รับกระแสอย่างเต็มที่