ปราณภายในและภายนอก ตอนที่ ๑

ศาสตร์ที่ว่าด้วยทำเล กำหนดว่าโลกนี้ประกอบไปด้วย 5 ธาตุ หรือที่เรียกว่าเบญจธาตุ ได้แก่ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน และทอง ปราณหรือชี่ คือ ลมหายใจของจักรวาล มีกระแสอยู่รอบ ๆ ตัวเรา มีทั้งอากาศที่เคลื่อนไหวและไม่เคลื่อนไหว โดยปราณหรือกระแสที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา กับปราณที่อยู่ภายในตัวเรา ต้องมีอะไรที่สอดคล้องและกลมกลืนกัน เราถึงอยู่อย่างสบาย อยู่แล้วเจริญ ซึ่งในปัจจุบันรวมไปถึงการทำงานด้วย คือ กระแสในที่ที่เราต้องไปทำงาน ทำงานประเภทไหน เหมาะกับสิ่งที่เราเคยชิน คุ้ยเคย ถ้าเกิดปราณทั้งหมดรวมกันเป็นหนึ่งเดียว นั่นคือความเจริญ ซึ่งจะประกอบไปด้วย ฟ้าประทาน ถ้าสภาพดินฟ้าอากาศ ทำเลที่อยู่อาศัย อาชีพที่เราประกอบการ กับสิ่งที่อยู่ภายในตัวเราสอดคล้องกันหมด ก็จะมีพลัง
สรุปแล้วคือ ถ้าหากเรามีความเข้าใจในธรรมชาติแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะสอดคล้องและทำให้เกิดพลังในตัวเรา

ก่อนอื่นต้องสังเกตรอบ ๆ ตัวเรา มีธาตุอะไรที่แรงที่สุด อย่างบางคนอยู่บ้านที่มีบริเวณ มีสวน หรือชอบทำสวน อันนี้คือธาตุไม้เด่น บางคนอยู่บ้านที่เป็นคอนกรีต ซีเมนต์ ปูหินอ่อน ปูแกรนิต ก็มากไปด้วยธาตุทอง หรือบางแห่งเต็มไปด้วยแสงสี ตอนกลางคืนยังเปิดไฟสว่างไสว อาจเป็นเขตที่ทำการค้าเหมือนกับเยาวราช หรือมีคนพลุกพล่านตลอดเวลา ติดกับวัด ติดกับสถานที่ราชการ ก็ถือว่ามากไปด้วยธาตุไฟ บางแห่งอยู่ติดแม่น้ำ อยู่กับเขา อยู่ตึกสูง ๆ ก็มากไปด้วยธาตุลม

ถ้าหากบ้านของเราอยู่ในที่ลมแรง ลมพัดจัด อย่างเช่นบ้านติดทะเล หรือปลูกบ้านอยู่ในทิศทางลม จะทำให้ธาตุลมภายในตัวเราแข็งแกร่งไปด้วย จะเป็นคนสู้ชีวิต ไม่ว่าเพศใดจะมีอารมณ์โผงผางรุนแรง มีอิสระทางความคิด ไม่ซับซ้อน ตามธรรมชาติตัวบ้านที่อยู่ในทิศที่ลมแรง จะต้องมีเสาเรือน หลังคาบ้าน หรือตัวบ้านที่ดูหนักแน่น มั่นคง เพื่อยืนหยัดสู้กับพายุ สาเหตุนี้พลอยทำให้อารมณ์ของผู้อยู่อาศัยหนักแน่น มั่นคง และแข็งแกร่งไปด้วย เหมือนกับเราขาดธาตุแต่ถ้าแก้ด้วยความหนักแน่นของหลังคา โครงสร้างแล้ว แสดงว่าเราได้ทั้งดินและทอง

สมมุติเรามีธาตุลมในตัวอ่อน แต่ชอบอยู่บ้านติดชายทะเล หรือชอบอยู่ในที่ลมแรง แสดงว่าธาตุภายในตัวอ่อนกว่าสภาพแวดล้อม หรือพัฒนาตัวเองไม่ทัน เราก็อยู่ไม่ได้นาน มีอันต้องโยกย้ายถิ่นฐานออกจากตรงนั้น ขณะเดียวกันคนที่มีธาตุแข็ง มีกำเนิดในถิ่นที่จะต้องมีการต่อสู้ อาจจะเป็นธาตุทอง เป็นทหาร หรือว่าอยู่ในเมือง หรืออยู่ในที่ที่มีลมทะเลแรง ๆ แล้ววันหนึ่งเกิดไปอยู่บ้านสวน คน ๆ นี้มักจะปลูกต้นไม้ดอกไม้ไม่ค่อยขึ้น ต้องไปอยู่กับสวนไม้สัก สวนที่ดูหนัก ๆ พอกัน เพราะธาตุไม่เท่ากัน

อย่างผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง อยู่ในสายตุลาการ เมื่อเกษียณได้ไปปลูกบ้านอยู่ต่างจังหวัด ท่านชอบปลูกต้นไม้เล็ก ๆ ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้พุ่มเตี้ย เพราะว่าท่านใช้วิชาการตัดสินคดีความมาโดยตลอด ธาตุในตัวอ่อน ถ้าไปอยู่บนยอดเขา ต้องได้รับแนวโอบของเขา ถ้าธาตุในตัวอ่อน ธรรมชาติก็ต้องเข้มแข็งปกป้อง แต่สภาพแวดล้อมใกล้ตัว ก็คืออ่อนโยน ดังนั้นความแตกต่างของธาตุหรือว่าปราณในตัวกับปราณภายนอกต้องพิจารณาอย่าง ละเอียดถี่ถ้วน หากเรามีธาตุที่เข้มแข็ง ต่อสู้ และไปอยู่ในที่ที่แรง ๆ เช่น สามแพร่ง ที่ลมแรง จะไม่ได้เรียกว่าชี่สังหารแต่เรียกว่าธาตุส่งเสริมกัน แต่ถ้าเราเป็นคนธาตุอ่อน เราเกิดในสภาพแวดล้อมหรือชี่ภายในอ่อนโยน เราไปอยู่ในที่แรง ๆ ก็เรียกว่าโดนชี่สังหาร

แต่ถ้าเกิดเราเป็นคนเข้มแข็ง เราไปอยู่ในที่อ่อน ๆ ที่อ่อนนั้นจะรองรับงานเราไม่ได้ ก็จะโค่นลงหมด อย่างเช่น คนที่ทำงานบริษัทก่อสร้าง หรือทำงานบริษัทใหญ่ ๆ แต่ไปอยู่บ้าน 2 ชั้น มีรั้วเตี้ย ๆ มีสวน มีดอกไม้ พอประมูลงานมา บ้านนั้นก็รองรับสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ เพราะว่าปราณต่างกัน หรือเจ้าของบ้านเป็นกัปตันเดินเรือทะเล เป็นชาวอเมริกัน อายุ 49-50 ปี มีภรรยาเป็นคนไทย ภายในบ้านมีสวนเล็ก ๆ มีศาลา ปลูกไม้ดอกไม้ประดับทั่วบ้าน ซึ่งกัปตันเดินเรือทะเล เปรียบเสมือนน้ำบวก ทำให้ธาตุน้ำแข็งมาก เราก็ได้เพิ่มน้ำลบ เพื่อให้ความสมดุลย์กัน ก็คือน้ำไหลรินให้อ่อนโยน ธาตุในตัวเขาเป็นคนชอบบริการ ชอบดูแล ก็เป็นธาตุน้ำ ก็สอดคล้องกับตัวเขา

หรือถ้าคน ๆ นั้นมีธาตุอ่อน เช่นเป็นธาตุไม้ ก็สามารถอยู่ในที่ปราณแข็งได้เหมือนกัน ถ้าหากว่าในดวงชะตามีแนวโน้มว่าเป็นคนสู้งาน ก็เป็นไม้ยืนต้นที่หยั่งราก ไม่ใช่ไม้ดอกที่อ่อนแอ ดังนั้นการจะอยู่ไม้หยั่งราก เราต้องดูบ้านที่มีฐาน หลังคา โครงสร้างต่าง ๆ มั่นคง หรือบุคคลที่เป็นธาตุไฟ ไปอยู่ในที่ปราณเข้มแข็ง ต้องเป็นคนที่มีธาตุไฟแข็งแกร่งในตัว ต้องทำงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์ มีหลักการ การวางแผน เพราะฉะนั้นในพื้นที่หนึ่ง ๆ ไม่ได้เป็นอันตรายสำหรับคน ๆ หนึ่ง

ความสำคัญของห้องครัวและห้องน้ำ ตอนที่ ๒

เตาที่อยู่ตรงกับประตู หมายถึง ในขณะที่ทำอาหารนั้นหันหลังให้กับประตู ถ้าหันหลังให้กับประตูอย่างนี้ไม่เป็นไร แต่ถ้าตัวผู้ทำอาหารนั้นหันหน้าให้กับประตู ทรัพย์จะรั่วไหล เพราะเปิดมาเจอเตา กระแสของธาตุไฟค่อนข้างแรง กระแสของประตูค่อนข้างแรง เราเปิดประตูไป เราจะสัมผัสกับธาตุลม ถ้าเป็นประตูเลื่อน กระแสของลมที่ประตูเลื่อนจะมีน้อยกว่า แต่ในกรณีที่เป็นบานประตูบานสวิง แรงเหวี่ยงตรงนั้นเขาเรียกว่า ชี่ พลังงานที่ออกไปเกิดแรงไปปะทะกับไฟ คำว่า"ปะทะ" ไม่เกิดผลดี ธาตุไฟย่อมแรงกว่า ธาตุลมกับธาตุไม้คือตัวเดียวกัน ใช้ภาษาจีนคำว่า "ซวิ่น" เหมือนกัน คือทิศตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเกิดการปะทะกัน ไฟมีกำลังแรงกว่า ไฟก็จะไหลออก พลังงานจะถูกดึงดูดเมื่อประตูสวิงตัวกลับมา คือ การไหลออก หมุนเวียนออกนั่นเอง ซึ่งไม่ควรนัก

เตา หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ภายในบ้าน ไม่ได้หมายถึงการไหลออกอย่างผิดธรรมชาติ ประตูกับเตาไม่ควรตรงกันนัยหนึ่ง อีกนัยหนึ่ง ขณะที่ทำครัว ไม่ควรมีอะไรเข้ามาข้างหลังผู้ทำครัว จะก่อเป็นความรู้สึกหวาดระแวง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับแม่บ้านหรือคนทำครัวเลย เพราะจะทำให้เป็นคนหงุดหงิดง่าย ใจน้อย แม่ครัวคนใดที่มีนิสัยใจน้อย ขี้บ่น คิดเสียก่อนว่า ตรงจุดทำครัว ให้หันหลังให้เขาปลอดภัยหรือเปล่า มีความสุขในการทำครัวไหม อากาศต้องถ่ายเทและหมุนเวียน ไม่ใช่ร้อน อบ อับ เหงื่อแตกอยู่ในนั้น อากาศไม่ถ่ายเท ถือว่าเป็นมุมอับ ทางแก้คือใช้พัดลมดูดอากาศ ต้องไม่ให้ห้องครัวอับ การตั้งเตาให้ถูก คนโบราณบอกว่าคือชีวิตแต่งงานที่มีความสุข ทั้งนี้ต้องประสานบุคคล และการถนอมน้ำใจกัน ทางหลักฮวงจุ้ยก็ให้ความสำคัญเหมือนกัน

ห้องน้ำอยู่กลางบ้านนั้น หมายถึงเราต้องเดินรอบห้องน้ำได้ แต่ถ้าเป็นทาวน์เฮ้าส์ห้องน้ำอยู่ตรงกลาง แต่เดินไม่รอบ เดินได้แค่ ๓ ด้าน อีกด้านติดกำแพง ถือว่าไม่กลางบ้าน ต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ ที่นี้เขาบอกว่าห้องน้ำอยู่กลางบ้าน ตรงกลางบ้านเปรียบเสมือนหัวใจ เป็นธาตุดิน การมีห้องน้ำอยู่กลางบ้านถือว่าเป็นการสลายธาตุดิน จะมีผลในเรื่องสามีภรรยาจะต้องจากกัน ก็มีทางแก้ ตรงกลางให้แขวนลูกคริสตัล แล้วมีตู้ปลา มีต้นไม้อยู่ในห้องน้ำ ตกแต่งห้องน้ำให้มีความรื่นรมย์  มีตู้ปลาถือว่ามีวัตถุประสงค์อื่นด้วยไม่ใช่เป็นแค่ห้องน้ำอย่างเดียว คริสตัลนั้นมีความหมายเป็นธาตุทองก่อกำเนิดน้ำ แล้วต้นไม้ที่อยู่ในห้องน้ำมีความหมายน้ำไปเสริมไม้ ตู้ปลาที่หมุนเวียนคือโชคลาภ ก็เปลี่ยนห้องน้ำเป็นโชคลาภไป ถ้าห้องน้ำอยู่กลางบ้านให้แก้ไขวิธีนี้ แต่ผู้อื่นที่ห้องน้ำเดินไม่รอบ เดินได้แค่ ๓ ด้านก็สบายใจได้ว่าไม่เป็นไร คนที่ซื้อทาวน์เฮ้าส์สองหลังติดกัน อย่างนี้ห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางต้องแก้ไข

ตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว บ้านที่ปลูกสร้างมาแล้ว แต่มีการรื้อ ทุบ ถอนอย่างมโหฬาร ต้องมีเรื่องถึงกับคอขาดบาดตาย เพราะการรื้อถอนทุบขนาดนั้นเป็นเรื่องใหญ่ เพราะไปเปลี่ยนโครงสร้าง ถ้าพลาดไปนิดเดียว หรือทำไม่ถูกต้อง มีปัญหากันแน่นอน ฉะนั้นการจะทุบ รื้อถอน หมายความว่า ทำเลที่อยู่ร้ายกว่าการทุบหรือรื้อถอน การทุบ รื้อถอนไม่ใช่เรื่องดี การทำลายสิ่งที่มีอยู่แล้วไม่ใช่เรื่องดี ต้องเสียเงินกว่าจะได้ฮวงจุ้ยที่ดีมา แล้วจะดีได้อย่างไร

ฮวงจุ้ยที่ดีคือ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด แล้วยังได้โชคลาภกลับมาอีกด้วย จึงถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะได้ตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อมีการผิดปกติ ต้องแก้ไขปรับแต่งให้ธาตุอื่น ๆ เข้ามาให้เกิดความสมดุลกลมกลืน ยกเว้นในกรณีที่ว่า สิ่งที่เป็นอยู่ ร้ายแรงจนต้องทุบรื้อถอน ปกติฮวงจุ้ยที่ดีจะไม่ทำกัน

ห้องนอนที่อยู่ตรงกับห้องน้ำ หมายความว่า เปิดมาก็เจอห้องน้ำ ยิ่งห้องน้ำเปิดแล้วเจอชักโครกเลย ความรักจะไม่ยั่งยืน ให้เอาม่านปิดเท่านั้นเอง  คือหลักของฮวงจุ้ย สายตาปะทะสิ่งใด สิ่งเหล่านั้นจึงจะมีอิทธิพล เราคิดว่าสายตาเราปะทะห้องน้ำทุกวัน ลงบันไดมาก็เจอห้องน้ำ เราก็จะเป็นโรคที่เข้าห้องน้ำบ่อย เราเปิดบ้านเจออะไรก่อน ถ้าเจอห้องน้ำก่อน คนในบ้านจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บ ออกจากบ้านห้องน้ำส่งหลัง ได้รับคำนินทา จะหงุดหงิด เหมือนเข้ามาในบ้านเราเจอห้องอาหารก่อน ก็จะกินเก่ง ถ้าเป็นคอนโดมิเนียม พอเปิดห้องเข้ามาก็เจอห้องนอนก่อน ก็จะนอนอย่างเดียวเพราะกลับมาก็หมดแรงพอดี