หลังจากนั้นจึงวางทำเลให้สอดคล้องกับดวงชะตา ให้บรรเทาความแรงของชะตากรรม แม้จะต้องเผชิญบ้าง แต่ก็ให้มีคนมาช่วยเหลือ จากนั้น ต้องเช็คดวงดาวในขณะนั้นว่า มีอิทธิพลอย่างไรกับเจ้าตัว ต้องแนะนำวิธีปฎิบัติให้สอดคล้องกับวิถีดวงดาวที่เข้ามาในขณะนั้น
หากชีวิตของเราอยู่สุขสบายมาเรื่อยๆ บ้านก็อยู่อย่างสบายมาโดยตลอด จู่ๆ
ก็มีเหตุเกิดขึ้นต่างๆนานา สัตว์เลี้ยงล้มตาย
คนในบ้านเริ่มเจ็บป่วยออดๆแอดๆ หรืออาจมีบางคนตกงาน คนในบ้านไม่ปรองดอง
ทะเลาะเบาะแว้ง ความคิดไม่ลงรอยกัน
แสดงว่าต้องมีความผิดปกติซักอย่างในบ้าน เช่น ปรับเปลี่ยนทำเลในบ้าน
ย้ายห้องนอน ต่อเติมใหม่ เปลี่ยนหัวเตียง หรือไปได้พืชพันธุ์ไม้
โต๊ะไม้ขนาดมหึมามาไว้ในบ้าน ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ลดสภาวะสมดุลย์กลมกลืนไปโดยไม่รู้ตัว หรือปล่อยให้บ้านรกร้าง
ขาดความเอาใจใส่ พลังหยินซึ่งเป็นพลังแห่งความเงียบ ความตาย เจ็บไข้ได้ป่วย
ถ้าพลังหยินเข้าบ้านมากไปก็จะเกิดเหตุนานาดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
เมื่อเกิดภัยต่างๆ หรือเรารู้สึกไม่ค่อยดี เมื่อเราเข้ามาในบ้าน จงเชื่อสัมผัสตนเอง ค่อยๆพิจารณาดูว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในบ้านในทางที่ไม่ดีนั้น มันมาจากอะไร มันเริ่มเมื่อไหร่ เมื่อเราต่อเติมบ้าน หรือตั้งแต่เราเปลี่ยนห้องนอน ย้ายห้องพระ ต้องหัดสังเกตความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ให้ดี
หลักการปรับทำเล หลังจากการสังเกตสิ่งผิดปกติแล้ว ควรปรับให้เกิดความรู้สึกสมดุล โดยเอาความรู้สึกของตนเองเป็นเครื่องวัดเป็นลำดับแรก เช่น หากเราเป็นคนที่ชอบอะไรโล่งๆ โปร่งๆ เมื่อมีสิ่งอื่นเข้ามาในบ้าน ทำให้ความรู้สึกของเราไม่โปร่ง เราก็จัดวางใหม่ หมุนไปหมุนมา ให้เกิดความรู้สึกที่โล่งๆ โปร่งๆ ของเรากลับคืนมา
หากเราต่อเติมแล้ว ทำให้บางส่วนของห้องมืดทึบไป ก็ต้องใส่แสงไฟหรือใส่โทนสีให้สว่างขึ้น หากย้ายที่ตั้งพระ ให้ลองทำสมาธิดู ถ้าไม่รู้สึกสะดวกหรือไม่รู้สึกว่าสมาธิจะดีขึ้นกว่าเดิม ก็ต้องจัดให้ความรู้สึกเดิมๆของเราดีขึ้น
ถ้าบ้านของเราอยู่กันอย่างสงบ อยู่ๆก็มีเหตุทะเลาะเบาะแว้งกัน จงสังเกตว่ามีใครนำอะไรใหญ่ๆแปลกๆเข้ามาว่างในบ้านก็ต้องเอาสิ่งเหล่านั้น ออกไป
เมื่อเกิดภัยต่างๆ หรือเรารู้สึกไม่ค่อยดี เมื่อเราเข้ามาในบ้าน จงเชื่อสัมผัสตนเอง ค่อยๆพิจารณาดูว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในบ้านในทางที่ไม่ดีนั้น มันมาจากอะไร มันเริ่มเมื่อไหร่ เมื่อเราต่อเติมบ้าน หรือตั้งแต่เราเปลี่ยนห้องนอน ย้ายห้องพระ ต้องหัดสังเกตความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ให้ดี
หลักการปรับทำเล หลังจากการสังเกตสิ่งผิดปกติแล้ว ควรปรับให้เกิดความรู้สึกสมดุล โดยเอาความรู้สึกของตนเองเป็นเครื่องวัดเป็นลำดับแรก เช่น หากเราเป็นคนที่ชอบอะไรโล่งๆ โปร่งๆ เมื่อมีสิ่งอื่นเข้ามาในบ้าน ทำให้ความรู้สึกของเราไม่โปร่ง เราก็จัดวางใหม่ หมุนไปหมุนมา ให้เกิดความรู้สึกที่โล่งๆ โปร่งๆ ของเรากลับคืนมา
หากเราต่อเติมแล้ว ทำให้บางส่วนของห้องมืดทึบไป ก็ต้องใส่แสงไฟหรือใส่โทนสีให้สว่างขึ้น หากย้ายที่ตั้งพระ ให้ลองทำสมาธิดู ถ้าไม่รู้สึกสะดวกหรือไม่รู้สึกว่าสมาธิจะดีขึ้นกว่าเดิม ก็ต้องจัดให้ความรู้สึกเดิมๆของเราดีขึ้น
ถ้าบ้านของเราอยู่กันอย่างสงบ อยู่ๆก็มีเหตุทะเลาะเบาะแว้งกัน จงสังเกตว่ามีใครนำอะไรใหญ่ๆแปลกๆเข้ามาว่างในบ้านก็ต้องเอาสิ่งเหล่านั้น ออกไป