ย้อนกลับมาเรื่องเป้าหมายของศาสตร์ฮวงจุ้ย อยู่ที่ทำให้ปราณในบ้านและนอกบ้านถ่ายเทสะดวก ทำให้ชี่ภายในร่างกายของเรากับบ้าน กับการประกอบอาชีพ การเคลื่อนไหวสอดคล้องกัน ซึ่งปราณตัวนี้เรามองไม่เห็น เราก็มองว่าเป็นเรื่องไสยศาสตร์หรือเปล่า แต่ขอให้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง อย่าศึกษาแบบที่เรียกว่าเอาสิ่งอภินิหารเข้ามาเจือปน หรือมีเทพดลบันดาล การสอดคล้องตัวนี้ ถ้าเรามองในแง่ของวิทยาศาสตร์ อย่างคนที่ชอบเคลื่อนไหว เวลาอยู่บ้านก็ต้องจัดเฟอร์นิเจอร์แบบที่เรียกว่าตัวเองเคลื่อนไหวสะดวก และดูโล่งโปร่ง ๆ สบาย ๆ คนที่ชอบดู นั่ง คิด ถ้าเดินมากจะเสียเวลา ชอบบ้านที่เล็ก ๆ กะทัดรัด ออกไปทำงานก็อยู่ในห้องทำงานเล็ก ๆ และมีสมาธิ อันนี้คือความสอดคล้อง บางคนอยู่ที่บ้านรกอย่างไร ที่ทำงานก็รกอย่างนั้น คือนิสัยส่วนตัว อยู่ที่ไหนก็เหมือนกันหมด แต่ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์งมงายหรือโหราศาสตร์งมงาย ถ้าเราเข้าบ้านแล้ว บ้านสะอาด สบายตา สบายใจในความชอบของตน เราก็สบายใจ แต่ถ้ากลับเข้ามาในบ้าน เราเห็นสิ่งที่ไม่ชอบคาอยู่หน้าประตู ก็จะรู้สึกหงุดหงิดไปตลอดจนถึงห้องนอน ก็จะต้องทะเลาะกัน อย่างนี้ทางโหราศาสตร์เรียกว่า "ปราณ" ทางวิทยาศาสตร์เรียกเพียงว่า บ้านรกไม่ถูกใจ
ถ้าสมมุติการหมุนเวียนของเรา เรามาจากในที่ ๆ เป็นหยางเต็มที่ ถ้าเราเข้ามาบ้าน มาที่สงบ เยือกเย็น สบายตาสบายใจ ก็เกิดความสมดุลระหว่างการเคลื่อนไหวและสงบนิ่ง การพูดแบบนี้ เป็นการพูดแบบปรัชญาและลึกซึ้ง ก็มีคำพังเพยเก่าแก่ที่บอกว่า "ประตูรับความรุ่งเรืองแห่งฤดูกาล บ้านเรือนรับความมั่งคั่งแห่งทิศ" เพราะประตูเป็นตัวที่เปิดออกไปเจออะไรก่อน ที่จะทำให้เราอารมณ์รื่นรมย์ เข้าบ้านมาเราเจออะไรที่ทำให้สบายใจ บ้านเรือนเราตั้งอยู่ในทิศทางที่ถูก อับลมหรือเปล่า ติดแอร์ทุกทิศทุกทาง แต่ยังดูอึดอัด หรือว่าเข้าบ้านมาแล้ว รู้สึกไม่ขัดกับธรรมชาติ อยู่แล้วสบายใจ ไม่ฝืน เหมือนกับรับความมั่งคั่งแห่งทิศ คืออยู่บ้านที่มีธาตุลมดี ธาตุอะไรต่าง ๆ มีความสมดุล จึงอยากบอกว่าสิ่งที่เราเชื่อหรือที่เราคิด ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์งมงาย หรือโหราศาสตร์ ก็เป็นเรื่องเดียวกัน เพียงแต่เราเพิ่มความละเอียดของความเข้าใจในปรัชญาการดำเนินชีวิตของคนโบราณ ให้มากขึ้น โดยตัดเอาน้ำหรือสิ่งคิดว่าเป็นวิชาที่งมงายออกไป เพราะเป็นวิชาที่มีหลักการที่ต้องเรียนรู้
ในหลักของฮวงจุ้ย ทุกสายทุกสำนักจะเหมือนกันหมด คือต้องดึงกำลังใจของบุคคลผู้อยู่อาศัยหรือผู้ประกอบการออกมาให้ได้ก่อน ถ้าซินแสไม่สามารถพูดคุยจนคนมีกำลังใจขึ้นมาได้ การวางฮวงจุ้ยตรงนั้นไม่มีประโยชน์ เหมือนกับคนที่ไม่ปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ แต่เป็นโรคภัยไข้เจ็บ รักษาเท่าไรก็ไม่ขึ้น เพราะกำลังใจไม่มี หรือคนบางคนเป็นโรคร้าย แต่มีกำลังใจมากมายมหาศาล จะมีพลังตัวหนึ่งเกิดขึ้น กระตุ้นแรงของชีวิตขึ้นมา ฉันใดฉันนั้นในการที่คนที่เราประสบปัญหา ถ้ามีกำลังใจ อย่างไรก็สู้ได้
เพราะฉะนั้นในหลักของฮวงจุ้ยขั้นต้นของทุกสายทุกสำนัก ต้องดึงกำลังใจของคนขึ้นมาก่อน กำลังใจของคนก็มีหลายระดับ บางคนบอกว่า จะมีกำลังใจต่อเมื่อมีเทพมาช่วยเหลือ บางคนกำลังใจอยู่ที่คนที่รักรอบข้าง อยู่ที่คำพูด อยู่ที่การชี้ให้เห็น ขึ้นอยู่กับว่าซินแสแต่ละคนที่จะมองว่าเขาต้องการอะไร และต้องดึงสิ่งที่ขาดขึ้นมาให้ได้ก่อน หลังจากนั้น พอเขามีพลังใจที่จะพูด ที่จะคิด ที่จะทำ เราถึงจะค่อย ๆ ดำเนินการแก้ไข ลักษณะของสิง หรือ วัตถุต่าง ๆ ในแต่ละสำนัก เป็นวิธีการที่ทำให้คนแต่ละคนรู้ว่ามีคนที่จะช่วยเหลืออยู่ เขาไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก แต่อยู่ที่ว่าใครจะยอมรับศาสตร์แต่ละแบบตามจริต พุทธศาสนายังมีตั้ง 6 จริตในการปฏิบัติ เพราะฉะนั้นจึงดูถูกกันไม่ได้ เรียนรู้ได้ทุกสายทุกศาสตร์ยิ่งดี เพราะจะได้เข้าใจคนทุกประเภทที่มาหาเรา ว่าเขาต้องการอะไร จะไปยึดว่าของตัวเองถูกต้องทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะว่าความต้องการของคนไม่เท่ากัน