เวลาธุรกิจ/อาชีพมีปัญหา ในทางฮวงจุ้ยมีอะไรเป็นตัวบอกเหต

ตำแหน่งที่เกี่ยวกับอาชีพในบ้านเรา ตำแหน่งแรกที่ควรให้ความสำคัญ คือ ประตูทางเข้าบ้าน ต้องซ่อมแซมประตูให้ดี อย่าให้ทรุด อย่าให้พัง ประตูเปรียบเหมือนปาก คือหน้าตาของเรา เราผ่านบ้านไหน เราสามารถที่จะวัดบ้านนั้นได้จากประตูบ้าน คือถ้าหากว่าประตูบ้านผุพัง ดูแล้วแย่มากจริงๆ เราก็พอจะบอกได้ว่า บ้านนั้นเขาคงจะเหนื่อย ลำบาก ต้องเผชิญอุปสรรค เพราะว่าขนาดหน้าบ้านยังไม่มีเวลาดูแลเลย แล้วในบ้านจะสักแค่ไหน

แต่ในหลักวิชาฮวงจุ้ยแล้ว ประตู คือ "ทางแห่งการรับโชค" แปลตรงๆ คือหมายถึง “อาชีพ” แม้กระทั่งประตูทางเข้าของบริษัท ที่ทำงาน ให้ดูว่า เข้าซอกเข้าซอย หรือเข้าอย่างโอ่อ่า เปิดเผย หรือว่าประตูนั้น มีรอยแตก รอยร้าว ป้ายหลุด ชำรุด ต้องรีบซ่อมแซม อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะคือหน้าตาของเรา ต้องเป็นสิ่งที่ดูสดชื่น สิ่งที่ชวนเชิญเราเข้าไป ปากประตู ปากทวาร พูดเองไม่ได้ แต่สายตาที่เห็น บอกได้

บางบริษัทประกอบกิจการเจริญรุ่งเรืองมาได้ 20 ปีแล้ว แต่พอไปดูป้ายชื่อบริษัท ดูทรุดโทรม ดูแย่ นั่นแสดงว่า กิจการเริ่มทรุดโทรมแล้ว อาชีพเริ่มไม่มั่นคงแล้ว

เพราะฉะนั้น อาชีพเจริญรุ่งเรืองหรือไม่ ให้มองที่ประตูบ้านก่อน เราก็สามารถที่จะทำนายได้

ตำแหน่งที่สองที่เราควรให้การสังเกต คือมุมในซ้ายสุดของบ้าน เมื่อเรายืนอยู่หน้าบ้านมองเข้าในบ้าน สายตาของเราไปหยุดมองที่มุมซ้ายสุดของบ้านตรงไหน ตรงนั้นคือตำแหน่งที่แสดงถึง ”ความมั่นคง” ซึ่งบางบ้านนั้นอาจเป็นห้องน้ำ ห้องครัว ก็ต้องดูแลรักษาให้สะอาด อย่าให้ทรุดร้าว รั่วซึม มีกลิ่น หรือบางบ้านอาจจะเป็นบันได ก็ไม่ถือว่าเสียหายอะไร แต่อย่าให้มันเอียง ทรุด มีเสียงดังเวลาเดิน(โครงสร้างบันไดไม่แน่น) เวลาเดินแล้วรู้สึกไม่มั่นคง หรือแคบ บางที่ยังเอาของไปวางอีก เราต้องจัดการกับสิ่งเหล่านี้ให้ดี เพราะว่ามุมนี้เป็นส่วนที่เราจะต้องเดินผ่านทุกวัน บันไดเปรียบเสมือนกระดูกหรือทางลงของมังกร ซึ่งมังกรก็คือตัวเรานั่นเองที่ต้องเดินผ่านทุกวัน ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญที่บันได

ตำแหน่งที่สามที่ใช้สังเกตเกี่ยวกับอาชีพ คือ ธาตุน้ำ เพราะฉะนั้น เราจึงต้องตรวจสอบระบบน้ำในบ้านให้ดี หากว่าน้ำรั่ว น้ำซึม ชักโครกติดขัด น้ำไหลขึ้นชั้นบนหรือไม่ ไหลสม่ำเสมอหรือไม่ ปั๊มน้ำทำงานดีหรือไม่ จ่ายค่าน้ำเป็นปกติหรือไม่ เหล่านี้ล้วนเกี่ยวพันกับอาชีพทั้งสิ้น

ถ้าบ้านใด น้ำไม่ค่อยไหล ห้องน้ำใช้งานไม่ได้ ระบบน้ำรั่ว ซึม เสีย ต้องรีบแก้ไข เพราะว่าระบบน้ำในความหมายของฮวงจุ้ย แปลว่า “อาชีพ” ก็จะมีอุปสรรค มีปัญหา ที่ทำงานก็เช่นกัน สำนักงานแห่งหนึ่ง พนักงานทำงานอยู่ชั้นล่าง แต่ห้องน้ำต้องขึ้นไปชั้นสาม ปรากฏว่าพนักงานที่นี่มีโรคภัยไข้เจ็บ สุขภาพไม่ดีกันไปตามๆ กัน

นอกจากนี้ ระบบน้ำที่มีปัญหา ยังหมายถึงระบบการเงินที่ติดขัด อุปสรรคในการทำงานทุกชนิด เพราะคือตัวอาชีพ

อาชีพ จะประกอบไปด้วย “มนุษย์สัมพันธ์และการเงิน” ถ้าที่ใดระบบน้ำรั่วหรือเสียบ่อยๆ หรือขาดแคลน จะเป็นตัวที่แสดงว่า การติดต่อสัมพันธ์กับคนภายนอกเริ่มไม่ดีแล้ว จะมีปัญหาเกี่ยวข้องกับอาชีพทุกด้านรวมทั้งบริวารด้วย

เพราะฉะนั้น ระบบน้ำต้องดูแล เพราะว่าจะเกี่ยวกับอาชีพของทุกคนเลย

...............อ.แอน

เรื่องของน้ำ

ในจำนวนห้าธาตุ อันได้แก่ ธาตุน้ำ ไม้ ไฟ ดิน และทอง นั้น แม้ว่าแต่ละธาตุจะมีความสำคัญเท่าเทียมกัน แต่ธาตุน้ำก็เป็นธาตุแรกที่เอ่ยถึง และเป็นธาตุที่เป็นจุดก่อกำเนิดของธาตุอื่นๆ ดังนั้น ในความเป็นจริงในเรื่องของธาตุนี้ เราควรเอ่ยถึงธาตุน้ำก่อน

ดังที่กล่าวมาแล้วว่า ปราณที่อยู่รอบๆ ตัวเรา และปราณที่อยู่ภายในตัวเรา จะต้องมีความสมดุลกลมกลืนกัน ความเจริญหรือที่เรียกว่า ความคล่องตัวในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นในชีวิตเรา

เมื่อเรามีกำเนิดในที่น้ำหรืออยู่ในที่ที่เห็นน้ำ เห็นทะเล อยู่เสมอๆ ธาตุน้ำดูดซึมง่ายกว่าธาตุลม ดังนั้น ดูเหมือนคนที่อยู่ติดน้ำและเห็นน้ำอยู่เสมอๆ จะพลอยได้รับอิทธิพลจากธาตุน้ำไปด้วย

นิสัยที่เกี่ยวพันกับธาตุน้ำ คือ ชอบริเริ่ม มักทำอะไรตามอุดมการณ์ มีมนุษย์สัมพันธ์ดี เป็นคนไม่อยู่นิ่ง ธาตุน้ำเป็นกระแส เพราะฉะนั้น อะไรที่เกี่ยวกับกระแสหรือการหมุนเวียนไม่อยู่กับที่ จึงเกี่ยวพันกับธาตุน้ำทั้งหมด ดังนั้น ธาตุน้ำจึงเกี่ยวพันกับการเงิน หรือการหมุนเวียนของกระแสเงิน นอกจากนี้ยังหมายถึงการบริการ งานที่เกี่ยวกับการโรงแรม การท่องเที่ยว ตลอดจนงานที่เกี่ยวกับการดูแลทั้งหมด

ดังนั้น หากมีความจำเป็นต้องย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในที่ที่ไม่มีธาตุน้ำเลย แล้วเราก็ประกอบอาชีพไปในทางนี้ ทั้งนิสัยใจคอดั้งเดิม ก็เป็นคนชอบรับแขกอยู่แล้ว ไปอยู่ในถิ่นฐานที่ไม่มีธาตุน้ำเลย นิสัยเราก็อาจจะเปลี่ยนแปลงไปตามธาตุของที่อยู่ใหม่ แต่ความเจริญจะไปช้า เพราะธาตุในร่างกายนั้นกว่าจะเปลี่ยนแปลง ก็ต้องใช้เวลานานเกือบเท่าๆ กับที่เราเกิดใหม่ทีเดียว ฟังดูก็ร้ายแรงเอาการถ้าเราต้องเริ่มความเจริญของชีวิตนานขนาดนั้น

ทีนี้ สมมุติว่าเราเป็นคนธาตุทอง ไปอยู่ในที่ที่มีน้ำ เราจะต้องเหน็ดเหนื่อยไปกับหน้าที่การงาน หรือการทำมาหากิน ไม่ได้หยุดหย่อน จึงจะเกิดการหมุนเวียนของกระแสเงิน เรียกได้ว่าไม่ตกงาน แต่ก็เหนื่อยน่าดูชม  และถ้าเราเป็นคนขี้เกียจ ก็จะขัดต่อกระแสที่อยู่รอบข้างตัว ธาตุน้ำที่อยู่ข้างกายเรา จะกลายเป็นดอกเบี้ย หรือกระแสเงินที่ต้องจ่ายออก และจะกลายเป็นคนที่ทำอะไรเกินตัวไป ดังนั้น คนที่อยู่ในธาตุทองโปรดอย่าขี้เกียจ

บุคคลที่มีธาตุไม้เป็นธาตุประจำตัว หากอยู่ใกล้น้ำ ควรบำเพ็ญตนเป็นไม้ที่หยั่งราก คือต้องขยันขันแข็งอีกเหมือนกัน มิฉะนั้น ไม้นั้นเมื่อไม่หยั่งราก ก็หมายความว่า จะตายหากถูกน้ำมากเกินไป หมายความว่า สุขภาพจะไม่แข็งแรง จะเจ็บไข้ได้ป่วย และการงานก็จะตกตามมา แต่ถ้าเป็นคนขยัน ใฝ่หาความรู้เพิ่มเติม จะมีคนอุปถัมภ์ค้ำจุน เพราะธาตุไม้มีความหมายไปในทางเพิ่มพูนความรู้ด้วย สามารถทำงานด้านการตลาด การประชาสัมพันธ์ หมั่นทำความรู้จักและผูกมิตรกับผู้คน พยายามที่จะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ความเจริญก็จะเกิดกับเราโดยง่าย เปรียบเหมือนต้นไม้ที่โตและหยั่งรากเมื่อได้น้ำ

บุคคลที่มีธาตุดินเป็นธาตุประจำตัว หากอยู่ในที่ที่มีน้ำมาก ควรเป็นบุคคลที่มีอาชีพในการบริหาร หรือทำงานในโรงงานอุตสากรรม หรือถ้าคิดจะประกอบกิจการของตนเอง ก็ต้องเป็นกิจการที่มีผลผลิต เพราะงานจะเข้ามาจนต้องผลิตหามรุ่งหามค่ำ แต่ถ้าประกอบอาชีพที่อ่อน ธาตุน้ำก็จะละลายธาตุในร่างกายของเรา กลายเป็นคนอ่อนแอ ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง สุขภาพไม่แข็งแรง อาจต้องย้ายถิ่นฐาน หรือไม่ก็ต้องจัดทำเลบ้านใหม่ ให้มีธาตุทีครบและสมดุลกลมกลืน

บุคคลที่มีธาตุไฟเป็นธาตุประจำตัว ต้องมีหลักการ มีความคิดริเริ่ม รู้จริง สามารถเป็นผู้นำกลุ่มคน ต้องมีบริวาร คณะที่ปรึกษา จะทำอะไรที ก็ต้องประชุมปรึกษาหารือ ลดความไวของตนเอง ถ้าหากเป็นคนที่ทำอะไรแล้วบินเดียว จะเป็นธาตุไฟที่ถูกดับ ทำอะไรก็พลาดง่าย ร่างกายอ่อนแอไม่สมบูรณ์

ที่ที่เป็นธาตุน้ำ ประกอบด้วยลักษณะอย่างไรบ้าง

อันดับแรก ดูง่ายที่สุด คือบ้านหรืออาคารที่หลังอิงทิศเหนือ

ข้อต่อมา ก็ดูง่ายอีกเหมือนกัน คือ ที่ติดแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง หรือบริเวณที่เราอยู่นั้น มีชื่ออยู่ในกลุ่มธาตุน้ำ เช่น หนองปลาไหล หมู่บ้านชลธี เป็นต้น ซึ่งข้อนี้ ก็จะไปเกี่ยวกับธาตุลมด้วย

สถานที่ที่มีถนนตัดกันหลายสาย เป็นชุมทาง หรือที่ที่พลุกพล่านจอแจ ที่ที่เป็นชุมชน ตลาดสด ศูนย์การค้าต่างๆ  ที่ที่เป็นชุมชน ที่ที่มีถนนตัดหลายสาย เป็นลักษณะของธาตุน้ำในเชิงสัญลักษณ์ แต่น้ำที่มีคุณภาพมากที่สุด คือน้ำจริงๆ ซึ่งลักษณะน้ำดีนั้น คงไม่ต้องบรรยายมาก คงจะเข้าใจกันดีอยู่แล้วว่า ใครก็ตามที่มีแหล่งน้ำอยู่ในบ้าน ก็แทบไม่ต้องแจกแจงอีกว่า โปรดรักษาน้ำที่มีอยู่ให้สะอาดตลอดกาล เพราะหมายถึง มนุษย์สัมพันธ์ กระแสการเงินที่สะพัดหมุนเวียน ถ้าน้ำนั้นเสีย หมายถึง รายจ่ายและเงินที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นทุกชนิดจากน้อยไปหามาก ได้แก่ ของหาย รายจ่ายมาก จนกระทั่งขโมยขึ้นบ้าน

น้ำเสียในที่นี้ จะรวมถึงน้ำรั่ว ท่ออุดตัน น้ำไม่ไหล น้ำซึม

โดยเหตุที่ธาตุน้ำ มีความหมายถึงอาชีพ หน้าที่การงาน น้ำจึงเป็นธาตุที่สำคัญและเกี่ยวพันกับการดำเนินชีวิตมนุษย์มากที่สุด และยังให้โทษกับบุคคลน้อยที่สุด นั่นคือในกรณีที่เกิดน้ำท่วม น้ำบ่า นอกนั้นถือว่าธาตุน้ำให้ประโยชน์แก่มวลมนุษย์มากที่สุด แม้แต่ในการพัฒนาชุมชนในประเทศจีน ในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ก็เริ่มพัฒนาจากการระบบชลประทานก่อน อารยธรรมต่างๆ ของโลกก็มีกำเนิดในแถบลุ่มแม่น้ำ สัตว์ในเทพนิยายก็มีมังกรบ้าง นาคบ้าง ที่ทรงอิทธิพลและมีอำนาจต่อมนุษย์มากที่สุด

ดังนั้นอาจารย์จึงมักจัดทำเลให้ทุกบ้านมีธาตุน้ำ และต้องเป็นน้ำที่มีชีวิต เป็นน้ำพุบ้าง น้ำตกบ้าง ตู้ปลาบ้าง สวนน้ำเล็กๆบ้าง และกำชับให้รักษาน้ำที่มีอยู่ในบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ

ตำแหน่งน้ำที่เสริมในยุคปัจจุบัน คือ น้ำทางทิศตะวันตก ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันออก น้ำที่สลายพลังงานความดีและพลังทรัพย์ คือ น้ำทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทิศใต้และทิศเหนือ มีข้อยกเว้นว่า น้ำทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ต้องมีดอกบัวด้วย จึงจะให้คุณ

ตำแหน่งตู้ปลาที่ดีที่สุด คือตรงประตู หรือใกล้ประตู ซึ่งมีความหมายว่า “ประตูมังกร” หมายถึง การฟันฝ่าอุปสรรคและประสบความสำเร็จในที่สุด

ตู้ปลาหรือตำแหน่งน้ำทางด้านทิศตะวันออก ส่งเสริมด้านอาชีพและการเงิน

ตู้ปลาหรือตำแหน่งน้ำทางด้านทิศตะวันตก ส่งเสริมการเงินและบริวาร บุตรหลานอุดมสมบูรณ์

ตู้ปลาหรือตำแหน่งน้ำทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ส่งเสริมด้านสุขภาพและความมั่นคงทางการเงิน ตลอดจนส่งเสริมให้มีความสัมพันธ์กับลูกค้าในทางที่ดี

สำหรับปลาที่เลี้ยงไว้ คือปลาเงิน ปลาทอง ต้องไม่ใช่ปลากัด ปลารักเร่ หรือปลาสอดที่กับกินกันเอง เพราะจะมีผลถึงเจ้าของด้วยค่ะ

เรื่องของลม

ศาสตร์ว่าด้วยทำเล กำหนดให้โลกนี้ประกอบด้วยห้าธาตุ อันได้แก่ ธาตุน้ำ ไม้ ไฟ ดินและทอง ส่วนธาตุลมนั้นผสมผสานอยู่ในธาตุไม้ เพราะในแผ่นปากัว ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ เราใช้คำภาษาจีนว่า "ซวิ่น" แปลว่า ลม

ทิศตะวันออกเฉียงใต้เป็นธาตุไม้ ดังนั้นธาตุลมจึงจัดอยู่ในกลุ่มของธาตุไม้ไปโดยปริยาย ธาตุลม ในศาสตร์ว่าด้วยทำเลนี้มีความหมายถึง "ปราณ หรือ ลมหายใจของจักรวาล" เป็นการพูดให้แคบเข้าเพื่อให้เข้าใจง่าย คือกระแสของอากาศที่หมุนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเรา ปราณนี้แบ่งออกเป็นสองอย่างคือ

ปราณที่อยู่รอบๆ ตัวเรา และปราณที่อยู่ภายในตัวเรา ซึ่งโดยปรกติคำว่า "สมดุลกลมกลืน" นั้น มีความหมายถึง ความสอดคล้องระหว่างปราณที่อยู่ภายในตัวเราและปราณที่อยู่ภายนอกรอบๆ ตัวเรา

เช่น ถ้าหากเราอยู่ในที่ที่ลมแรง ลมพัดจัด เช่น อยู่บ้านติดทะเลในทิศทางที่เผชิญกับลมอยู่เสมอ ก็จะนำพาให้ธาตุลมภายในตัวเราแข็งแกร่ง เป็นคนสู้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเพศใด มีอารมณ์ที่โผงผาง รุนแรง มีอิสระในทางความคิด ไม่ซับซ้อน บ้านเรือนที่อยู่อาศัยของคนที่อยู่ในถิ่นที่ลมแรงจัด มักมีต้นไม้สูงไว้รอบๆ เพื่อกั้นทางลม เสาอาคารบ้านเรือนก็ดูแข็งแกร่ง พลอยทำให้อารมณ์ของผู้อยู่อาศัยนั้นหนักแน่น มั่นคง แข็งแกร่งไปด้วย

หากบุคคลนั้น มีธาตุในตนอ่อนกว่าสภาพแวดล้อม ไม่อาจพัฒนาตามได้ทัน ตนเองก็จะอยู่ในสภาพแวดล้อมนั้นไม่ค่อยได้ มีอันต้องโยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่ตามสภาพที่เหมาะสมแก่ธาตุตน

ทำไมต้องยกตัวอย่างไปที่ธาตุลม แล้วธาตุอื่นๆ ล่ะ เป็นไปในทำนองเดียวกันหรือเปล่า ขอตอบว่า เป็นไปในหลักการเดียวกัน

บ้านใครที่อยู่ทางลมที่แรง ภาษาฮวงจุ้ยเขาบอกว่า โดน "ชี่สังหาร" ก็คือโดนปราณที่เข้มแข็งนั่นเอง และบ้านที่อยู่ทางลมแรง ก็ได้แก่ บ้านที่มีประตูรับถนนแคบๆ ที่พุ่งตรงมาหาตัวบ้านนั่นแหละ และลูกศิษย์ทางโหราศาสตร์ ก็ทำความเข้าใจว่า คนที่มีดาวอังคารสัมพันธ์กับลัคนานั่นแหละ จะอยู่ได้ดี ก็เพราะคนที่มีดาวอังคารสัมพันธ์กับลัคนา แสดงถึงคนที่มีลักษณะดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น คือ โผงผาง ตรงไปตรงมา มีกิจกรรมเยอะ และรู้จักพัฒนาตนเองอยู่เสมอ อย่างนี้ยิ่งอยู่ที่ๆ มีปราณเข้มแข็ง ดวงชะตารับได้อย่างนี้ก็ยิ่งเจริญ

แต่ถ้าบุคคลที่มีธาตุอ่อน เช่น วัน เดือน ปีเกิดของบุคคลนั้นชี้ว่า เป็นธาตุไม้ ต้องบอกว่า ก็สามารถอยู่ในที่ที่มีปราณแข็งได้ ถ้าหากในดวงชะตามีแนวโน้มว่าเป็นคนสู้งาน เป็นไม้ยืนต้นที่หยั่งราก ไม่ใช่ไม้ดอกที่อ่อนแอ

บุคคลที่มีธาตุไฟ เป็นธาตุประจำตัว ไปอยู่ในที่ที่ปราณเข้มแข็ง ก็ต้องเป็นไฟธาตุที่แข็งแกร่งในด้านหลักการและวางแผน ก็จะทำให้กิจการนั้นๆ สามารถผ่านพ้นอุปสรรคไปได้

สำหรับบุคคนที่มีธาตุดินเป็นธาตุประจำตัว ถ้าเป็นดินที่แข็งแกร่ง สามารถบริหารและ คัดเลือกตัวบุคคลให้เหมาะสมกับงานองค์กรนั้นๆ ก็สามารถพัฒนาเป็นกิจการที่ใหญ่โตโดยไม่ยาก

และบุคคลที่มีธาตุน้ำเป็นธาตุประจำตัว อันนี้ซิ ที่น้ำแรง ลมแรง เป็นพายุมาแล้ว หากรู้ตัวว่าตนเองเป็นธาตุน้ำ ไปอยู่ในที่ที่ลมแรง สมควรอยู่ฝ่ายการตลาดเป็นที่สุด เพราะการตลาดของเรานั้น จะแข็งที่สุด ยิ่งองค์กรใดอยู่ได้ด้วยแผนการตลาด ธาตุน้ำจะเหมาะสมที่สุด

เมื่อทราบรหัสของการใช้ธาตุให้เหมาะสมกลมกลืนแล้ว ปัญหากลับไปอยู่ที่ว่า จะรู้ได้อย่างไรว่า ที่ใดเป็นที่ที่ธาตุลมแรง

ที่ที่ติดแม่น้ำ ริมทะเล เป็นข้อหนึ่งที่ดูง่าย ใครก็ตามที่มีบ้านอาศัยอยู่ริมน้ำ หรือเปิดกิจการอยู่ริมน้ำย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงธาตุลมที่แข็งแกร่ง หลายคนยังเข้าใจผิดว่า อยู่ริมน้ำเย็นสบายดี กิจการค้าเลยเฉื่อยๆ ชอบกล ความจริงท่านคิดผิด หากท่านเป็นคนที่แข็งแกร่งตามธาตุของท่านเอง และเลือกทำกิจการที่เหมาะสมกับความโดดเด่นระหว่างธาตุประจำตัว กับธาตุลมที่อยู่รอบๆ ตัว ตามนัยที่กล่าวมาข้างต้น ท่านจะประสบความสำเร็จแน่นอน

ที่ดินที่โล่ง สำหรับการทำสนาม Golf โรงงานต่างๆ ก็เป็นที่ที่มีธาตุลมแรง ก็ต้องใช้ทฤษฎีที่กล่าวมาแล้วเช่นกัน

บริเวณที่เป็นทางสามแพ่ง แล้วตึกหรืออาคารของเราอยู่ตรงถนนพุ่งตรงมา ก็เป็นที่ที่มีลมแรง ซึ่งบางแห่งก็แก้ไขง่ายๆ โดยการเปิดกิจการร้านอาหารหรือขายโลงศพ บ้างก็ขายล้อยางรถยนตร์ ขายกระจก ซึ่งเป็นกิจการที่มีความแรงเท่าเทียมกับธาตุลมที่แรง ซึ่งเป็นปราณภายนอกนั่นเอง

บุคคลที่มีธาตุทองเป็นธาตุประจำตัว และมีอารมณ์ที่รุนแรงในนิสัย สามารถอยู่ในพื้นที่ที่ธาตุลมแรงได้ดี

ความสอดคล้องกันระหว่างปราณที่อยู่ภายในตัวเราและปราณที่อยู่กับสภาพแวดล้อมภายนอก เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง พวกเราสามารถใช้หลักเกณฑ์นี้ ไปพิจารณาถึงธาตุอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน

องค์ประกอบที่ไม่สมดุล

โดยปกติที่พวกเราเน้นหนักเน้นหนาในการพิจารณาสถานที่ต่างๆ ว่าดีร้ายประการใด ในหลักของฮวงจุ้ยทุกสายทุกสำนักจะมีพื้นฐานเหมือนกันหมด คือ การพิจารณาความสมดุลของสภาพแวดล้อมเป็นอันดับแรก

จากที่อยู่อาศัยเล็กๆ เช่น คอนโดมิเนียม แฟลตเล็กๆ อพาร์ทเม้นท์ต่างๆ เหล่านี้ พอจะมองออกได้ไม่ยาก และนอกจากความสมดุลภายในห้องพักเล็กๆ นั้น ยังต้องมีการแบ่งสัดส่วนใช้สอยให้ชัดเจน แม้ห้องพักจะไม่ได้มีขนาดใหญ่ ก็สามารถจัดให้เป็นสัดส่วนได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้นอกจากจะขึ้นกับหลักวิชาในการจัดทำเลที่อยู่อาศัยแล้ว ยังต้องมีศิลปะรวมถึงความสามารถในการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากับห้องพัก ทั้งขนาดและสีสันที่สอดคล้องกับเจ้าชะตาด้วย

องค์ประกอบของความไม่สมดุลอื่นๆภายในคอนโดหรือห้องพักนั้น จะเกี่ยวพันกับความมืดความสว่าง ซึ่งได้แก่แสงไฟที่พอเหมาะในยามกลางคืน และแสงจากดวงอาทิตย์ที่เข้ามาในเวลากลางวัน

ทางเข้าออกของลม ที่โล่ง ที่แคบ ที่เราเรียกว่า “ช่องลม” หรือระบบการถ่ายเทอากาศ ก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของความเหมาะสมหรือความสนดุลภายในห้องพักที่อยู่อาศัย

การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดพอเหมาะพอเจาะ รวมถึงลักษณะรูปทรง ที่อาจจะแก้ไขความสมดุลของห้องให้ดีได้ และอาจทำให้ความสมดุลของห้องเสียไปได้เช่นเดียวกัน

องค์ประกอบเหล่านี้ เป็นสิ่งที่นักดูฮวงจุ้ยหรือผู้ที่กำลังศึกษา ต้องสังเกตให้ดีก่อนที่จะไปเข้าหลักวิชาอื่นๆ เช่น จุดที่มีพลังที่สุดของห้อง หรือจุดที่มีพลังน้อยที่สุด ตำแหน่งภายในห้องกับการใช้สอย หรือการจัดห้องตามดวงดาวในชะตาของแต่ละคนต่อไป

นี่เป็นหลักที่ถือว่าดูง่ายที่สุด ถ้าจะฝึกหัดในการดูทำเลและจัดทำเล ก็ควรทำแบบฝึกหัดที่ง่ายที่สุด ที่เล็กที่สุดไปก่อน เป็นการฝึกความสังเกตและความละเอียดในการจัดทำเลไปด้วย

จากที่อยู่อาศัยที่เป็นลักษณะของห้องพัก ก็จะเป็นบ้านพัก เราก็เริ่มดู สังเกต และจัดเป็นห้องๆ ไป ไม่ว่าจะเริ่มจากห้องใดก่อน ก็ต้องรู้ถึงหน้าที่ของห้องนั้นๆ ว่ามีวัตถุประสงค์ในการใช้สอยอย่างไร เป็นการขยายจากการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียว ที่เหมาะแก่การใช้สอยภายในห้องพักเล็กๆ มาเป็นองค์ประกอบของเฟอร์นิเจอร์ ที่สอดคล้องกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก

ยกตัวอย่างเช่น ห้องนอน ซึ่งภายในคอนโดอาจมีเพียงหนึ่งเตียง มีองค์ประกอบที่ใช้ร่วมกับส่วนใช้สอยอื่นๆ คือทีวี แต่เมื่อขยายมาเป็นห้องนอน เตียงนอนคือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก เพราะวัตถุประสงค์ของการใช้ห้องนอนคือนอน ดังนั้นเตียงก็ต้องเป็นหลัก เฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ก็เป็นองค์ประกอบ มาเสริมให้ห้องนอนนี้มีความเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ สิ่งใดที่จะเข้ามาอยู่ในห้องนอน ก็ต้องสอดคล้องกลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์หลัก และวัตถุประสงค์ของเจ้าของบ้าน ตลอดจนการให้สีสัน ก็ต้องสอดคล้องกับดวงชะตาของผู้เป็นเจ้าของห้องด้วย

นอกจากนี้ การดูองค์ประกอบที่ทำให้ห้องขาดความสมดุล ที่ต้องพิจารณาด้วย คือ แสง ที่เราสามารถปรับให้พอดีทั้งกลางวันและกลางคืนด้วยม่านและแสงไฟ

อากาศที่หมุนเวียนถ่ายเท คือจำนวนหน้าต่างหรือช่องลม ที่สามารถใช้พัดลมดูดอากาศเป็นตัวปรับ

ตำแหน่งการวางเตียง ก็ต้องมีความเหมาะสมมากที่สุด เพราะเป็นเฟอร์นิเจอร์หลักของห้อง ก็ต้องมีหลักในการจัดวาง ไม่ให้อะไรมาข่มหรือเบียน หรือแม้กระทั่งดูน่ากลัวจนไม่กล้าเข้าไปนอน  ต้องไม่โล่ง คืออยู่ระหว่างประตูกับหน้าต่าง ทิศทางลมพัดผ่าน เหล่านี้เป็นต้น แล้วค่อยไปพิจารณาถึงหัวเตียง ตำแหน่งที่ตั้ง จุดที่มีพลังอื่นๆ ต่อไป

อาจมีคำถามจากผู้ที่ขี้สงสัยว่า องค์ประกอบในห้อง ที่จะเชิดชูเตียงให้เด่น ไม่ข่มเตียงนอนนั้นคืออะไรบ้าง เพราะเรียนไปเรียนมา ชักเสียศูนย์ ไฟธาตุแตกกันหมด

องค์ประกอบในห้องนอนขึ้นอยู่กับธรรมชาติ นิสัยของคนทั่วไป ที่ห้องนอนนั้นต้องประกอบด้วยเตียงซึ่งเป็นหลักอยู่แล้ว ก็ต้องมีตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ไว้แต่งตัวเมื่อตื่นขึ้นมา มีทีวีหรือวิทยุเครื่องเสียงไว้ฟังก่อนนอน มีโต๊ะทำงานตัวเล็กๆ ไว้เตือนความจำก่อนนอนว่าพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาจะต้องทำอะไร ถ้าเป็นเด็กๆ ก็มีโต๊ะหนังสือไว้ทบทวนบทเรียนก่อนนอน บางคนก็มีชั้นหนังสือไว้อ่านก่อนนอน

โปรดสังเกตว่าองค์ประกอบคือ ไว้เตรียมก่อนนอนและบริการหลังตื่นนอน เพราะจะนั้น เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จะต้องไม่ดูขนาดใหญ่ หรือมีมากมายเป็นเรื่องเป็นราว เช่นเครื่องเสียงสเตอริโอระบบเซอร์ราวด์ หรือโต๊ะทำงานขนาดยักษ์พร้อมเครื่องแฟกซ์ หนังสือที่มากมายราวกับห้องสมุด อย่างนี้เป็นต้น หรือแม้แต่เครื่องออกกำลังกายที่เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตจนดูเหมือนเป็นตัวเอเลี่ยนมหึมาอยู่ในห้องเมื่อยามเราดับไฟ ถ้าจะมีควรเป็นชิ้นเล็กๆ นวดมือ นวดเท้า บิดเอวมากกว่า

ในเรื่ององค์ประกอบของความสมดุลของที่อยู่อาศัย ที่เราต้องแยกเป็นห้องๆ และดูวัตถุประสงค์ของการใช้สอย ซึ่งจะเป็นตัวชี้ว่า เฟอร์นิเจอร์ใดจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หลัก

ห้องรับแขก ก็ต้องมีชุดรับแขกเป็นหลัก ห้องอาหาร ก็ต้องมีโต๊ะอาหารเป็นหลัก ห้องนั่งเล่น ห้องพักผ่อน ก็ต้องมีทีวี เครื่องเสียง ของเล่น เกมส์ต่างๆของลูก เป็นหลัก เฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ก็ต้องเป็นรอง และเป็นเครื่องเสริมเฟอร์นิเจอร์หลักให้สมบูรณ์

การประกอบอาชีพต่างๆ ของบุคคล ก็ต้องดูว่า อะไรเป็นหลัก ก็ต้องเชิดชูสิ่งนั้น เช่น คนที่ประกอบอาชีพขายหนังสือ หนังสือเป็นหลัก การจัดร้านก็ต้องเชิดชูหนังสือเป็นหลัก

ร้านขายเสื้อผ้า รับตัดเย็บเสื้อผ้า เสื้อผ้าก็เป็นหลัก คือต้องค้ำจุนสินค้าของเรา ประคบประหงมให้งานออกมามีคุณภาพและสวยงามที่สุด

เราทำขนส่งเป็นหลัก ยานพาหนะของเรา ก็ต้องมีประสิทธิภาพที่สุด

เราทำงานบริการ การบริการของเราก็ต้องเป็นเลิศ และเป็นจุดเด่นที่ใครๆ ก็ต้องกล่าวขวัญถึง

และในการจัดทำเล ก็ต้องให้สอดคล้องกับงานของเราเช่นกัน

...........อ.แอน