การสังเกตทำเลอย่างง่าย ตอนที่ ๒

ขั้นต่อไป ให้สังเกตทำเลภายนอกว่ามีภัยคุกคามหรือเปล่า เช่น บ้านตั้งอยู่บนทางสามแพร่งหรือไม่ หากตั้งอยู่บนทางสามแพร่ง เรามีอาชีพอะไรสอดคล้องกับทางสามแพร่งหรือเปล่า เช่น ขายมีด โลหะ เป็นทหารหรือตำรวจ ถ้ามีอาชีพที่อ่อนโยนไม่เข้ากับทางสามแพร่งที่แรง ก็ควรปลูกแนวต้นไม้ขวางไว้

ถ้าหน้าบ้านเรามีเสาไฟตั้งขวางกลางประตู ให้ปลูกต้นไม้สองข้างของประตู เปรียบเสมือนไม้ผู้พิทักษ์

ถ้าประตูหน้าบ้านของเราตรงกับประตูหน้าบ้านคนอื่น ให้แขวนคริสตัลบอล ทรัพย์จะได้ไม่ไหลออก ถ้าบ้านตรงข้ามเขาแขวนไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็ไม่ต้องแขวน เป็นอันว่าดีทั้งสองบ้าน

หน้าบ้านเรามีสะพานลอยหรือมีถนนลอยฟ้าตัดผ่าน ให้ปลูกต้นไม้นานาชนิดไว้หน้าบ้าน

ให้ดูรอบๆบ้านเราด้วยว่า มีตอไม้ ต้นไม้แห้งตาย ใบไม้ร่วงหล่น ต้องจัดการให้สดชื่น อย่าให้ดูเหี่ยวแห้ง ควรเลือกปลูกต้นไม้ที่แข็งแรง ใบไม้ไม่ร่วงง่าย และกิ่งไม้ไม่เหี่ยวแห้งง่าย สะดวกต่อการดูแล

ถ้าบ้านพักอาศัยของเราอยู่ใกล้โรงพยาบาล สถานีตำรวจ วัด การจัดทำเลภายในต้องเป็นหยาง เพราะทำเลภายนอกเป็นหยินไปหมด เมื่อเราเดินผ่านหยินเข้าไปในบ้านที่เป็นหยาง ก็จะเกิดความสมดุล

ไม่ควรทำกำแพงสูงเกินไป จะกีดกันตัวเองจากโลกภายนอก หรือสร้างกำแพงล้อมบ้าน ติดกับบ้านเกินไป กิจการงานจะไม่ราบรื่น หากเรามีบ้านที่มีกำแพงลักษณะอย่างนี้ ให้ทาสีกำแพงอ่อนๆ เป็นสีขาว สีครีม นำไม้เลื้อยมีดอกมาพาดกำแพง

หากหน้าบ้านเรามีน้ำสกปรกแช่ขังอยู่ อาจเกิดอันตรายกับคนในบ้าน วิธีแก้ไขคงต้องใช้ต้นไม้อีกตามเคย ปลูกไว้หน้าบ้านเป็นพุ่มใหญ่ ภายในบ้านมีตู้ปลา หรือน้ำพุ ต้องเป็นน้ำดี น้ำใส ให้เราดูแล้วสบายใจ

การแก้ไขและปรับทำเล จะต้องเช็คดวงชะตาของผู้อยู่อาศัยด้วย และต้องทำให้สอดคล้องกัน จึงจะบังเกิดผลมากที่สุด สิ่งที่เด่นต่อสายตา จะมีผลกับผู้คนมากที่สุด จึงต้องเพ่งเล็งความเด่นของสิ่งของต่างๆรอบตัวเราให้ดี

เป็นนักเรียน นักศึกษา ควรให้โต๊ะหนังสือเด่นที่สุดในห้อง น่านั่ง น่าอ่านหนังสือ จนไม่อยากลุกไปไหนเลย

เป็นแม่บ้าน ควรมีมุมสงบของตนเอง ที่ดูทีวี ฟังวิทยุ อ่านหนังสือ และทำครัวให้สะอาด น่าเข้าไปใช้จับต้อง

สำหรับพ่อบ้าน ก็ต้องมีมุมพักผ่อนและมุมทำงานที่ถูกต้องตามทำเลและวงจรชีวิตของตนเอง

อย่างนี้ บ้านจะสมบูรณ์ มีทำเลสำหรับทุกคน