แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฮวงจุ้ยจัดบ้าน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ฮวงจุ้ยจัดบ้าน แสดงบทความทั้งหมด

โครงสร้างของฮวงจุ้ยที่ดี

ชาวจีนจะให้ความสำคัญกับภูเขา และเราทั้งหลายคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “หลังมีเขา หน้ามีน้ำ” เป็นทำเลที่สมบูรณ์

ตำแหน่ง “เต่าดำ” ด้านหลังกำบังลมเหนือให้ การมีภูเขาอยู่ด้านหลังเปรียบเสมือนการนั่งเก้าอี้ที่มีพนักพิงย่อมให้ความสบาย ความมั่นคง เหมือนมีหลักอยู่ข้างหลังโดยไม่ต้องคอยระมัดระวัง และจะให้ดี แนวภูเขาเต่าดำต้องมี ๓ ขยักหรือ ๓ แถว

ภูเขา “เสือขาว” ทางด้านขวาของเต่าดำ จะคุ้มภัยร้ายจากแสงแดดทางด้านตะวันตก

ภูเขา “มังกรเขียว” ทางซ้ายของเต่าดำ จะคอยพิทักษ์ป้องกัน

และภูเขา “กระจิบแดง” ด้านหน้าของเต่าดำก็พอที่จะมองเห็นภาพได้อย่างไกลและในขณะเดียวกัน ก็เก็บกักพลังหมุนเวียนให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองแก่ผู้อยู่อาศัย

ในทางธุรกิจ แปลได้ว่า

เต่าดำ ๓ ขยัก
ขยักที่ ๑ การประสานกัน ระหว่างฝ่ายการตลาด/การขาย กับ back office เป็นการประสานงานภายใน
ขยักที่ ๒ การประสานกับคนภายนอก คือ ธุรกิจต้องมีเครดิต ต้องมีลูกค้า ต้องมีคอนเนคชั่น มีเพื่อน มีซัพพลายเออร์
ขยักที่ ๓ คือ ผู้อุปถัมถ์ทางการเงิน คือ ใช้เงินตัวเองส่วนหนึ่ง กู้ส่วนหนึ่ง

เสือขาว คือ back office ได้แก่ฝ่ายวางแผน บัญชี การเงิน บุคคล

มังกรเขียว คือ ฝ่ายที่บุกออกไปข้างนอก ได้แก่ ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด

กระจิบแดง คือเป้าหมายวัตถุประสงค์ ความกระตือรือร้น แรงใจในการทำงาน ความสอดคล้องระหว่างโครงสร้างและตัวบุคคล ผลผลิต การตั้งเป้าหมาย

ลานโล่งด้านหน้า ก่อนถึงกระจิบแดง คือ หมิ่งถัง การมีวิสัยทัศน์ที่กว้าง ที่มองแล้วมีแผนการณ์ล่วงหน้า


ฮวงจุ้ยโต๊ะทำงาน, ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ตกแต่งร้านค้า, อาจารย์แอน

ทางสามแพร่ง ตอนที่ 1


ฮวงจุ้ยบ้าน, ฮวงจุ้ยคอนโด, ฮวงจุ้ยร้านค้า, ฮวงจุ้ยห้องนอน, สามแพร่ง

มีคนสงสัยมากมายเรื่องทางสามแพร่ง ว่ามีผลร้ายประการใด มีข้อยกเว้นบ้างหรือไม่ และมีทางแก้ไขอย่างไร

อันที่จริง ยังมีคนอีกมากมายที่ได้รับประโยชน์จากการอาศัยอยู่บ้านตรงทางสามแพร่ง ซึ่งจะขอยกตัวอย่างให้ไปเปรียบเทียบและศึกษากัน

อาจารย์ได้รับเชิญไปถกปัญหาแบบปุจฉา-วิสัชนากับนายตำรวจและนายทหารชั้น ผู้ใหญ่ และมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องทางสามแพร่ง ผู้ถามมียศถึงพลเอก ท่านบอกว่าท่านอยู่บ้านตรงทางสามแพร่ง ไม่ทราบจะมีผลร้ายประการใด เมื่อรับราชการมาถึงระดับยศชั้นผู้ใหญ่ได้อย่างตลอดรอดฝั่ง คำตอบคงต้องไปในทางดีอย่างแน่นอน จึงเรียนไขข้อข้องใจไปว่า

ทางสามแพร่ง เป็นลักษณะของพลังที่รุนแรง หรือเปรียบเทียบกับกระแสน้ำ 3 สายไหลมาปะทะกัน หรือถนนวิ่งตรงดิ่งเข้ามาสู่บ้านเรา เป็นลักษณะแข็งกร้าว รุนแรง ถ้าดวงชะตาชีวิตของผู้อยู่อาศัยมีกำลังอ่อนหรือประกอบอาชีพใดๆ ที่ขาดพลัง ย่อมได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน แต่สำหรับท่านนายพลรับราชการทหาร เกี่ยวพันกับอาวุธและอยู่ในแนวแข็งกร้าว กลับส่งผลให้ท่านเด่นในชีวิตราชการ อีกทั้งเครื่องแบบของท่าน มีทั้งเครื่องหมายปืนและเสือคาบดาบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์คล้ายเสือคาบดาบที่ป้องกันภูตผีปีศาจของจีน เทียบเท่ายันต์โป๊ยข่วย

ซ้อหงส์ ประกอบอาชีพขายยางรถยนต์อยู่ตรงทางสามแพร่ง ใครมาใครก็ทักว่าอยู่ทางสามแพร่งไม่ดี แต่อาซ้อกลับขายได้ขายดีทุกวัน แสงไฟที่ส่องมาหน้าร้านจากทางสามแพร่ง เสมือนกับรับพลังส่งเสริมการขายตลอดเวลา ถ้าขี้เกียจขายดีเมื่อไหร่ก็ค่อยย้าย

คุณจรัส มีอาชีพขายโลงศพตรงทางสามแพร่ง จังหวัดสระบุรี ขายดิบขายดี มีการสั่งโลงทุกวัน จนขยายโรงงานและขยายสาขาไปแถบสระบุรี ลพบุรี ขยายสาขาไปทั่ว มีคนมาทักเรื่องทางสามแพร่งจนเจ้าตัวหลงเชื่อ ย้ายออกมาตั้งที่ใหม่ ปัจจุบันการค้าตก ต้องยุบสาขา ยุบโรงงาน เมื่อมาหาอาจารย์ สิ่งเดียวที่แนะนำได้ คือพยายามย้ายกลับไปที่เดิม ซึ่งขณะนี้กำลังติดต่อซื้อที่เก่ากลับคืน

คุณอ้อยเพื่อนอาจารย์ ขอให้อาจารย์ไปช่วยดูร้านตัดเสื้อของเพื่อนที่พิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ตรงทางสาม แพร่ง ประตูร้านตรงกับถนนที่พุ่งตรงมา แถมเพื่อนของเธอคนนี้ นั่งเย็บผ้าตรงประตูพอดี ความจริงร้านตัดเสื้อร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ แต่กิจการค้าดีมาก เจ้าของนั่งทำแพตเทิร์น ตัดกระดาษ ถือเข็ม กรรไกร ซ่อมเสื้อ อยู่ตรงประตู ความจริงน่าจะเป็นคนสุขภาพไม่ดี กลับอ้วนท้วนแข็งแรง อารมณ์ดี เธอถือเข็มกรรไกร อาวุธอันวิเศษสุด ชี้ไปที่ประตูทุกวัน ทางสามแพร่งจึงทำอะไรเธอไม่ได้เลย

มูลนิธิ สมาคมบรรเทาสาธารณภัยต่างๆ เป็นแหล่งที่คนมีความทุกข์หลั่งไหลเข้ามาขอความช่วยเหลือ ผู้ที่ทำงานสถาบันเหล่านี้จึงไม่มีอันตราย แต่งานจะเยอะกว่ามูลนิธิ สมาคม ที่ตั้งอยู่บนถนนปกติธรรมดา เช่นเดียวกับผู้ที่ประกอบอาชีพขายวัสดุก่อสร้าง ร้านตัดกระจก ขายมีด โลหะ หรืออาชีพที่อยู่ในแนวแข็งกร้าวทุกชนิด



การสังเกตทำเลอย่างง่าย ตอนที่ ๒

ขั้นต่อไป ให้สังเกตทำเลภายนอกว่ามีภัยคุกคามหรือเปล่า เช่น บ้านตั้งอยู่บนทางสามแพร่งหรือไม่ หากตั้งอยู่บนทางสามแพร่ง เรามีอาชีพอะไรสอดคล้องกับทางสามแพร่งหรือเปล่า เช่น ขายมีด โลหะ เป็นทหารหรือตำรวจ ถ้ามีอาชีพที่อ่อนโยนไม่เข้ากับทางสามแพร่งที่แรง ก็ควรปลูกแนวต้นไม้ขวางไว้

ถ้าหน้าบ้านเรามีเสาไฟตั้งขวางกลางประตู ให้ปลูกต้นไม้สองข้างของประตู เปรียบเสมือนไม้ผู้พิทักษ์

ถ้าประตูหน้าบ้านของเราตรงกับประตูหน้าบ้านคนอื่น ให้แขวนคริสตัลบอล ทรัพย์จะได้ไม่ไหลออก ถ้าบ้านตรงข้ามเขาแขวนไว้เรียบร้อยแล้ว เราก็ไม่ต้องแขวน เป็นอันว่าดีทั้งสองบ้าน

หน้าบ้านเรามีสะพานลอยหรือมีถนนลอยฟ้าตัดผ่าน ให้ปลูกต้นไม้นานาชนิดไว้หน้าบ้าน

ให้ดูรอบๆบ้านเราด้วยว่า มีตอไม้ ต้นไม้แห้งตาย ใบไม้ร่วงหล่น ต้องจัดการให้สดชื่น อย่าให้ดูเหี่ยวแห้ง ควรเลือกปลูกต้นไม้ที่แข็งแรง ใบไม้ไม่ร่วงง่าย และกิ่งไม้ไม่เหี่ยวแห้งง่าย สะดวกต่อการดูแล

ถ้าบ้านพักอาศัยของเราอยู่ใกล้โรงพยาบาล สถานีตำรวจ วัด การจัดทำเลภายในต้องเป็นหยาง เพราะทำเลภายนอกเป็นหยินไปหมด เมื่อเราเดินผ่านหยินเข้าไปในบ้านที่เป็นหยาง ก็จะเกิดความสมดุล

ไม่ควรทำกำแพงสูงเกินไป จะกีดกันตัวเองจากโลกภายนอก หรือสร้างกำแพงล้อมบ้าน ติดกับบ้านเกินไป กิจการงานจะไม่ราบรื่น หากเรามีบ้านที่มีกำแพงลักษณะอย่างนี้ ให้ทาสีกำแพงอ่อนๆ เป็นสีขาว สีครีม นำไม้เลื้อยมีดอกมาพาดกำแพง

หากหน้าบ้านเรามีน้ำสกปรกแช่ขังอยู่ อาจเกิดอันตรายกับคนในบ้าน วิธีแก้ไขคงต้องใช้ต้นไม้อีกตามเคย ปลูกไว้หน้าบ้านเป็นพุ่มใหญ่ ภายในบ้านมีตู้ปลา หรือน้ำพุ ต้องเป็นน้ำดี น้ำใส ให้เราดูแล้วสบายใจ

การแก้ไขและปรับทำเล จะต้องเช็คดวงชะตาของผู้อยู่อาศัยด้วย และต้องทำให้สอดคล้องกัน จึงจะบังเกิดผลมากที่สุด สิ่งที่เด่นต่อสายตา จะมีผลกับผู้คนมากที่สุด จึงต้องเพ่งเล็งความเด่นของสิ่งของต่างๆรอบตัวเราให้ดี

เป็นนักเรียน นักศึกษา ควรให้โต๊ะหนังสือเด่นที่สุดในห้อง น่านั่ง น่าอ่านหนังสือ จนไม่อยากลุกไปไหนเลย

เป็นแม่บ้าน ควรมีมุมสงบของตนเอง ที่ดูทีวี ฟังวิทยุ อ่านหนังสือ และทำครัวให้สะอาด น่าเข้าไปใช้จับต้อง

สำหรับพ่อบ้าน ก็ต้องมีมุมพักผ่อนและมุมทำงานที่ถูกต้องตามทำเลและวงจรชีวิตของตนเอง

อย่างนี้ บ้านจะสมบูรณ์ มีทำเลสำหรับทุกคน

ฮวงจุ้ยสำนักงาน-โต๊ะทำงาน


ฮวงจุ้ยสำนักงาน

        การจัดห้องทำงาน ให้สอดคล้องกับงานที่ทำ และเหมาะกับอุปนิสัย ตรงกับชะตา ส่งเสริมการทำงานให้ก้าวหน้ามีประสิทธิภาพ นอกจากขึ้นกับชะตาที่นำพาเรามาทำงานนี้แล้ว ยังขึ้นกับความสามารถของตนเอง และมีสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมในการทำงาน ไม่ปิดกั้นโชค และส่งเสริมให้ราบรื่น  ฮวงจุ้ยสำนักงาน จึงมีบทบาทที่สำคัญ
        สำนักงานของเราที่เราคัดเลือกแล้ว คือ สภาพแวดล้อมภายนอก ที่บางครั้งอาจเลือกให้ครบตามใจปรารถนาไม่ได้ แต่สภาพแวดล้อมภายในที่แข็งแกร่งสามารถทดแทนได้ เพราะอยู่ใกล้ตัวเราที่สุดและให้ผลทันทีด้วย เราต้องสัมผัสและเห็นมันทุกวัน จึงมีอิทธิพลต่อร่างกายและอารมณ์ซึ่งเป็นนายของพฤติกรรมต่างๆที่เราแสดงออกมาโดยไม่รู้ตัว
        สำนักงานนั้นคือ ห้องทำงานของเรา ที่มีองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดคือ โต๊ะทำงาน  เรามาเลือกโต๊ะทำงานที่เหมาะกับตัวเรากับลักษณะงานของเราก่อนนะคะ

                                                         
ปากัว ,ฮวงจุ้ยกับอาชีพ,ฮวงจุ้ยการจัดบ้าน
โต๊ะทำงานแบบดั้งเดิม ดูเพิ่มเติม

        โต๊ะทำงานแบบนี้ เป็นแบบเก่าดั้งเดิมที่สุดที่เราคุ้นตา เผลอๆกำลังนั่งทำงานอยู่ขณะที่นั่งอ่านบทความนี้อยู่ก็ได้ สมมติว่าห้องนี้เป็นห้องทำงานจริงๆ เรามาศึกษาดูว่า ห้องนี้ โต๊ะอย่างนี้ กับของที่จัดวางมีผลอย่างไร และจะปรับแต่งแก้ไขอย่างไร
        ข้อแรก เห็นๆ คือ ขาดพลังและอำนาจของการสั่งการ เก้าอี้ของผู้ที่นั่งทำงานต้องมีพลังมากกว่าเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ด้านหน้า ถ้าดูตามโครงสร้าง ที่นั่งคือ เรา พนักพิง คือ เต่าดำ ขยักที่หนึ่ง ขยักที่สองของตำแหน่งเต่าดำคือ หน้าต่าง ขยักที่สาม ในที่นี่คือ สภาพภายนอก
       พนักพิงไม่มี หลังอิงหน้าต่างเท่ากับขยักที่สองไม่มี โผล่ไปขยักที่สาม คือ ภายนอก ที่ถ้าเป็นภูเขา ตึกสูง ก็พอจะมีนายทุนที่ต้องแข็งแรงมหาศาลเพื่อค้ำจุน คือ ความเหน็ดเหนื่อยของคนที่นั่งทำงานอยู่ ทางแก้คือ เปลี่ยนเก้าอี้ให้พนักสูงขึ้น เปลี่ยนทิศเป็นนั่งหลังอิงกำแพง และติดรูปเหนือศรีษะที่ดูมีพลังและสวยงาม ก็จะได้โครงสร้างของเต่าดำ ตำแหน่งชื่อเสียงและผู้อุปถัมภ์ ที่จะหมายถึงนายทุนและลูกค้านั่นเอง
        ซ้าย ขวา ในภาพ เป็นรูปต้นไม้ที่เหมือนๆตาย คือ งานนิ่ง สะดุด และคิดไม่ออก แก้ไขตำแหน่งขวา เป็นไม้ปลอมก็ได้ ที่สูงและเป็นพุ่มดูมีชีวิต ตำแหน่งซ้ายเป็นต้นเตี้ยกว่า ดูกลม เหมือนเสืออ้วนหมอบ ก็จะสร้างความแข็งแรง ปกป้อง พร้อมคิดและสู้งาน
        สิ่งสำคัญที่สุด โต๊ะค่ะ แปลง่ายๆว่า โต๊ะเล็กงานน้อย โต๊ะใหญ่ความรับผิดชอบมาก โต๊ะมีองค์ประกอบ คือมีบริวาร เลือกโต๊ะใหม่ให้เหมาะกับสถานะภาพของตัวเองเลยค่ะ

                                                                     
ปากัว,หยิน หยาง,โต๊ะทำงาน,ออฟฟิส ,สำนักงาน
โต๊ะทำงานสองตัวหันหน้าชนกัน ดูเพิ่มเติม
 

        นี่ก็คุ้นตากันนะคะ โต๊ะชนกัน ในสำนักงานที่มีพื้นที่จำกัด เป็นลักษณะงานที่ไม่ได้นั่งประจำ งานค้างบนโต๊ะจึงไม่มี พูดง่ายๆ ผู้นั่งโต๊ะอย่างนี้ คือ ผู้ที่มีงานภายนอกมากกว่างานภายใน ได้แก่ งานด้านส่งเอกสาร งานขาย การตลาด งานเรือ ถ้าตรงจริตแล้ว เพิ่มแจกันดอกไม้ แปลว่า ติดต่องานได้ผล ลดอุบัติเหตุ ประสานงานง่ายดาย ยอดขายไปได้ ตลาดไปไกล เพิ่มรูปภาพติดผนังเป็นแนวลึก รูปใหญ่ค่ะ ไม่เอารูปเล็ก

                                                            
ปากัว,หยินหยาง,ฮวงจุ้ยอาจารย์แอน,โครงสร้างฮวงจุ้ย,ฮวงจุ้ยโชคลาภ
โต๊ะทำงานผู้บริหาร ดูเพิ่มเติม
 

        เริ่มไต่เต้าขึ้นชั้นบริหารค่ะ นี่มีเต่าดำ พร้อมด้วยเก้าอี้ทรงสูง ตู้ด้านหลัง ถ้าจะให้ดี เอาชั้นกลางออก แล้วติดรูปภาพภูเขาสวยๆด้านหลัง สวยเลยค่ะ มีโต๊ะประกอบหมายถึงบริวาร สังเกตุโต๊ะเล็กด้านข้าง ควรอยู่ฝั่งเสือถูกแล้ว และเราควรเดินเข้าฝั่งมังกร โต๊ะทำงานแบบนี้สมบูรณ์แบบค่ะ

                                                                    
ปากัว,ฮวงจุ้ย 5 ธาตุ,หยินหยาง,มังกรเขียว เสือขาว
โต๊ะทำงานมาตรฐาน ดูเพิ่มเติม

 

        โต๊ะทำงาน สถานที่ตั้ง สภาพแวดล้อมที่เหมาะ มีโต๊ะเล็กทางฝั่งมังกร เข้ามาทางฝั่งเสือ จึงเหมาะกับ งานที่ปรึกษา ใช้ความคิด วางแผน เล่นหุ้น ทำงานสร้างโปรแกรม ซึ่งต้องการบรรยากาศที่โปร่ง และการมองออกไปทางฝั่งมังกร หมายถึงความกว้างขวางในสังคม ประสพการณ์และความรู้
  
                                                                 
ปากัว,หยินหยาง,ฮวงจุ้ยกับโครงสร้าง,ฮวงจุ้ยตำแหน่งมังกรเขียว
โต๊ะทำงานผู้บริหารหงุดหงิด ดูเพิ่มเติม
 

        มาดูห้องทำงาน/สำนักงานที่มีจุดบกพร่องบ้าง ลักษณะนี้คือ เต่าดำรั่ว คิดงานคนเดียว ทุนตัวเอง ลูกน้องไม่ได้ดังใจ ห้องกว้าง โต๊ะทำงานชิดใน คือ ตัดทางบริวารของตนเอง สิ่งที่โดดเด่นในห้องนี้ไม่ใช่โต๊ะทำงาน แต่เป็นวิว ดังนั้น ผู้บริหารท่านนี้จะไม่มีอำนาจในการสั่งการ โดนถกเถียงตลอด แถมได้นั่งไม่นาน ต้องมีเรื่องให้แก้ไขตลอด 

                                                                 
ปากัว,หยินหยาง,ฮวงจุ้ยตำแหน่งมังกรเขียว,อบรมฮวงจุ้ยพื้นฐาน
โต๊ะทำงานที่สมบูรณ์ ดูเพิ่มเติม
 

        โต๊ะทำงานที่บ้านควรมีขนาดกระทัดรัด ไม่จำเป็นต้องใช้โต๊ะใหญ่อย่างสำนักงาน ในขณะเดียวกัน ถ้าจะเป็นที่ทำงานในพื้นที่จำกัด ก็สามารถจัดแนวอบอุ่นนี้ได้เหมือนกัน เหมาะกับกิจการที่เพิ่งเริ่มต้น หรืองานสร้างสรรค์ ค้นคว้า  ถ้านักศึกษาได้สภาพแวดล้อมแบบนี้ไปไกลเลยค่ะ พร้อมด้วยตำแหน่งมังกร เต่าดำ และปิดปราณพอสมควร มีบรรยากาศที่ส่งเสริมในการทำงานครบ

                                                              
ปากัว,หยินหยาง,ฮวงจุ้ยกับตำแหน่งมังกร,อบรมฮวงจุ้ยพื้นฐาน,ฮวงจุ้ย
โต๊ะทำงานระดับผู้จัดการ ดูเพิ่มเติม
 

        เป็นโต๊ะทำงานระดับหัวหน้างานที่สัมพันธ์และคลุกคลีกับลูกน้อง มีอำนาจในตนที่ไม่ต้องแสดงออก มีความรับผิดชอบในงานที่เป็นงานของตนเองด้วย โดยไม่ต้องอาศัยมือลูกน้องทำมากเกินไป เช่น การออกแบบ งานเลขา รับจัดอีเว้นท์ ผู้จัดการสถานที่ ฝ่ายเซล งานระดับหัวหน้า ฝ่ายบริการ โรงแรม เป็นต้น เข้าทางฝั่งมังกร เพราะต้องออกตรวจสถานที่ หรือ พื้นที่ และใช้ความคิดมีลูกน้องตามงานให้ จึงตั้งคอมพิวเตอร์ฝั่งเสือ

                                                                  

ปากัว,หยินหยาง,ฮวงจุ้ยอาจารย์แอน,ฮวงจุ้ยตำแหน่งมั่นคง,ฮวงจุ้ยตำแหน่งมังกร
ฮวงจุ้ยสำนักงาน ดูเพิ่มเติม

        แถมท้ายบรรยากาศในห้องทำงานนี้กับห้องที่มีลักษณะยาว ซึ่งโดยปรกติห้องที่มีลักษณะยาว จะขาดพลัง ทางแก้ไข ต้องสร้างพลังระยะสั้น คือ สมบูรณ์ในตัวในแต่ละโต๊ะ คือ โทรศัพท์ คอม เหมาะกับอาชีพ Broker  ระบบการขาย การสั่งซื้อของใหญ่ๆ งานด้านกฏหมาย การรับเรื่องร้องทุกข์เป็นต้น

อบรมฮวงจุ้ยพื้นฐานตอนที่ 8 - ตำแหน่งต่างๆภายในบ้าน

Ajarn Ann,Sana-anong,Feng Shui,ฮวงจุ้ยร่ำรวย,ฮวงจุ้ยสำนักงาน
การแบ่งโซนของห้องที่ไม่ต้องแบ่งหรือกั้นห้องด้วยความสมบูรณ์ในตัว

                                                                                      

การจัดวางตำแหน่งต่างๆภายในบ้าน

         สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวเรา จะมีองค์ประกอบของ 5 ธาตุอยู่ตลอดเวลา ทั้งน้ำ ไม้ ไฟ ดิน ทอง สิ่งเหล่านี้ ล้วนมีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเราตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของที่เราใช้ นับแต่เสื้อผ้าที่สวมใส่ เป็นธาตุไม้ น้ำที่เราดื่ม ธาตุแข็ง คือ โลหะ ที่ทำให้สรรพสิ่งจับต้องได้ ให้ความรู้สึกที่หนักแน่น ความร้อน ความอบอุ่น จากบรรยากาศรอบๆตัวเรา หรือ การอุ่นอาหารจากธาตุไฟ

         สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างง่ายๆ ที่สามารถมองเห็นได้ นอกเหนือไปจากสิ่งที่แฝงอยู่รอบๆตัวเราที่มีองค์ประกอบของ 5 ธาตุ กล่าวได้ว่า ธาตุน้ำ คือ สายเลือดของมังกร  ธาตุไม้ คือ ลมหายใจของธรรมชาติ  ธาตุไฟ เป็นชีวิตของสรรพสิ่ง ธาตุดิน คือเลือดเนื้อของจักรวาล และธาตุทอง คือ กายของโลก และทุกธาตุต่างอยู่ร่วมกันผสมผสาน และปรับตัวปรับความสมดุล ระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับศาสตร์และศิลป์จากปรัชญาอันล้ำลึกนับพันปี ที่เน้นการสร้างสภาพแวดล้อม ทางธรรมชาติกับมนุษย์ ให้เกิดความสมดุล นำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต เราเรียกศาสตร์แขนงนี้ว่า  ศาสตร์ว่าด้วยชัยภูมิ หรือ ภูมิพยากรณ์

         ดังนั้น บ้านของเราจึงควรได้รับการจัดวางอย่างถูกต้อง เหมาะสมกลมกลืน เป็นสภาพแวดล้อมทางวัตถุ และตัวบุคคล ช่วยให้บ้านเป็นบ้านที่อยู่เย็นเป็นสุข และพบเจอแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต

         การจัดวางตำแหน่งใช้สอย นอกจากจะคำนึงถึงความเหมาะสม สภาพดิน ฟ้า อากาศ แล้ว เราต้องคำนึงถึง ความชอบของผู้อยู่อาศัย แล้วถึงจะมาพิจารณาตรวจสอบถึง ตำแหน่งต่างๆ ของห้อง รูปแบบบ้าน เสา คาน สถานที่ ทิศทางของบ้าน สภาพแวดล้อมภายนอกและภายใน ประตูอาคาร ประตูบ้าน ห้องนอน ห้องครัว สัมพันธ์กับผู้อยู่อาศัยหรือไม่ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลตอบรับกับสภาพแวดล้อมภายนอกตัวบ้านสู่ภายในตัวบ้าน

         ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ หากเราเข้าถึงมากเท่าไร และสามารถแก้ไขจัดวางอย่างเหมาะสมแล้ว เราจะรู้ซึ้งถึงคุณค่าอันล้ำเลิศของหลักวิชาฮวงจุ้ยที่แสดงออกมาให้ได้เห็นเป็นรูปธรรม ของสิ่งที่งดงามและ ความเป็นระเบียบ เรียบร้อย ของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ในอันที่จะหล่อหลอมความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้สมบูรณ์ ทั้งแสดงให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ที่ต้องเกื้อหนุนกัน และในทางกลับกัน จะเห็นการปรับความสมดุลด้วยการทำลายล้างด้วย

         บ้านประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป แต่ละส่วนนั้นล้วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันทั้งสิ้น ฉบับนี้เราจะมาดูว่า ส่วนต่าง ๆ ของบ้านนั้น ตามหลักฮวงจุ้ยที่เราควรรู้เพื่อการจัดวางให้เหมาะสมต่อไป

                                                                           
Ajarn Ann,Sana-anong,Feng Shui,ฮวงจุ้ยร่ำรวย.ฮวงจุ้ยบ้าน
ตำแหน่งต่างๆเพื่อการจัดวางที่เหมาะสม



         จากประตูทางเข้า คือ ความหมายของอาชีพ และอาชีพเป็นที่มาของทรัพย์ จึงเรียกว่า ประตูรับทรัพย์ จะทำฮวงจุ้ยร่ำรวย ก็มาที่ประตูก่อน คือ ประตูแห่งอาชีพ หรือ ประตูรับทรัพย์ ที่ต้องโอ่อ่า ถูกทิศ จะค่อนซ้าย ค่อนขวา ตรงกลาง ก็จัดเป็นประตูที่หมายถึงอาชีพ ที่ ต้องไม่ดูทรุดโทรม หรือ ถูกคุกคาม ธาตุประจำของตำแหน่งประตู ไม่ต้องดูทิศ คือ ธาตุน้ำ ประจำทิศเหนือ

         จากนั้นมองเข้าไปในบ้าน ตำแหน่งซ้ายด้านใน คือ ตำแหน่งมั่งคั่ง มั่นคง ใครที่ชอบคำว่า ฮวงจุ้ย ร่ำรวย ต้องไม่ละเลยตำแหน่งดี จัดวางตำแหน่งห้องที่ดี และสามารถเป็นห้องครัวได้ ตำแหน่งด้านนี้ ธาตุไม้ ประจำทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ต้องดูทิศจริงเช่นกัน

         ด้านซ้ายกลาง เป็นตำแหน่งครอบครัว คือความสมบูรณ์ ความสุข ความพรั่งพร้อมของครอบครัว ธาตุไม้ ตำแหน่ง ทิศตะวันออก

         ด้านมุมซ้ายล่างสุด เป็นตำแหน่งความรู้ การศึกษา ความกว้างในสังคม ธาตุดิน ครองทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

         มุมขวา ด้านใน เป็นตำแหน่ง สมรส และความปรองดอง ความสุขในชีวิตสมรส ธาตุดิน ครองทิศตะวันตกเฉียงใต้

         ด้านขวากลาง เป็นตำแหน่งบุตรหลาน บริวาร ธาตุทอง ครองทิศตะวันตก

         มุมขวา ล่าง คือ ตำแหน่งช่วยเหลือ ผู้อุปถัมภ์ ธาตุทอง ครองทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

         ส่วนทิศด้านในที่ตรงข้ามกับอาชีพ คือ ชื่อเสียง

         เราสามารถตรวจสอบได้ว่าตำแหน่งต่างๆนี้เสียหรือไม่ จากร่างกายของเรา เพราะทิศต่างๆที่ตำแหน่งเหล่านี้ครอบครองเกี่ยวพันธ์กับอวัยวะ
            ทิศเหนือ คือ หู ระบบเลือด
            ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ คือ ส่วนของมือ
            ทิศตะวันออก คือ ผม ขา
            ทิศตะวันออกเฉียงใต้ คือ ส่วนหนึ่งของสะโพก
            ทิศใต้ คือ ดวงตา
            ทิศตะวันตกเฉียงใต้ คือ อวัยวะภายใน และส่วนท้อง
            ทิศตะวันตก คือ ปาก
            ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ คือ ส่วนศรีษะ และสมอง

         นอกจากนี้ยังเกี่ยวพันกับรสชาดของอาหารอีกด้วย
            ทิศเหนือ มีรสเค็ม
            ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ รสเค็มจัด
            ทิศตะวันออก รสเปรี้ยว
            ทิศตะวันออกเฉียงใต้ รสเปรี้ยวจัด
            ทิศใต้ รสขม อาหารเผา
            ทิศตะวันตกเฉียงใต้ รสหวาน กลมกล่อม
            ทิศตะวันตก รสเผ็ด
            ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ รสเผ็ดจัด

         ดังนั้นการจัดวางตำแหน่งต่างๆ จึงต้องพิจารณาถึงตำแหน่งต่างๆให้ดี และถ้าย้อนอ่านทวนบทเรียนต้นๆ ยังเกี่ยวพันถึงบุคคลอีกด้วย เช่น พ่อบ้าน ประธานของบ้าน ควรมีห้องนอนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และครัวควรอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้เป็นต้น
เมื่อเราปวดศรีษะ แสดงว่าทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีปัญหา และอาจกระทบกระเทือนถึงผู้อุปถัมภ์ของเราอีกด้วย การเจรจาบางเรื่องอาจต้องเลื่อนไป
         โครงสร้างนี้มีความละเอียดในการจัดวางให้เหมาะสม เพื่อผลดีที่จะเกิดขึ้นต่อไป

         นอกจากนี้ยังมีส่วนอื่นๆที่ควรคำนึงถึง ที่จะไม่ทำลายตำแหน่งต่างๆที่กล่าวมา ดังนี้

เสา
         เสาทุกต้นที่อยู่ทั้งภายในและภายนอกห้อง นอกจากทำหน้าที่รับน้ำหนักทั้งหมดของบ้านแล้ว ยังมีอิทธิพลต่อผู้อยู่อาศัย เสากลางบ้าน พี่น้องทะเลาะกัน เสาเหลี่ยมเป็นเสาที่มีอันตรายมากที่สุด ทางทำเล แสดงถึง การล้มละลาย เสากลม มีพื้นที่ผิวราบเรียบ ช่วยให้กระแสพลังของชีวิตไหลผ่านได้ง่าย มีลักษณะที่ดีกว่าเสาที่เป็นเหลี่ยม ยิ่งเสาใหญ่มากเท่าไร ความรุนแรง ย่อมมีมากขึ้นเท่านั้น

คาน
         บ้านทุกหลังต้องมีคาน และมักจะก่อให้เกิดปัญหามากมาย ตำแหน่งของคานที่เห็นชัดเจน ไม่ได้ซ่อนอยู่ภายใต้ฝ้า จะมีผลต่อผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน
- คานที่มีขนาดใหญ่มาก ทำให้รู้สึกสร้างความกดดัน มีผลในทางลบกับผู้อยู่อาศัยและการทำงาน ทำให้เกิดปัญหาทางอารมณ์ และสุขภาพ
- คานที่อยู่เหนือหัวเตียง จะทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของห้องนอนปวดศีรษะอยู่เสมอ
- คานที่อยู่เหนือระดับช่องท้องผู้นอนทำให้รู้สึกปวดท้อง
- คานที่อยู่เหนือระดับข้อเท้า ทำให้เจ็บข้อ เจ็บเข่าอยู่เสมอ
- คานที่อยู่เหนือเตาไฟหรือโต๊ะรับประทานอาหาร โชคลาภมักถูกขัดขวางสูญเสียการเงิน

เพดาน
         เพดานห้องที่ต่ำไม่ได้สัดส่วน ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอึดอัด ส่งผลให้เกิดปัญหาทางด้านอารมณ์และความคิด ทำให้พลังชีวิตของผู้อยู่อาศัยอ่อนแอ เพดานที่ดีควรมีความสูงได้สัดส่วนพอเหมาะกับขนาดของห้อง

บันได
         บันไดมีความสำคัญในการนำพลังชีวิตเคลื่อนจากชั้นหนึ่งไปสู่อีกชั้นหนึ่ง ถือเป็นทางเดินของมังกร ต้องไม่ชัน ไม่แคบ ต้องมีความแข็งแรง มีความกว้าง ห่างจากเพดานด้วย
- บันไดวนเป็นบันไดที่อันตราย ทำให้พลังชีวิตสลาย และเป็นโรคหัวใจ
- บันไดควรอยู่ในตำแหน่งที่มองไม่เห็นจากบริเวณทางเข้า ไม่ชี้ตรงออกนอกประตู
- ไม่ควรให้บันไดมืด เพราะจะส่งผลให้กระแสพลังชีวิตถูกขัดขวาง
- บันไดไม่ควรจะวนไปด้านซ้าย ให้วนไปด้านขวา
- จำนวนขั้นบันได ควรเป็นเลขคี่เสมอ จะทำให้การเดินขึ้นลงบันได ไม่ติดขัด

พื้นต่างระดับ
         พื้นต่างระดับมีประโยชน์ในการแบ่งพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านออกเป็นสัดส่วน ดูมีความสวยงามในระยะสั้นๆ แต่การแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนๆ นั้น ทำให้การติดต่อสัมพันธ์กันน้อยลง มีผลเสีย เป็นการแบ่งสมาชิกในครอบครัวออกจากกัน ถ้าพื้นที่ต่างระดับ ด้านข้างต่ำกว่าด้านหน้า ผู้อาวุโสจะไม่ได้รับการเคารพ เป็นผลมาจากลำดับความสูงต่ำของพื้น ที่มีผลต่อพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัย ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว มีผลทางด้านอารมณ์ เกิดการฉุนเฉียวหงุดหงิดง่าย และทำให้เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว
การสร้างบ้านต่างระดับควรมีลักษณะหน้าต่ำ หลังสูง ตามโครงสร้าง เต่าดำด้านหลัง และหมิงถังด้านหน้า จัดเป็นทางรับทรัพย์

มุมห้อง
         มุมห้องที่ขาดหาย มีผลในทางลบกับผู้อยู่อาศัย ทำให้มีปัญหากับเรื่องราวไม่พึงประสงค์ต่างๆ โดยเฉพาะมุมแหลมที่อยู่ด้านใน มีลักษณะคล้ายใบมีดที่มีความคม เป็นภัยคุกคามบั่นทอนพลังชีวิตที่ดี ทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพและอารมณ์ เป็นความหมายของธาตุไฟที่รุนแรง และธาตุทองที่แหลมคม

         นอกเหนือจากนี้แล้วก็เป็นเรื่องของสี ที่แสดงถึงความสมดุลของ 5 ธาตุ ตลอดจนถึงการจัดวางสิ่งต่างๆที่จะได้กล่าวถึงในบทต่อไป

อบรมฮวงจุ้ยพื้นฐาน ตอนที่ 7 พลังชี่ ปราณ


พลังชี่หรือปราณชี่ หรือ ปราณ คือ ความว่างที่อยู่รอบๆตัวเรา และอยู่ภายในตัวเรา เป็นความว่างที่มีพลังในตัวที่เรามองไม่เห็น รวมอยู่ในสิ่งที่เราเรียกว่า อากาศ
คนจีน ถือว่า ชี่ หรือ ปราณ เป็นพลังชีวิต จีนกลางออกเสียงว่า “ชี่”
จีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า “ขี่”
และภาษาสันสกฤตใช้คำว่า “ปราณ”
คำว่า “พลังชีวิต” นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ชีวิตของมนุษย์เรา หรือชีวิตของสัตว์ของพืชเท่านั้น แต่คำว่า “ชีวิต” นี้ครอบคลุมไปทั่วจักรวาล คือ สรรพสิ่งที่มีชี่อยู่รอบๆและเป็นพลังแฝงแทรกอยู่ มนุษย์ทุกคน สัตว์ทุกตัว ต้นไม้ทุกต้น ก้อนหิน แม่น้ำ ก้อนเมฆ แม้กระทั่งวัตถุสิ่งของ ทุกสิ่งทุกอย่างมีชีวิตและมีชี่ไหลเวียนอยู่ในตัวเองทั้งสิ้น


Ajarn Ann,Sana-anng,Feng shui,ฮวงจุ้ยที่อยู่อาศัย,ฮวงจุ้ยร่ำรวย
ไม้   คือ ลมหายในของธรรมชาติ ดึงปราณของ ดิน สู่ฟ้า ดูเพิ่มเติม

 
                                              


ชี่ เป็นพลังงานที่เคลื่อนไหว ไม่อยู่นิ่ง จึงจัดเป็น ชี่ ที่มีชีวิต และพลอยทำให้บรรยากาสรอบๆมีชีวิต ชี่ของสิ่งหนึ่งจะแลกเปลี่ยนถ่ายโอนสลับที่กับชี่ของอีกสิ่งหนึ่งเสมอ
ดังนั้นในคัมภีร์อี้จิง จึงกล่าวว่า สรรพสิ่งในจักรวาลนี้ ไม่มีอะไรหยุดนิ่ง ไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรไม่เชื่อมโยงกัน และไม่มีอะไรไม่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน

คนส่วนมากบอกว่า ชี่ คือ อากาศ คือ ลมหายใจ เราจึงคุ้นกับคำว่า “ลมปราณ” และลมเป็นคุณสมบัติหนึ่งของชี่ แต่นอกจากลมหรืออากาศแล้ว ชี่ยังมีคุณสมบัติเป็นคลื่น เป็นพลังงานที่มองไม่เห็นอีกหลายรูป โยคะศาสตร์ของอินเดียและชี่กงของจีน เชื่อเหมือนกันว่าพลังทางร่างกาย พลังจิต และพลังความคิด ล้วนก่อเกิดจากพลังชี่หรือพลังปราณทั้งสิ้น

ดังนั้นหากต้องการให้ร่างกายแข็งแรง ก็ต้องทำชี่ให้แข็งแรง หากต้องการให้จิตใจเข้มแข็ง ก็ต้องปรับชี่ให้มีกำลัง และหากต้องการให้เกิดปัญญาทางความคิด ก็ต้องบ่มเพาะให้ชี่ไปบำรุงสมองได้เต็มที่

นอกจากพลังทางกายภาพ พลังจิต และพลังความคิด จิตวิญญาณก็เป็นพลังชี่อีกรูปหนึ่งด้วย สิ่งมีชีวิตเมื่อตายลง ชี่ส่วนหนึ่งจะอ่อนแรงและแปรรูปไป แต่ชี่ไม่ได้สลายหรือสูญไปเหมือนกับร่างกายที่เน่าสลายหายไป ชี่ของชีวิตที่ตายลง จะเลื่อนไหลไปปะปนกับกระแสชี่อื่น ๆ อย่างต่อเนื่องไปไม่สิ้นสุด จึงสามารถกล่าวได้ว่า วิญญาณคือรูปหนึ่งของชี่ และกระแสกรรมก็เป็นรูปหนึ่งของกระแสชี่เช่นกัน

ในคัมภีร์อี้จิงเก่าแก่ของจีน กล่าวว่าคนเราสัมพันธ์กับชี่ ๓ ประเภท หรือ พลังทั้ง ๓ คือ
พลังชี่ของ
ฟ้า หรือ สวรรค์
พลังชี่ของ
ดิน หรือ ของโลก
และพลังชี่ของ
มนุษย์ 

 

๑. พลังชี่ของฟ้าหรือชี่สวรรค์ คือพลังธรรมชาติที่อยู่บนท้องฟ้าและในจักรวาล เช่น พลังจากดวงอาทิตย์ แรงดึงดูดจากดวงจันทร์และดวงดาว

๒. พลังชี่ของ ดิน หรือ ของโลก คือพลังงานที่เกิดจากลม พายุ สายฝน ก้อนเมฆ และอากาศทั้งหมด คือ พลังธรรมชาติที่อยู่บนโลก ทั้งบนดินและใต้ดิน ก้อนหิน ดินทราย สายน้ำ แร่ธาตุ ต้นไม้ และสัตว์ต่าง ๆ

๓. พลังชี่ของมนุษย์ คือพลังชีวิตของคนเรา

แม้ว่าจะมีการแบ่งประเภทของชี่ออกเป็นพลัง ๓ ประเภท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ชี่ของฟ้าจะแยกขาดจากชี่ของดิน หรือชี่ของมนุษย์จะไม่เกี่ยวข้องกับชี่ฟ้าและชี่ดิน ชี่ทั้ง ๓ มีความสัมพันธ์และทำปฏิกริยาต่อกันอย่างแยกกันไม่ขาด ชี่ของสิ่งหนึ่งสมดุล ชี่ของสิ่งอื่นก็ดีไปด้วย ชี่ของสิ่งหนึ่งไม่สมดุล ผลกระทบก็จะเกิดต่อชี่ของสิ่งอื่นด้วยเช่นกัน ดังนั้นความสงบสุขและความมีสุขภาพดีของทุกชีวิตในจักรวาล จึงขึ้นอยู่กับความสมดุล ความผสมผสานกลมกลืน และการแลกเปลี่ยนกันอย่างพอดิบพอดี ระหว่างชี่ของตัวเองกับชี่ของสิ่งแวดล้อม จึงเป็นที่มาของ ชี่ภายใน กับ ชี่ภายนอก
ชี่ ทุกชนิดพยายามรักษาและปรับสมดุลในตัวเองตามธรรมชาติ เช่น


      เมื่อใดที่ชี่สวรรค์เสียสมดุล ธรรมชาติจะปรับดุลด้วยปรากฏการณ์ต่าง ๆ เช่น เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง อากาศและฤดูกาลแปรปรวน

       เมื่อใดที่ชี่ของดินหรือชี่โลกเสียสมดุล โลกก็จะปรับดุลด้วยการขยับตัว เกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วม ดินถล่ม

       ชี่ของคนสัตว์ต้นไม้ก็เช่นกัน เมื่อใดเสียสมดุล ธรรมชาติก็ปรับด้วยการทำให้อ่อนแอเจ็บป่วยและตายไป เพื่อเปิดโอกาสให้ชีวิตอื่นได้ดำรงอยู่ หรือเพื่อให้ชี่ที่เสียสมดุลนั้น หมุนเวียนกลับมาเกิดเป็นวัฏจักรชีวิตใหม่ที่สมดุลขึ้นอีกรอบหนึ่ง

ชีวิตมนุษย์เรา เป็นส่วนหนึ่งในปรากฏการณ์ปรับสมดุลของธรรมชาติ เมื่อใดที่ชี่ของฟ้าป่วย เราก็ป่วย เมื่อใดที่ชี่ของดินป่วย เราก็ป่วย และเมื่อใดที่ชี่ของสิ่งมีชีวิตอื่นป่วย เราก็ป่วยด้วย


ดังนั้น ตัวเรา ที่อยู่อาศัยของเราจึงมีความสัมพันธ์กับธรรมชาติที่อยู่รอบๆตัวเราอย่างลึกซึ้ง
เนื่องจากจักรวาลและโลกเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทำให้กระแสชี่ของทุกสิ่งทุกอย่าง ยักย้ายถ่ายเทจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งตลอดเวลาด้วยเหมือนกัน ชี่ของสิ่งหนึ่งจะถูกดึงและถูกดูดจากชี่ของอีกสิ่งหนึ่งเสมอ ตรงไหนหลวมหรือพร่อง ชี่อื่นก็จะไหลเข้ามาแทนที่ ตรงไหนแน่นหรือล้น ชี่ก็จะกระจายออกไปแทรกรวมกับชี่อื่น
หลักการนี้สามารถยกตัวอย่างให้เห็นง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น เมื่อไรที่ชี่ฝ่ายแข็งแรงภายในร่างกายของเราพร่องลง ก็จะถูกชี่เชื้อโรคแทรกเข้ามาแทนที่ เมื่อไรที่ชี่ในจิตใจเราอ่อนแอ ก็จะถูกชี่อารมณ์ของคนอื่นแทรกแซงได้ง่าย เมื่อไรที่ชี่ในสมองของเราพร่อง ปัญญาความคิดใหม่ ๆ ก็จะไม่เกิด ในคัมภีร์เต๋าโบราณของจีนระบุว่า หากชี่กายอ่อนแอ ชี่ของจิตหรืออารมณ์ ก็จะอ่อนแอด้วย เมื่อชี่จิตอ่อนแอ ก็ไม่สามารถส่งชี่ไปบำรุงปัญญา เมื่อชี่ปัญญาไม่มีเรี่ยวแรง จิตวิญญาณหรือเสิน ก็ไม่สามารถปฏิสนธิ เมื่อเป็นเช่นนี้ ดวงวิญญาณของคนนั้น ก็จะไม่ได้รับการขัดเกลาและพัฒนาให้สูงขึ้น
      
ตำราชี่กงโบราณของจีนบอกว่า เราสามารถประเมินสุขภาพของตัวเองได้ด้วยการฝึก ความสังเกตและรับรู้ คือการสังเกตตรวจสอบตัวเองอย่างละเอียดทั้งภายนอกคือร่างกายและสิ่งแวดล้อม และภายในคืออารมณ์และความคิดนั่นเอง

ตัวอย่างเช่น นั่งนาน ๆ ขาเกิดชาหรือเมื่อยขึ้นมา อาการชาและปวดเมื่อยเป็นเพราะชี่ในร่างกายไม่หมุนเวียน บอกเราว่าถึงเวลาต้องลุกออกไปเดินยืดเส้นยืดสายให้ชี่ไหลเวียนเสียบ้างแล้ว
เมื่อเราอยู่ในห้องปรับอากาศนาน ๆ ถ้ารู้สึกอึดอัดหายใจไม่สะดวก หรือรู้สึกว่าผิวหนัง ลำคอ หรือโพรงจมูกชักจะแห้ง แสดงว่าชี่ได้ส่งสัญญาณมาบอกเราว่า ขณะนี้ชี่ในห้องนี้ชักจะไม่ดีแล้ว ควรเดินออกไปนอกห้อง หาที่โล่ง ๆ ที่มีลมพัดผ่าน และมีต้นไม้ใบหญ้า เพื่อเราจะได้ปรับชี่ของตัวเราเข้ากับชี่ของฟ้าและดินเสียหน่อยค่อยกลับเข้า มาทำงานต่อ

ช่วงไหนที่เราหมกมุ่นอยู่กับตัวเองมากเกินไป จนจิตใจห่อเหี่ยว เบื่อหน่าย เซ็ง หดหู่ซึมเศร้า อาการเหล่านี้เป็นเสียงของชี่ที่สื่อสารกับเราว่า ชี่ภายในของเรากำลังบกพร่อง อาจจะมีชี่บางอย่างมากไปหรือน้อยไปในตัวเรา เช่น ชี่หยินอาจมากไป ชี่หยางอาจน้อยไป ถึงเวลาที่เราควรออกไปทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนชี่กับชีวิตอื่น ๆ บ้าง

โดยทั่วไปหากจิตใจไม่นิ่งพอ เราจะแปลสัญญาณหรือจับสังเกต ชี่ ไม่ออก ก็จะเกิดสิ่งที่ตามมา คือเกิดโรคภัย เมื่อเรายิ่งอ่อนแอ เราก็จะยิ่งขี้เกียจออกกำลัง เมื่อเรายิ่งอ้วน เราก็ยิ่งหิวบ่อย เมื่อเรายิ่งหงุดหงิด เราก็ยิ่งมองหาเหยื่อให้ระบายโทสะ ยิ่งเราซึมเศร้า เราก็จะยิ่งเก็บตัวไม่อยากเจอหน้าใคร อาการที่หนักขึ้น ๆ คือ สัญญานของชี่ภายในที่เสื่อมลง

วิถีชีวิตสมัยใหม่ ทำให้ผู้คนลืมความเชื่อมโยงระหว่างชี่ของตัวเองกับชี่ของจักรวาล และชี่ของโลก หรือ ฟ้า กับ ดิน และลืมความสำคัญของคำว่า ชี่ หากลืมนาน ๆ เข้า ชี่ภายในของเราก็จะสึกหรอเสียสมดุล อาการป่วยกาย ป่วยใจ ป่วยปัญญา ก็จะปรากฏขึ้น

พูดง่าย ๆ ว่าในชีวิตประจำวัน แม้จะต้องทำงานประจำที่วุ่นวาย ในสถานที่ที่ไม่เป็นธรรมชาติ แต่เราก็สามารถรักษาชี่ให้สมดุลได้ ด้วยการหมั่นฝึกสังเกตตัวเอง อย่าปล่อยให้การงานหรือกิจกรรมสังคมรัดตัวเสียจนละเลยตัวเอง

ชี่ หรือพลังชีวิตนั้น มีอยู่รอบ ๆ ตัวไม่ว่าจะอยู่ในเมืองใหญ่หรือชนบท ถ้าอาศัยอยู่ในอาคารใหญ่ ก็หมั่นเดินออกมาหายใจในที่โล่ง ๆ บ้าง แทนที่จะเข้าออกห้องแอร์ตลอดวัน หาเวลาไปเดินเล่นดูพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำแทนการไปช้อปปิ้งบ้าง ไปออกกำลังกายในสวนสาธารณะแทนการออกกำลังกายในฟิตเนสบ้าง ลองตัดกิจกรรมบันเทิงยามค่ำคืนให้น้อยลง เข้านอนไม่ดึกมากและตื่นให้ทันสูดอากาศสดชื่นตอนเช้ามืด ลองเจียดเวลาดูหนังฟังเพลงหรือปาร์ตี้ มาทำกิจกรรมที่ได้อยู่กับความเงียบและสมาธิบ้าง เช่น วาดรูป งานช่างงานฝีมือ และลองออกกำลังกายแบบเคลื่อนไหวช้าที่ช่วยฝึกสมาธิ เช่น ชี่กง โยคะ หรือไท้เก๊ก สลับการการออกกำลังกายแบบเคลื่อนไหวเร็ว ๆ ที่คุ้นเคยบ้าง

การปรับสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยปรับชี่ภายในของเราให้สมดุลกับชี่ภายนอก ทำให้ชี่ในตัวเราประสานกับพลังชี่ทั้ง ๓ คือชี่ฟ้า ชี่ดิน และชี่มนุษย์อย่างพอดี คือ ความหมายที่แท้จริงของ ชี่ภายนอก ภายใน ที่ต้องสมดุลกัน


Ajarn ann,Feng Shui,Sana-anong,ฮวงจุ้ยสำนักงาน,ฮวงจุ้ยร่ำรวย

เป็นรูปที่สมบูรณ์ทางฮวงจุ้ย และมีพลังปราณชี่ที่แข็งแกร่ง เรียกว่า มังกรซ่อนกาย เขาที่อยู่ด้านหลังที่มียอดซ้อน กันหลายๆยอด คือ เขาเกล็ดมังกร มังกรไม่เห็นหัว ไม่เห็นหาง จึงเรียกว่าซ่อนกาย เป็นรูปแสดงถึง ปัญญา อำนาจ บารมี และทรัพย์ มักจะติดไว้ตรงบันได เพราะบันไดถือเป็นทางเดินของมังกร หรือติดหลังโต๊ะทำงาน ห้องทำงาน ห้องประชุม
                                                       ดูเพิ่มเติม