ฮวงจุ้ยกับสภาพแวดล้อม
โดย อาจารย์แอน
ในศาสตร์โบราณได้จดบันทึกไว้ว่า คนเกิดวัน เดือน ปีไหน ควรจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน ธาตุอะไร ทิศทางเป็นอย่างไร เรียนรู้เพื่อจัดปรับแต่งให้สมดุลระหว่างตัวบุคคลกับสภาพแวดล้อม
แต่ความประพฤติ สติ เป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต ถ้าเราประพฤติดีมาตลอด มีจิตใจที่สมดุล การปรับทำเลสิ่งแวดล้อมไม่จำเป็นต้องมีผู้ใดมาชี้แนะ เพราะมันจะส่งผลให้คิดและเลือกจัดสิ่งของต่าง ๆ ให้เหมาะและสมดุลกับตัวบุคคลนั้นไปเอง
คนเราเมื่อคิดดี ย่อมได้ผลดี เข้าสำนวนที่ว่า ทำเลร้ายไม่ทำลายคนดี และหากคิดว่าสิ่งที่ทำไปแล้วนั้นยังไม่ดี สามารถเพิ่มเติมให้เกิดความสมดุล จนกระทั่งบางครั้งมันเกิดการข่มกันเองและแก้ไขกันไปเองได้เหมือนกัน
แต่ถ้าคนไม่ดีไปอยู่ในที่ดี แต่จิตใจไม่ดี ในความไม่ดีนั้นมันก็จะทำตัวเหมือนแม่เหล็กที่คอยดูดเอาของไม่ดีเข้ามาหา อยู่เรื่อย ๆ ผลคือสภาพแวดล้อมที่ดีนั้น พลอยเสียไปด้วย กลายเป็นไม่ดี
ดังนั้น ดวงชาตา ความประพฤติ และสภาพแวดล้อม จึงจำเป็นต้องสัมพันธ์กัน ในการตรวจสอบ เราต้องทราบวงจรชีวิตของเราว่า ณ ช่วงเวลาใดที่ชีวิตของเราดีที่สุด เราปฏิบัติตนอย่างไร อยู่บ้าน หรือมีสิ่งแวดล้อมอย่างไร แล้วจึงนำมาเปรียบเทียบกับสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงมากน้อยขนาดไหน ที่ทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลง
เราจะพบว่า สภาพแวดล้อมเปลี่ยนคนเปลี่ยน และมีผลกับอิทธิพลชีวิตเรา
ก่อนเข้าบ้าน ผ่านตลาด เราต้องแวะซื้ออาหาร
ก่อนเข้าบ้านผ่านสนามออกกำลังกาย เราก็ชอบออกกำลังกาย
ก่อนเข้าบ้านเป็นสถานศึกษา บุตรหลานย่อมรักเรียน
มารดาของปราชญ์เม่งจื้อต้องย้ายบ้านถึงสามครั้งถึงสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกชาย
อย่าเพิ่งเบื่อทฤษฏี ก่อนเข้าเรื่องชัยภูมิ จำเป็นต้องรู้ความสำคัญของสภาพแวดล้อม และวิธีสังเกตให้ดี เป็นเรื่องละเอียด ใจเราต้องละเอียดถึงจะจับสังเกตความผิดปกติที่อยู่รอบๆ และจะส่งผลถึงตัวเรา จะแก้ไขทำเลก็ต้องดูสภาพแวดล้อมด้วยว่า ขัดกันหรือเปล่า
การแก้ไขทำเล จึงต้องมีหลัก แก้ไขตน ที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อม ทั้งหมดต้องกลมกลืน มีจุดเด่นข่มจุดด้อยเมื่อเข้าใจถึงตอนนี้โดยคร่าวๆ ถึงจะเข้าเรื่อง 5 ธาตุต่อไป